xs
xsm
sm
md
lg

ปูด “น้ำมันทหาร” หลุดขายเกลื่อนตลาดมืด “จ็อบเบอร์” แฉ ปตท.ดัมป์ราคาดีเซลทำวงการป่วน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คลังน้ำมันแห่งหนึ่งของ ปตท. (แฟ้มภาพ)
 
ศูนย์ข่าวภาคใต้ - วงการค้าส่งน้ำมันภาคใต้ปั่นป่วน แฉ ปตท.ส่งซิกให้ตัวแทนน้ำมันอุตสาหกรรม “ดัมป์” ราคาดีเซล ถูกกว่าที่ซื้อจากบัญชีค้าส่ง ปตท.ลิตรละ 50 สตางค์ ขณะที่ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 10 นำน้ำมันราคาถูกไปขาย อ้างเป็นน้ำมันทหาร ถูกกว่าตลาดลิตรละ 2 บาท ส่วนที่ชายแดนไทย-มาเลย์ วงการค้าน้ำมันเถื่อนเริงร่า รับน้ำมันโลกที่ขึ้นกระฉูด เย้ยนโยบายแม่ทัพภาคที่ 4

วันนี้ (13 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากผู้ค้าส่งน้ำมัน หรือ “จ็อบเบอร์ (Jobber)” รายใหญ่ของ จ.สงขลา และจังหวัดใหญ่ในภาคใต้ เช่น นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ว่าคลัง ปตท.ที่ตั้งอยู่ใน อ.สิงหนคร จ.สงขลา มีวิธีการในการขายน้ำมันที่ไม่มีมาตรฐาน สร้างความเจ็บปวดให้แก่ผู้ที่เป็น “จ็อบเบอร์” ของ ปตท.

โดยจ็อบเบอร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า คลัง ปตท.ให้บริษัทเก็ตทาเรนท์ ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายน้ำมันในภาคอุตสาหกรรม หมายถึงนำน้ำมันจาก ปตท.ขายให้แก่ภาคอุตสาหกรรม นำน้ำมันในภาคอุตสาหกรรมมาขายให้แก่ลูกค้าปั๊มน้ำมันทั่วๆ ไป รวมทั้งผู้ค้าน้ำมันอิสระ ที่ต้องการซื้อน้ำมันไปขายต่อ ในราคาที่ถูกกว่าที่ จ็อบเบอร์ ซื้อจากคลัง ปตท.โดยตรงลิตรละ 50 สตางค์ ทำให้ลูกค้าของ “จ็อบเบอร์” หันไปซื้อน้ำมันอุตสาหกรรมไปขายต่อให้ปั๊มน้ำมัน แทนการซื้อจากจ็อบเบอร์ ซึ่งเป็นการทำลายวงจรการค้าน้ำมันอย่างร้ายแรง

โดยตัวแทนจำหน่ายน้ำมันอุตสาหกรรม ยังทำการขายน้ำมันในราคาล่วงหน้า 1 วัน ในราคาที่ถูกกว่าราคาค้าส่งของ ปตท. ที่ขายให้แก่จ็อบเบอร์ รวมทั้ง ปตท.เองก็ไม่ขายน้ำมันล่วงหน้าให้แก่จ็อบเบอร์ แต่ให้ตัวแทนน้ำมันอุตสาหกรรมขายได้ จนสร้างความปั่นป่วนในวงการค้าน้ำมัน

“ในวันนี้พบว่า คลัง ปตท.ขายน้ำมันให้จ็อบเบอร์ โดยน้ำมันดีเซล ราคาลิตรละ 24.33 บาท ขณะที่ตัวแทนภาคอุตสาหกรรมนำน้ำมันของ ปตท.ไปขายให้แก่ผู้ต้องการที่ไม่ใช่ภาคอุตสาหกรรมในราคาลิตรละ 23.64 บาท ซึ่งราคาต่างกันถึงลิตรละ 50 สตางค์ เป็นการค้าขายที่จ็อบเบอร์เห็นว่าไม่มีธรรมาภิบาล เพราะเป็นการทำร้ายคู่ค้าของตนเอง เพราะน้ำมันดังกล่าวตามหลักการเป็นโควตาในการช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรม ไม่ใช่น้ำมันที่จะขายให้แก่ลูกค้าทั่วไป โดยเฉพาะปั๊มน้ำมัน ซึ่งเป็นลูกค้าของจ็อบเบอร์โดยตรง”

แหล่งข่าวระบุว่า กลุ่มจ็อบเบอร์ และผู้ค้าน้ำมันในอิสระ ใน จ.สงขลา เห็นว่าการกระทำของ ปตท. เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง มีสองมาตรฐาน ผิดหลักธรรมาภิบาล จึงร้องเรียนให้ผู้บริหารระดับสูงของ ปตท. รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ตรวจสอบ และขอคำตอบที่ชัดเจนว่า ปตท.สามารถนำน้ำมันในภาคอุตสาหกรรมไปขายให้แก่ปั๊มน้ำมัน และบุคคลทั่วไปได้หรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ค้าน้ำมันมาตรา 10 ในกรุงเทพฯ ได้ติดต่อให้ลูกค้ารายใหญ่ใน จ.สงขลา และอีกหลายพื้นที่ โดยเสนอขายน้ำมันดีเซลในราคาที่ถูกกว่าโดยรับน้ำมันที่คลัง ปตท.สงขลา แต่ถูกกว่าซื้อจากคลัง ปตท.ลิตรละ 1.50-2 บาท โดยอ้างว่าได้โควตาดังกล่าวจาก “ทหาร” ซึ่งในวงการค้าน้ำมันเรียกว่า น้ำมัน “สีเขียว” โดยน้ำมันที่เป็นของทหารที่รับจากคลัง ปตท. มีเอกสารถูกต้องตามกฎหมาย

สำหรับในเรื่องน้ำมันทหารนั้น กลุ่มผู้ร้องเรียนต้องการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะเรื่องที่มีการซื้อขายน้ำมันทหารในคลัง ปตท. มีการกล่าวถึงในวงการผู้ค้าน้ำมันมาเป็นเวลานาน ซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่กองทัพมาโดยตลอด

ผู้สื่อข่ายรายงานว่า หลังจากที่ราคาน้ำมันในประเทศมีการปรับตัวสูงขึ้นตามสถานการณ์น้ำมัน ซึ่งเกิดจากการที่โอเปกลดการผลิตน้ำมันลง ประกอบกับราคาเงินเหรียญมาเลเซียที่ตกต่ำลงอย่างมาก อัตราแลกเปลี่ยนกับเงินไทยอยู่ที่เหรียญริงกิตละ 7.50 สตางค์ ทำให้ราคาน้ำมันในประเทศมาเลเซียถูกลงเหลือลิตรละ 15 บาท ในขณะที่ในประเทศไทย ดีเซลลิตรละ 26 บาท

ทำให้ขบวนการน้ำมันเถื่อนข้ามชาตินำน้ำมันเถื่อนผ่านเข้ามาในภาคใต้เป็นจำนวนมาก โดยผ่านทางด่านปาดังเบซาร์ ด่านสำนักขาม อ.สะเดา และด่านประกอบ อ.นาทวี จ.สงขลา ด่านวังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล และ ด่านสุไหงโก-ลก ด่านตากใบ จ.นราธิวาส

ซึ่งเป็นการเย้ยคำสั่งของ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่ประกาศเป็นนโยบายในการปราบปรามภัยแทรกซ้อน ทั้งน้ำมันเถื่อน ยาเสพติด และบ่อนการพนัน
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น