ตรัง - ยอดขาย “กุ้งแห้งท่าข้าม” ของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรทุ่งรวงทอง กำลังพุ่งเป็นเดือนละครึ่งแสนบาทแล้ว เพราะมีรสชาติหอมอร่อย และไม่เค็มจัด พร้อมเปิดตลาดแนวใหม่ให้สั่งซื้อสินค้าทางไลน์
วันนี้ (14 ธ.ค.) นางเหมือนใจ เพ็ชรเพ็ง ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรทุ่งรวงทอง ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง กล่าวว่า ขณะนี้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของกลุ่มที่ทำมาจากทะเลกำลังเป็นที่นิยมของท้องตลาดมากขึ้น เพราะได้รับมาตรฐานการผลิตมาแล้วอย่างมากมาย เช่น เครื่องหมาย อย. เครื่องหมายฮาลาล เครื่องหมาย สมส. หรือผ่านการคัดสรรระดับ 5 ดาว โดยเฉพาะกุ้งแห้งท่าข้าม ซึ่งล่าสุด ในปี 2558 มียอดขายประมาณเดือนละ 3 หมื่นบาท และคาดว่าในปี 2559 จะพุ่งขึ้นเป็นเดือนละ 5 หมื่นบาท หลังจากได้มีการทำตลาดที่หลากหลาย นอกเหนือไปจากการออกบูทในโอกาสต่างๆ ทั้งที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทำให้กุ้งแห้งของกลุ่มได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าใหม่ๆ ที่หันมาสั่งซื้อสินค้าทางไลน์
สำหรับสาเหตุที่ทำให้กุ้งแห้งท่าข้าม มีการขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ รสชาติที่หอมอร่อย และไม่เค็มจัด เนื่องจากมีการใส่เกลือลงไปในปริมาณที่พอเหมาะ ต่างกับบางแห่งที่จะมีการใส่เกลือลงไปมากๆ เพียงเพื่อให้กุ้งแห้งได้น้ำหนักเพิ่มมากขึ้น แต่กลับส่งผลต่อรสชาติ หรือคุณภาพ นอกจากนั้น สีของกุ้งที่ทางกลุ่มผลิตยังออกมายังสวยงามตามธรรมชาติ โดยไม่มีการเจือสี หรือสารใดๆ ทั้งสิ้น
อีกทั้งมีการตากกุ้งด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ ประกอบกับยังมีการพัฒนารูปแบบการบรรจุผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่าสนใจ รวมทั้งปรับขนาดผลิตภัณฑ์ให้ตรงต่อความต้องการของลูกค้าทุกระดับ โดยมีราคาสินค้าตั้งแต่ 20 บาท ไปจนถึง 500 บาท จึงสามารถทำตลาดได้ง่าย
นางเยาวรัตน์ หนูหมาด กรรมการฝ่ายผลิต กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรทุ่งรวงทอง กล่าวว่า เทคนิคการทำกุ้งแห้งให้อร่อยนั้น เริ่มตั้งแต่การนำกุ้งสดที่จับจากท้องทะเลริมฝั่งอันดามันมาล้างน้ำสะอาด 4-5 ครั้ง จากนั้นต้มน้ำที่ผสมเกลือลงไปให้เดือดจัด ก่อนนำกุ้งสดใส่ทิ้งไว้ประมาณ 20-25 นาที เมื่อสุกดีแล้วให้นำกุ้งมากรองน้ำออก แล้วนำไปตากในห้องพลังงานแสงอาทิตย์ ที่จะช่วยให้กุ้งหอมแบบธรรมชาติ อีกทั้งยังมีความสะอาดสูง เพราะไม่มีแมลงวัน หรือแมลงต่างๆ เข้าไปตอม โดยหากแดดจัดจะตากเพียงแค่ 1 วัน ยกเว้นในหน้าฝนที่อาจต้องใช้เวลาถึง 3 วัน จากนั้นนำไปกระเทาะเปลือกกุ้งออกด้วยวิธีการแบบพื้นบ้าน 2 รอบ และเมื่อนำไปฝัดซ้ำอีกครั้ง ก็จะเหลือเฉพาะเนื้อกุ้งที่บรรจุภัณฑ์ส่งไปขายได้ทันที