ยะลา - ไข้เลือดออกระบาด มีผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว 1 ราย พ่อแม่เตรียมยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อโรงพยาบาล ชี้ไม่ให้ความใส่ใจต่อการวินิจฉัยซึ่งมีความล่าช้า จนทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต
วันนี้ (14 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรายงานพบผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออก จำนวน 1 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.จุฑามาศ อารีบำบัด อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83/2 ม.5 ต.ตาชี อ.ยะหา จ.ยะลา โดยภายหลังการเสียชีวิต ทางพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตได้เดินทางไปยื่นร้องขอความเป็นธรรม ที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.ยะลา โดยระบุว่า ทางโรงพยาบาล และผู้เกี่ยวข้องในการรักษาพยาบาล ไม่ได้ให้ความใส่ใจต่อการรักษาพยาบาลผู้ป่วย จนทำให้บุตรสาวของตนเองต้องเสียชีวิตในระหว่างการรักษา
โดยภายหลังทราบเรื่องราวดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปพบกับพ่อ และแม่ของ น.ส.จุฑามาศ อารีบำบัด ที่บ้านเลขที่ดังกล่าว ใน ต.ตาชี อ.ยะหา จ.ยะลา เพื่อสอบถามเหตุการณ์และเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ซึ่งทาง นางวิณณู อารีบำบัด ผู้เป็นแม่ของ น.ส.จุฑามาศ อารีบำบัด ผู้เสียชีวิตได้เล่าให้ฟังว่า บุตรสาวของตนเองเพิ่งเรียนจบระดับปริญญาตรี ในปีนี้ และยังไม่ได้รับปริญญาบัตร จึงได้เดินทางกลับมาอยู่ที่บ้าน โดยเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา บุตรสาวก็มีอาการป่วย ตัวร้อนมาก อ่อนเพลีย และอาเจียน จึงได้นำตัวไปโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา เพื่อให้เข้ารับการรักษา และได้ให้หมอตรวจว่าป่วยด้วยสาเหตุอะไร
แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาลแล้วก็ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง กว่าจะได้ตรวจ และพบหมอ ซึ่งภายหลังพบหมอแล้ว หมอก็ได้ให้ยาพาราเซตามอล แก้ปวด ยาอมแก้ไอ และผงเกลือแร่ กลับมารับประทานที่บ้าน โดยบอกว่าให้กลับบ้าน แล้วจะนัดมาตรวจใหม่ในวันที่ 30 ตุลาคม 2559 พร้อมทั้งบอกว่า ที่โรงพยาบาลเตียงผู้ป่วยเต็มแล้วไม่สามารถนอนได้ ลูกสาวจึงได้กลับมาบ้าน
จากนั้นในวันที่ 29 ตุลาคม 2559 อาการของลูกสาวก็ไม่ดีขึ้น ตนเองจึงตัดสินใจพาไปโรงพยาบาลอีกครั้ง ในเวลาประมาณ 15.30 น.ของวันนั้น เนื่องจากยังมีไข้สูงตัวร้อนมาก และอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง เมื่อไปถึงโรงพยาบาลก็ได้เข้าห้องฉุกเฉินทันที แต่ก็ต้องรอหมอเข้ามาตรวจ หลังจากนั้น ก็นำตัวออกมารอข้างนอก ซึ่งขณะนั้นก็ยังไม่มีพยาบาล หรือแพทย์มาบอกอาการแต่อย่างใด และไม่ได้สนใจต่อความเจ็บป่วยของผู้ป่วยในขณะนั้นเลย จนเวลา 17.30 น. หมอก็มาตรวจ และบอกให้นอนที่โรงพยาบาล คืนนั้นจึงได้นอนที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 1 คืน
ซึ่งตลอดทั้งคืนนั้น พยาบาลก็แวะเวียนมาตรวจตามเวลา แต่ก็ไม่ได้บอกถึงอาการ หรือความเจ็บป่วยว่า เป็นโรคอะไร อย่างไร พอตกดึกบุตรสาวก็มีอาการป่วยอีก ตัวร้อนไข้สูง แต่ตนเองก็ไม่กล้าที่จะไปเรียกพยาบาล เนื่องจากภายในตึกได้ปิดไฟกันหมดแล้ว
จนรุ่งเข้าวันถัดมา 30 ตุลาคม 2559 ก็เริ่มเห็นอาการของบุตรสาวตนเองก็ยังดูอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ต้องค่อยพยุงตัวเข้าห้องน้ำ จนเวลาประมาณ 11.00 น.ทางโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา ได้ส่งตัวบุตรสาวของตนเองไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา เนื่องจากสภาพอาการป่วยที่ไม่ดีขึ้น ซึ่งเมื่อมาถึงโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ก็ส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินในทันที และหลังจากนั้นก็ย้ายไปนอนรักษาตัวที่ตึกอายุรกรรม โรงพยาบาลศูนย์ยะลา 1 คืน
ต่อมา ในวันที่ 31 ตุลาคม 2559 ช่วงเช้าทางหมอก็ได้ย้ายตัวเข้าห้องไอซียูในเวลา 11.00 น. เนื่องจากอาการป่วยทรุดหนัก และมีอาการอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก จนในเวลา 15.00 น.ของวันเดียวกัน น.ส.จุฑามาศ อารีบำบัด ก็เสียชีวิตลง โดยทางแพทย์ผู้รักษาบอกว่า ผู้ป่วยมีอาการโคม่า เกล็ดเลือดตำจนเกิดอาการช็อก และเสียชีวิตในที่สุด
ภายหลัง น.ส.จุฑามาศ เสียชีวิต ญาติก็ได้นำศพกลับมาทำพิธีบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่บ้านเกิด และได้ทำการฌาปนกิจ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา
โดยหลังเสร็จการบำเพ็ญกุศลศพ ทางพ่อแม่ และญาติก็ได้เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรม ภายในศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยผู้เป็นแม่บอกว่า ต้องการความเป็นธรรมจากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา ในการดูแลรักษาผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา แต่ไร้การเหลียวแล ไร้การเอาใจใส่จากผู้ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งการดำเนินการรักษาตรวจโรคก็เป็นไปด้วยความล่าช้า จนทำให้บุตรสาวของตนเองต้องมาเสียชีวิต
โดยก่อนหน้านั้น วันที่ 31 ตุลาคม 2559 ทางแพทย์บอกว่า ต้องการรับบริจาคเลือดกรุ๊ปเอ เนื่องจากผู้ป่วยนั้นมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ แม้ว่าจะมีผู้มาบริจาคให้เป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่สามารถจะช่วยชีวิตไว้ได้ทัน เนื่องจากอาการป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกนั้น อยู่ในระยะวิกฤตแล้ว ซึ่งตนเองก็ไม่อยากให้มีผู้ป่วยรายต่อไปต้องประสบปัญหาในแบบเดียวกันนี้อีก จึงอยากให้ ทางโรงพยาบาล และผู้เกี่ยวข้องในการดูแลผู้ป่วย มีความเอาใจใส่มากกว่านี้