ปัตตานี - กอ.รมน.แจงเหตุปล้นรถที่สะบ้าย้อย ก่อนนำจุดระเบิดในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี พร้อมทั้งได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทำการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต
วันนี้ (15 พ.ย.) พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2559 เวลา 12.30 น. คนร้ายปล้นรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน บต 664 ปัตตานี และยิงเจ้าของรถชื่อ นายย่าโก๊ะ ฮะมะ อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นราษฎรบ้านควนหรัน ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา อาชีพพ่อค้าขายอาหารสด ซึ่งเป็นพี่น้องมุสลิมเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
หลังเกิดเหตุ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้ทุกหน่วย รวมทั้งกำลังภาคประชาชนได้ทำการสกัดกั้นติดตามคนร้าย และร่วมกันตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2559 เวลา 08.10 น. ขณะที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หมู่ที่ 6 ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี กำลังปฏิบัติภารกิจ ได้สังเกตเห็นรอยรถยนต์เข้าไปยังบ่อลูกรัง ในพื้นที่บ้านทุ่งยาว หมู่ที่ 6 ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี จึงแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ทราบ
และในขณะที่ทำการรายงานห่างจากรถยนต์คันดังกล่าวประมาณ 100 เมตร ที่คนร้ายได้ลอบนำระเบิดวางไว้ข้างรถ แล้วจุดชนวนระเบิดเป็นเหตุให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย จากเหตุการณ์ดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอชี้แจงดังนี้
1.จากเหตุการณ์ดังกล่าว พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ขอแสดงความเสียใจมายังครอบครัวของผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบทางราชการ และรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ก่อเหตุต่อไป
2.แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ขอชื่นชมการปฏิบัติงานของหน่วยที่ร่วมกันแจ้งเตือนเรื่องรถยนต์คันดังกล่าว รวมถึงกำลังภาคประชาชนที่ช่วยเฝ้าระวัง และสังเกตเป็นผลให้ลดความเสียหายจากเหตุระเบิด และขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ทั้งหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี อ.โคกโพธิ์ สถานีตำรวจภูธรโคกโพธิ์ หน่วยเฉพาะกรมทหารพรานที่ 43 และกำลังภาคประชาชนในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ ในการแจ้งเตือน และเฝ้าระวังสังเกตการณ์ จนกลุ่มคนร้ายต้องนำรถยนต์คันดังกล่าวไปซุกซ่อนไว้ในพื้นที่ลับสายตา และไม่สามารถนำมาก่อเหตุในพื้นที่ชุมชนได้
ตลอดจนมาตรการต่างๆ ของทุกส่วนราชการที่เฝ้าระวังจนไม่เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างต่อพี่น้องประชาชน สำหรับความร่วมมือของกำลังภาคประชาชนแสดงถึงความเบื่อหน่ายของพี่น้องประชาชน นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยในการลดเหตุรุนแรง เช่น เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2559 เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดที่บรรทุกในรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า แบบตอนครึ่ง ซึ่งเป็นรถยนต์ต้องสงสัยที่จอดอยู่บริเวณข้างปั๊มน้ำมันเชลล์ หน้าบริษัทโตโยต้าพิธานพาณิชย์ ยะลา
หรือเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2559 เวลา 18.00 น. ได้รับแจ้งจากพนักงานปั๊มน้ำมันควอลิตี้ ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน จ.ยะลา ว่า มีรถยนต์ต้องสงสัยมาจอดเติมน้ำมันแล้วผู้ต้องสงสัย จำนวน 2 คน วิ่งลงจากรถ และข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้าม ซึ่งมีรถจักรยานยนต์จอดรอรับอยู่ จนนำไปสู่การเก็บกู้ระเบิดได้สำเร็จ
หรือเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2559 พบรถยนต์ต้องสงสัยที่คนร้ายปล้นชิงรถส่งนมโรงเรียน แล้วนำไปประกอบระเบิดบรรจุในถังแก๊สหุงต้ม ไปจอดทิ้งไว้ใน อ.แว้ง จ.นราธิวาส นำไปสู่การเก็บกู้ระเบิดได้สำเร็จ ทั้งหมดนี้เกิดจากการแจ้งเตือนของประชาชนทั้งสิ้น จึงขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน เมื่อพบเห็นสิ่งผิดปกติ บุคคล และยานพาหนะผิดปกติกรุณาแจ้งหน่วยความมั่นคงใกล้บ้านท่าน หรือหมายเลข 1341 ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า
3.การกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่สังหารพี่น้องชาวไทยมุสลิม เพื่อปล้นรถไปใช้ก่อเหตุเป็นการกระทำที่โหดร้ายป่าเถื่อน หวังเพียงประโยชน์ของตน โดยมิได้คำนึงถึงผลกระทบ และความเดือดร้อนของครอบครัวของผู้เสียชีวิต ที่ประกอบอาชีพขายอาหารสดโดยสุจริตแต่อย่างใด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอประณามการกระทำดังกล่าวที่หวังเพียงผลประโยชน์ของตน โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบ และความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริสุทธิ์