นครศรีธรรมราช - แม่ยินยอมให้พ่อนำศพสามเณรปลื้ม กลับภูมิลำเนาแล้ว หลังเกิดการแย่งศพในลานวัด ขณะที่ตำรวจไล่อายัดบัญชีเงินฝากของผู้ต้องหาต่อเนื่อง
วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช ภายหลังจากวานนี้ นางกัลยา ทิมกระโทก มารดาของสามเณรปลื้ม หรือศุภโชค เอกเกียรติกุล มาดักรอแย่งศพสามเณรในขณะที่ นายชวน เอกเกียรติกุล บิดาของสามเณรนำศพกลับมาจากการชันสูตรที่ศูนย์นิติเวช จังหวัดสุราษฎร์ธานี และนำศพมาแวะที่วัดวังตะวันตก อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อประกอบพิธีเรียกวิญญาณกลับบ้านไปพร้อมกับศพ
เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อฝ่ายมารดาเข้ากระชากแย่งศพลงมาจากรถของหน่วยกู้ภัย จนเจ้าหน้าที่ต้องเชิญตัวทั้งคู่ไปสงบสติอารมณ์ และไกล่เกลี่ยที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช กว่า 3 ชม.ขณะที่ศพของสามเณรปลื้ม ได้รับการสวดอภิธรรมเป็นคืนแรกที่วัด โดยพระครูพรหมเขตคณารักษ์ รักษาการเจ้าอาวาสที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งใหม่ให้การช่วยเหลือในการสวดศพภายในศาลาการเปรียญของวัด แต่ในที่สุด ทั้งนายชวน และนางกัลยา สามารถตกลงกันได้ นางกัลยา ยินยอมที่จะให้นายชวน นำศพของสามเณรกลับไปยังภูมิลำเนาได้
ส่วนภายในวัดนั้น พระครูพรหมเขตคณารักษ์ รักษาการเจ้าอาวาส ได้เปิดพื้นที่วัดทั้งหมดให้ญาติโยมเข้ามาใช้พื้นที่จอดรถได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย จนกว่าจะมีคณะกรรมการวัด และข้อสรุปในการแก้ไขปัญหาทุกอย่างภายในวัดให้แล้วเสร็จ เช่นเดียวกับพื้นที่แผงพระเครื่องที่อยู่ในระหว่างการสอบทานข้อมูลด้านต่างๆ เนื่องจากภายในวัดไม่มีเอกสารใดๆ หลงเหลือ รวมทั้งบัญชีเงินฝากธนาคาร
ขณะที่ความคืบหน้าในการดำเนินการสอบสวน พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ทีมสืบสวนสอบสวนเข้าสืบสวนเส้นทางการเงินของ น.ส.ปิยฉัตร อรุณสกุล หรือบิว และนายเด่นชัย ภูมินิยม 2 สามีภรรยาที่ตกเป็นผู้ต้องฆาตกรรมสามเณรในขณะนี้ รวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้สามารถอายัดบัญชีของทั้งคู่ไว้ก่อนแล้ว มีวงเงินหมุนเวียนอยู่ในบัญชีหลายล้านบาท
โดยต้องสอบสวนว่าเงินจำนวนนี้ผู้ต้องหาได้มาอย่างไร เกี่ยวข้องต่อวัดหรือไม่ ซึ่งอาจนำไปสู่การยึดทรัพย์เพื่อนำส่งคืนวัด ส่วนการยื่นประกันตัวของผู้ต้องหานั้น ปรากฏว่า ศาลได้พิจารณายกคำร้อง ทำให้ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ถูกนำตัวไปควบคุมที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ตามคำร้องของพนักงานสอบสวน