xs
xsm
sm
md
lg

ศอ.บต.เปิดตัวยุทธศาสตร์ “ครัวอาหารจังหวัดชายแดนภาคใต้..สู่ครัวจีนและครัวโลก”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ยะลา - ศอ.บต.เปิดตัวยุทธศาสตร์ “ครัวอาหารจังหวัดชายแดนภาคใต้..สู่ครัวจีนและครัวโลก” หวังขับเคลื่อนเมืองต้นแบบ สร้างงาน สร้างอาชีพประชาชน และคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชนเต็มรูปแบบ

วันนี้ (6 มิ.ย.) ที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมืองยะลา จ.ยะลา นำโดย นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศ และต่างประเทศ จับมือพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก มุ่งเน้นการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำงานร่วมกัน ภายใต้เป้าหมาย และแนวทางการทำงานแบบ “คิดร่วมกัน ทำร่วมกัน รับผิดชอบร่วมกัน เพื่อรังสรรค์ประโยชน์สุขสู่ใจประชาชน” ใช้มิติการค้าระหว่างประเทศรุกตลาดการค้าประเทศจีน พร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจทั้งระบบ เปิดตัวยุทธศาสตร์ล่าสุด “ครัวอาหารจังหวัดชายแดนภาคใต้..สู่ครัวจีนและครัวโลก” หวังขับเคลื่อนเมืองต้นแบบฯ สร้างงาน สร้างอาชีพประชาชน และคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชนเต็มรูปแบบ
 

 
นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา การบริหารและขับเคลื่อนโดยคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน การขับเคลื่อนโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” โดยนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนฯ และการประสานงานและเร่งรัดกำกับโดยหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร ทำให้วันนี้ การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประชาชนได้รับการขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติอย่างรวดเร็ว เป็นรูปธรรม สอดรับต่อเป้าหมายของโครงการเมืองต้นแบบฯ

โดยมีศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.เป็นแกนกลางประสานและบูรณาการการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน พร้อมกันนี้ เน้นย้ำข้อแนะนำของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ปี พ.ศ.2560 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง ถ้าต้องการให้ประเทศพัฒนาก้าวหน้าขึ้น ต้องเริ่มที่คน หรือประชาชนต้องเปลี่ยนแปลงทางความคิด เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศให้ได้ ต้องสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน
 

 
นายศุภณัฐ ยังกล่าวอีกว่า ความสำเร็จในวันนี้ต้องขอขอบคุณ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะแกนหลักสำคัญการขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านปศุสัตว์เขต 9 ปศุสัตว์จังหวัด ปศุสัตว์อำเภอ และหน่วยงานในสังกัดทุกหน่วยงาน รวมทั้งการระดมทรัพยากรทางการบริหารและการทำงานที่จำเป็น เพื่อให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรมภายใต้ปีงบประมาณ พ.ศ.2560 และต่อเนื่องไปในวันข้างหน้า เพื่อยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ผ่าน “เมืองปศุสัตว์” จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เป็นข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา

ความร่วมมือครั้งนี้จะมีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยเกษตร และอื่นๆ ที่เข้ามาร่วมสนับสนุนการพัฒนาองค์ความรู้ การศึกษาวิจัย การถอดบทเรียนการทำงานเพื่อนำไปถ่ายทอดขยายผลสู่เกษตรกรในพื้นที่ โดยหวังผลในเชิงคุณภาพ เพื่อให้อาชีพปศุสัตว์เป็นอาชีพของประชาชนอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน นำไปสู่การยกระดับเป็นปศุสัตว์มืออาชีพในอนาคต พร้อมกับเครือข่ายภาคประชาชนทั้งในส่วนของเครือข่ายประชาชน และภาคประชาสังคม เช่น สมาคมพัฒนาสังคม ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญการทำงานเศรษฐกิจฐานรากไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในระดับครัวเรือน
 

 
สำหรับการขับเคลื่อนงานเพื่อไปสู่ความต่อเนื่อง และยั่งยืนนั้น ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเห็นชอบร่วมกันที่จะดำเนินการภายใต้แนวทาง “สหกรณ์ประชารัฐ” เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็น “สถาบันเกษตรกรประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและการพัฒนาบนพื้นฐานประชาชนมีส่วนร่วม

ซึ่งเป็นคำตอบสำคัญของการขับเคลื่อนงานไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากทั้งระบบ ที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ขับเคลื่อนการทำงานมานับตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติเป็นหลักการ การเชื่อมโยงทั้งหมดทั้งกระบวนการผลิตต้นทาง กลางทาง และปลายทาง รวมทั้งการพัฒนาระบบสนับสนุนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และจำเป็น ทั้งหมดเพื่อให้การพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปอย่างก้าวหน้า สะท้อนความต้องการของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม

การทำงานที่สำคัญในวันนี้ต้องขอขอบคุณสมาคมสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย-จีน ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการรุกตลาดการค้าไปในประเทศจีนที่มีกำลังการบริโภคสูงมาก ผ่านโครงการสำคัญที่จะเร่งรัดผลักดันให้เกิดขึ้นพร้อมกัน คือ งานวิจัยเรื่อง “รสชาติอาหารใต้ที่ถูกลิ้นคนจีน” ที่ผลลัพธ์การศึกษาวิจัยจะเป็นการสร้างมาตรฐานให้แก่นักธุรกิจ ผู้ผลิต หรือกลุ่มเป้าหมายให้มีความเชื่อมั่นว่าอาหารไทยจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็น “โอกาสทองทางธุรกิจ” และมีประสิทธิภาพในการเจาะตลาดการค้าในประเทศจีนได้อย่างแท้จริง เป็นรูปธรรม และสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ภายใต้แผนการขับเคลื่อนที่สร้างรายได้ให้แก่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่น้อยกว่า 4.5 พันล้านบาทต่อปี และงานวิจัย เรื่อง “เส้นทางอาหารไทยจังหวัดชายแดนภาคใต้ในเมืองหลักของประเทศจีน” ได้แก่ เมืองปักกิ่ง เมืองเซี่ยงไฮ้ เมืองเฉิงตู เมืองคุนหมิง เมืองซีอานและเมืองหนิงเซี๋ย ซึ่งมีประชากรรวมกันกว่า 1,000 ล้านคน
 

 
พร้อมกันนี้ จะมีการทำพันธมิตรเมืองพี่เมืองน้อง (Brother-Wood Cities) ทั้ง 6 เมือง กับจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งหมด เพื่อยกระดับโครงการอาหารไทยฯ ได้รับคุณค่า และความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน ผู้ประกอบการแ ละผู้ผลิต รวมทั้งกลุ่มนักธุรกิจชาวจีนสามารถเข้าใจสินค้าจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเกิดการนำเข้าสินค้าเพื่อสร้าง Supply Chain เกิดการบริโภคอย่างต่อเนื่องต่อไป

ซึ่งผู้บริหารจีนที่มาเยือนจังหวัดชายแดนภาคใต้ในวันนี้ เป็น 4 พ่อครัวหลักของประเทศจีนที่คุมกำลังการสั่งซื้อวัตถุดิบประกอบอาหารจากประเทศต่างๆ และมีความสนใจผลิตผลในพื้นที่หลากหลายรายการ เช่น ไก่เบตง ปลากือเลาะห์ มะพร้าว กล้วย เป็นต้น โดยวัตถุดิบทางอาหารทั้งหมดนี้จะมีการนำไปพัฒนาเป็นอาหารเฉพาะเพื่อการส่งออกไปยังประเทศจีน รวมทั้งจะมีร้านอาหารไทยฮาลาลแห่งแรก พร้อมบูธอาหารไทยฮาลาลในทั้ง 6 เมืองนี้เช่นกันภายในปีนี้
 

 
ทางด้าน น.ส.วนัสนันท์ กนกพัฒนางกูล ผู้วิจัยและผู้แทนสมาคมสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย-จีน เปิดเผยว่า ในพื้นที่ภาคใต้มีความอุดมสมบูรณ์ด้านทรัพยากรหลากหลายอย่าง อาหารทางภาคใต้ ก็เป็นอาหารที่มีเสน่ห์ การเลือกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เพื่อมาหาความลงตัวของอาหารของภาคใต้ และคนจีนมารวมตัวกันได้อย่างไร ซึ่งอาหารบางอย่างหากจะนำเสนอให้คนต่างชาติได้เห็น หรือลิ้มลองรสชาติก็จะต้องมีปรับปรุง หรือพัฒนาให้เกิดความลงตัวมากขึ้น และอีกอย่างหนึ่งที่เลือกอาหารภาคใต้ เพื่อจะเปิดครัว หรือร้านอาหารที่ประเทศจีน เพราะในพื้นที่ภาคใต้มีชาวมุสลิมเป็นจำนวนมาก เราจึงมีโจทย์ที่จะไปเปิดร้านอาหารไทยมุสลิมแห่งแรกในประเทศจีน และต่อยอดด้วยการนำนักศึกษาในพื้นที่ไปฝึกประกอบอาหารที่ประเทศจีน เพื่อให้มีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ นาย ZHANG JIAN รองประธานกรรมการเลขาธิการสมาคม Sichuan Cuisine Culture Development Foundaction. ระบุว่า การร่วมมือกับ ศอ.บต.เพื่อส่งเสริมสินค้าการเกษตร และพัฒนาเศรษฐกิจของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนำเอาวัตถุเหล่านั้นเข้าไปเป็นส่วนผสมในร้านอาหารจีน หรือพัฒนารูปแบบสินค้าในการโปรโมต โดยความร่วมมือกับสมาคมสาขาย่อยในการจัดเสนออาหารของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้คนจีนได้เข้าถึง และให้คนภาคใต้ได้เข้าถึงประเทศจีน โดยการร่วมมือกันในการพัฒนาอาหารในประเทศจีน
 
กำลังโหลดความคิดเห็น