xs
xsm
sm
md
lg

ป่าไม้สนธิกำลังยึดคืนพื้นที่สวนป่าบางขนุน 122 ไร่ ถูกบุกรุกปลูกยางพารา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และอีกหลายหน่วยงานเข้ารื้อถอนยางพารา ในพื้นที่สวนป่าบางขนุน 122 ไร่ ที่ถูกชาวบ้านบุกรุก เตรียมเสนอกรมป่าไม้ปลูกฟื้นฟูป่าให้กลับสู่ธรรมชาติต่อไป

เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (19 ธ.ค.) ที่สวนป่าบางขนุน หมู่ที่ 5 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต น.อ.บวร พรหมแก้วงาม รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานปล่อยแถวกำลังเจ้าหน้าที่ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 12 สาขากระบี่ เพื่อดำเนินการตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ด้วยการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้จากกระบี่ พังงา ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรถลาง ทหารจาก มทบ.41 ส่วนแยก จ.ภูเก็ต ทหารเรือจากทัพเรือภาคที่ 3 และอาสาสมัคร จำนวน 200 คน เข้ายึดคืนพื้นที่สวนป่าบางขนุน โดยการรื้อถอนทำลายผลอาสินในพื้นที่ 122 ไร่ ที่ถูกบุกรุกปลูกยางพารา และสร้างขนำ โดยมี นายเกษม สุขวารี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต พ.ต.สถิตย์ นัยคูณ หัวหน้าชุดปฏิบัติรักษาความสงบส่วนแยก จ.ภูเก็ต กองบัญชาการควบคุมมณฑลทหารบกที่ 41 นายทวี ลือชา ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า เป็นผู้แทน ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ และเจ้าหน้าที่สังกัดกรมป่าไม้ในพื้นที่ภูเก็ต กระบี่ และพังงา ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

โดยเจ้าหน้าที่ พร้อมอุปกรณ์เลื่อยยนต์ มีดพร้า ขวาน เป็นต้น ได้ใช้รถยนต์เดินทางเข้าไปยังพื้นที่บุกรุกปลูกยางพารา หลังจากนั้น เดินเท้าเข้าไปตัดโค่นต้นยางพารา ต้นกล้วย ต้นขนุน ต้นสะตอ ต้นหมาก ด้วยเครื่องเลื่อยยนต์ และมีดพร้า ซึ่งมีบางส่วนสามารถกรีดได้แล้ว โดยระหว่างนั้นได้มี นางอำภา ทองเทพ อายุ 57 ปี ได้มาแสดงตนเป็นผู้ครอบครองพื้นที่บางส่วน และนำหนังสือกระทรวงมหาดไทย และหนังสือของจังหวัดภูเก็ต เมื่อเดือนตุลาคม 2553 ที่ให้ผ่อนผันให้ราษฎรได้อยู่อาศัยทำกินในที่ดินที่อยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติ และป่าไม้อื่นๆ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วย

นายเกษม สุขวารี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การดำเนินการทำลายผลอาสินที่ได้มีการปลูกสร้างในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าบางขนุน ในครั้งนี้เป็นไปตามมาตรา 25 (3) แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นโยบายที่ 9 การรักษาความมั่งคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติและการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ได้ให้ความสำคัญต่อการเร่งปกป้องและฟื้นฟูพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่า โดยมีแผนงานโครงการสำคัญ 10 ข้อ และข้อที่ 4 โครงการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินป่าไม้ แก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมป่าไม้ ได้มีนโยบายเกี่ยวกับการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และมีการปลูกพืชผลอาสิน โดยกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ทุกแปลง

สำหรับพื้นที่ที่ดำเนินการในครั้งนี้ เป็นพื้นที่ที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ ภก.1 (ถลาง) ร่วมกับสวนป่าบางขนุน ได้ตรวจยึดจับกุม และแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจ สภ.ถลาง ตาม ปจว.ข้อ 6 คดีที่323/2559 และ ปจว.ข้อ 7 คดีที่ 328/2559 ลงวันที่ 16 มกราคม 2559 เนื้อที่ 116-1-00 ไร่ และ 6-1-00 ไร่ ตามลำดับ รวเนื้อที่ 122-2-00 ไร่ และได้จัดแผนสนธิกำลังดำเนินการตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 โดยประมวลเรื่องเสนอนายอำเภอถลาง ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติป่าบางขนุน จังหวัดภูเก็ต เพื่อโปรดพิจารณาใช้อำนาจตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรื้อถอนผลอาสิน (ยางพารา) ออกจากพื้นที่ป่าฯบางขนุน ให้เป็นไปตามระเบียบและข้อกฎหมาย โดยได้ดำเนินการดังต่อไปนี้ คือ

1.นายอำเภอถลาง ได้มีคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติ ป่าบางขนุนจังหวัดภูเก็ตที่ 224, 225/2559 ลงวันที่ 12 กันยายน 2559 เรื่องให้ผู้กระทำความผิด (ไม่ทราบชื่อ) ออกจากป่าสงวนแห่งชาติป่าบางขนุน หรืองดเว้นการกระทำใดในเขตป่าสงวน หรือรื้อถอนแก้ไขหรือกระทำการประการใดๆ แก่สิ่งที่เป็นอันตราย หรือสิ่งที่ทำให้เสื่อมสภาพในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยได้ติดประกาศให้ผู้กระทำผิดทราบตามสถานที่ต่างๆ จำนวน 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน-11 ตุลาคม 2559 ปรากฏว่า ผู้กระทำผิดยังไม่ได้ดำเนินการรื้อถอนผลอาสิน จึงได้มีประกาศ ครั้งที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 12-26 ตุลาคม 2559 ครบกำหนดตามประกาศรวม 45 วัน ผลปรากฏว่า ผู้กระทำผิดก็ยังฝ่าฝืนคำสั่งฯ ไม่ดำเนินการรื้อถอนผลอาสิน (ยางพารา) ให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แต่อย่างใด

2.นายอำเภอถลาง ได้แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการยึด ทำลาย รื้อถอนผลอาสิน (ต้นยางพารา) ที่ได้ทำการปลูกไว้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าบางขนุน ตามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ ควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติ ป่าบางขนุน จังหวัดภูเก็ต ที่ 225,226/2559 ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2559 เพื่อเตรียมดำเนินการรื้อถอน กรณีผู้กระทำผิดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมรักษาป่าสงวนแห่งชาติ

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 12 สาขากระบี่ พิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้กระทำผิดยังฝ่าฝืนคำสั่งฯ ไม่ยอมรื้อถอนผลอาสินออกจากพื้นที่ จึงได้มอบหมายให้หน่วยรักษาป้องกันป่าที่ ภก.1 (ถลาง) และสวนป่าบางขนุน สนธิกำลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ารื้อถอนผลอาสินในครั้งนี้ และเตรียมเสนอกรมป่าไม้ พิจารณาปลูกฟื้นฟูป่าให้กลับสู่ธรรมชาติดังเดิมต่อไป
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น