xs
xsm
sm
md
lg

ชื่นชม! นักเรียน ม.1 เล่นไวโอลินเปิดหมวกตามตลาดนัด ช่วยพ่อหาเงินเรียนหนังสือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กระบี่ - เด็กนักเรียนชั้น ม.1 ที่กระบี่ เล่นไวโอลินตามตลาดนัด หารายได้เป็นค่าเทอม และค่าใช้จ่ายสำหรับการเรียนเพื่อแบ่งเบาภาระพ่อที่มีหนี้สินต้องรับผิดชอบ 

วันนี้ (19 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรานงานว่า พบ เด็กหญิงทราบชื่อ คือ ด.ญ.ณญาตา ธนะจันทร์ หรือน้องตา อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 1 เป็นเด็กที่มีความกตัญญู เป็นที่น่าชื่นชม ใช้เวลาว่างช่วงวันหยุดด้วยการตระเวนเล่นไวโอลินเปิดหมวก เพื่อหารายได้พิเศษเป็นทุนการศึกษา แบ่งเบาภาระผู้ปกครอง โดยจะเล่นไวโอลิน หลังเวลาเลิกเรียน ตอนเย็น ภายในตลาดนัดเปิดท้ายบริเวณสี่แยกควนตอ ถนนศรีพังงา อ.เมือง จ.กระบี่ โดยเล่นไวโอลินเพลงสุนทราภรณ์ ได้อย่างคล่องแคล่ว และไพเราะ สร้างความประทับใจให้แก่ประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินจับจ่ายซื้อสินค้า จนต้องแวะชม และมอบเงินเพื่อเป็นกำลังใจในความสามารถ

ด.ญ.ณญาตา กล่าวว่า บ้านอยู่ในอำเภอเขาพนม จ.กระบี่ แต่มาเรียนหนังสือชั้นมัธยมปีที่ 1 โรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกูล อ.เมืองกระบี่ และได้เล่นดนตรีอยู่วงโยธวาทิต ที่โรงเรียนอำมาตย์ ในตำแหน่งเป่าทรัมเป็ด และเคยเล่นร่วมกับวงครั้งรับเสด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.10 เมื่อครั้งทรงเสด็จมาเปิดอาคารศาลากลางหลังใหม่ เมื่อ 9 ธันวาคมที่ผ่านมาด้วย และรู้สึกปลาบปลื้มอย่างหาที่สุดมิได้ ส่วนสาเหตุที่ได้มาเล่นไวโอลินเปิดหมวก ตามตลาดนัด ก็เพื่อต้องการหาเงินเป็นทุนไว้เป็นค่าเล่าเรียน เพื่อแบ่งเบาภาระของพ่อแม่ เริ่มเล่นตามตลาดมานานประมาณ 1 ปีแล้ว

ด.ญ.ณญาตา กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ติดตามพ่อกับแม่มาขายของในตลาดดังกล่าวเป็นประจำ และเคยเห็นตามถนนคนเดินภายในตัวเมืองกระบี่ ก็มีการนำความสามารถด้านดนตรีมาเล่นเปิดหมวก ซึ่งตนเองก็เคยเรียนเล่นไวโอลินจากโรงเรียนเอกชนมาได้ประมาณ 3 ปี จึงลองเล่นไวโอลินเปิดหมวกดู และได้รับการตอบรับดีจากประชาชนที่มาเดินตลาด รวมทั้งนักท่องเที่ยว มีรายได้อยู่ที่ 500-1,000 บาทต่อครั้ง โดยจะเล่นประมาณ 3 ชม.ในวันอาทิตย์เพียงวันเดียว เพลงที่นำมาเล่นบ่อยๆ จะเป็น วิมานดิน ใกล้รุ่ง สปะอีตูรองเง็ง ยามเย็น เก็บตะวัน ทรายทะเล เป็นต้น

ด้าน นายธีรภัทร ธนะจันทร์ อายุ 52 ปี อยู่บ้าน 183 ม.8 ต.เขาพนม อ.เขาพนม พ่อของน้องตา กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนประสบปัญหาทางธุรกิจ มีหนี้สินประมาณ 3-4 แสนบาท บ้านที่อาศัยอยู่กำลังจะถูกธนาคารยึด แต่พอน้องทราบข่าวก็ได้ถามว่าลูกจะช่วยอย่างไรได้บ้าง น้องจะช่วยหาเงิน เมื่อเห็นความตั้งใจของลูกจึงยอมให้เล่น และคอยให้กำลังใจลูกมาตลอด ตอนนี้น้องตา ต้องเก็บเงินเป็นค่าเรียนไวโอลินชั่วโมง 500 บาท และสะสมเงินที่เพื่อหาเงินซื้อไวโอลินตัวใหม่ ราคา 2 หมื่นกว่าบาท เพราะตัวเก่าหนักมาก ทำให้ปวดไหล่ ตนอยากให้ลูกเรียนจบ ม.3 เพื่อจะได้สอบเข้าวงดุริยางค์ทหารบก ต้องการให้ได้โรงเรียนประจำเพื่อลดค่าใช้จ่าย เพราะอนาคตยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร บ้านไม่รู้จะได้อยู่อีกนานแค่ไหน อย่างน้อยเขาได้เรียนในโรงเรียนประจำ จะได้ลดค่าใช้จ่าย นายธีรภัทร์ กล่าว
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น