xs
xsm
sm
md
lg

จ่อโกอินเตอร์! หนุ่มสตูลสายเลือดเกษตรกร หันเพาะ “มูลไส้เดือน” ขายรายได้งาม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
สตูล - “มูลไส้เดือน” จ่อโกอินเตอร์! หนุ่มคอมพิวเตอร์สายเลือดเกษตรกรชาว จ.สตูล หันเลี้ยงไส้เดือนขายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ และมูล เตรียมเดินหน้าเจาะตลาดมาเลเซีย เผยรายได้งามอนาคตสดใส

วันนี้ (3 มิ.ย.) “ฟาร์มไส้เดือน” อาจไม่ใช่แค่ฝันเล็กๆ ในสวนหลังบ้านสำหรับมนุษย์เงินเดือนอีกต่อไป หากเลี้ยงจริงจังจนทำรายได้หลักหมื่น แต่ต้องสะสมองค์ความรู้เกี่ยวกับไส้เดือน และมีความตั้งใจสูง จึงจะประสบความสำเร็จได้

แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการเกษตร เมื่อกล่าวถึงปุ๋ย “มูลไส้เดือน” โดยเฉพาะเกษตรอินทรีย์ที่ต้องใช้วัตถุดิบเพาะปลูกจากธรรมชาติทั้งหมด ซึ่งมูลไส้เดือนจะมีคุณภาพ และประสิทธิภาพมากกว่าปุ๋ยคอกมาก อีกทั้งในมูลไส้เดือนยังมีจุลินทรีย์ที่ช่วยในเรื่องการเจริญเติบโต และปลดปล่อยธาตุอาหารให้แก่พืช

มูลไส้เดือน จึงเป็นอีกทางเลือกของเกษตรปลอดสารพิษ ที่ จ.สตูล มีเกษตรกรหนุ่มที่มุ่งมั่นจะประกอบอาชีพเพื่อดูแลครอบครัว โดยต่อยอดจากอาชีพของครอบครัวทำสวนยางพาราเป็นหลัก แต่ระยะหลังราคาที่ผันผวน ทำให้ นายไพฑูรย์ ไชยรักษ์ อายุ 32 ปี ลูกคนกลางของครอบครัว จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะสารสนเทศศาสตร์ ปัจจุบันประกอบอาชีพทำงานเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านทางโทรศัพท์ที่รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย มานาน 8 ปี สำหรับการทำงานที่ไปมาระหว่างประเทศมาเลเซีย กับ จ.สตูล
 

 
จนมีแนวคิดที่อยากจะกลับมาอยู่บ้านดูแลพ่อแม่ และทำเกษตรบนพื้นที่ที่พ่อแม่ให้ไว้ เมื่อปี 2558 จึงหันมาสนใจศึกษาการเลี้ยงไส้เดือนอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อใช้กับพื้นที่เกษตรของตัวเอง และจำหน่ายเป็นอาชีพเสริม โดยเริ่มจากเล็กๆ เลี้ยงเพียง 2 กะละมัง จนเปิดเป็นฟาร์มไส้เดือน 400 กะละมัง ภายใต้ชื่อ “รัตนชัยฟาร์มไส้เดือน จ.สตูล” อยู่ที่หมู่บ้านหัวผัง 36 บ้านเลขที่ 14 หมู่ 7 ต.แป-ระ อ.ท่าแพ จ.สตูล

ถึงทุกวันนี้ นายไพฑูรย์ ไชยรักษ์ หนุ่มสตูลที่มุ่งมั่นการทำธุรกิจฟาร์มไส้เดือน บอกว่า ต้องศึกษาและค้นคว้าจากผู้มีประสบการณ์ และหันมาทำเองที่บ้าน จากการนำไส้เดือนมาเลี้ยงในกะละมังสีดำ และสั่งมูลโคนมจากราชบุรี ส่งมาถึงที่ จ.สตูล มีราคากระสอบ 50 บาท และมีไส้เดือนสายพันธุ์แอฟริกันไนท์คลอเรอร์ หรือบ้านเราเรียกว่า “เอเอฟ” เอามาเลี้ยง จากนั้นก็หมักมูลโคนมตั้งไว้ 2 คืน เปลี่ยน 3 น้ำ รวมทั้งหมด 7 วัน เพื่อให้มูลวัวมีความเย็นในตัว
 

 
จากนั้นนำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไส้เดือนลงไปประมาณ 2.5-3 ขีดต่อกะละมัง เลี้ยงประมาณ 30-45 วัน จากนั้นก็นำมูลไส้เดือนที่ได้ไปใส่เครื่องเพื่อคัดแยกมูลไส้เดือนกับตัวไส้เดือนออก และนำมาตักแบ่งใส่ถุงละ 1 กิโลกรัม จำหน่ายในถุงละ 30 บาท โดยส่งขายตามร้านขายต้นไม้และชาวเกษตรกรทั่วไป พร้อมส่งตามต่างจังหวัด และขณะนี้กำลังติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อนำมูลไส้เดือนมีคุณภาพให้เกษตรกรต่อเพื่อนบ้านต่อไป ทำให้มีรายได้ประมาณตอนนี้ 15,000 บาท เป็นรายได้เสริมจากงานประจำเป็นอย่างดี โดยมีคนในครอบครัวช่วยดูแล ซึ่งเห็นว่าหากสามารถขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ จะมีรายได้งดงามอย่างแน่นอน เพราะใน 1 เดือน สามารถได้มูลไส้เดือน 1-2 ตัน ขณะที่ตัวไส้เดือนจะจำหน่ายกิโลกรัมละ 600 บาท
 

 
นายรัตนชัย และนางจารี ไชยรักษ์ พ่อและแม่ ซึ่งเป็นผู้ช่วยในการดูแลระหว่างที่บุตรชายไปทำงานต่างแดน โดยจะกลับมาเฉพาะช่วงเสาร์อาทิตย์นั้น กล่าวว่า เป็นอาชีพที่ดูแล้วอนาคตสดใส เพราะบุตรชายคนนี้ต้องการจะต่อยอดจากสวนยางไปปลูกทุเรียน โดยหาปุ๋ยดีมีคุณภาพ และเห็นช่องทางนี้ ซึ่งเพื่อนบ้านมาขอสูตรในการเลี้ยง บุตรชายก็บอกว่าให้เขาไป ไม่ได้หวงแต่อย่างใด และแบ่งขายพ่อแม่พันธุ์ไส้เดือนให้เกษตรกรไปทำปุ๋ยบำรุงสวนของตัวเอง

โดยตลาดมูลไส้เดือนจะเป็นกลุ่มเกษตรกรอินทรีย์ ใส่เป็นปุ๋ยบำรุงผัก บ่อกุ้งที่นำไปรักษาความสมดุลบ่อกุ้ง ซึ่งตลาดมาเลเซียกำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก กำลังเร่งหาช่องทางเข้าไปโดยถูกกฎหมายเพื่อขยายตลาด หากเกษตรกรสนใจติดต่อ “รัตนชัยฟาร์มไส้เดือน จ.สตูล” หมู่บ้านหัวผัง 36 บ้านเลขที่ 14 หมู่ 7 ต.แป-ระ อ.ท่าแพ จ.สตูล เบอร์ติดต่อ 08-9869-7927 ติดต่อทางเฟซบุ๊ก ค้นหา “รัตนชัยฟาร์มไส้เดือน จ.สตูล” หรือติดต่อทางไลน์ไอดี nuang_101
 


กำลังโหลดความคิดเห็น