xs
xsm
sm
md
lg

ชาวสุราษฎร์ฯ-พังงาจุดเทียนแสดงความอาลัยและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สุราษฎร์ธานี/พังงา - ชาวบ้านในอำเภอพระแสง จ.สุราษฎร์ธานี รวมตัวกันที่อนุสรณ์สถานแทรกเตอร์พระราชทาน 1 เดียวในประเทศกว่า 1,000 คน เพื่อร่วมจุดเทียนแสดงความอาลัย และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในขณะที่ผู้ป่วยในพระบรมราชูปถัมภ์เผยทุกวันนี้ยังทำใจไม่ได้ เวลาหลับตาเห็นแต่ภาพพระองค์ลอยอยู่ตรงหน้า เช่นเดียวกับที่จังหวัดพังงา ชาวท้ายเหมือง นับพันคนร่วมร้อยดวงใจจุดเทียนแสดงความอาลัย และรำลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ครั้งหนึ่งที่เคยเสด็จเยี่ยมราษฎรอำเภอท้ายเหมือง

ที่อนุสรณ์สถานแทรกเตอร์พระราชทาน 1 เดียวในประเทศ ที่ตั้งอยู่ริมถนนสายสุราษฎร์ธานี-กระบี่ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากชาวบ้านในอำเภอพระแสง ได้ร่วมกันบูรณะทำความสะอาดทาสีรถแทกเตอร์ ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชทานรถแทรกเตอร์ บุลโดเซอร์ ดี 4 เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2511 โดยเครื่องบินซีนุก ลำเลียงแทรกเตอร์พระราชทานมาทางอากาศ เพื่อให้ใช้ในการก่อสร้างถนน เนื่องจากในสมัยนั้นไม่มีถนนในการใช้สัญจร พร้อมจัดนิทรรศการภาพถ่ายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเยือนราษฎรในพื้นที่อำเภอพระแสง ถึง 4 ครั้ง และตกแต่งไฟประดับอย่างสวยงาม

และเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 28 ต.ค. นายพิจิตร ศรีทองสม ประธานชมรมรถจักรยานถีบอำเภอพระแสง ได้นำสมาชิก และชาวบ้านในอำเภอพระแสงกว่า 1,000 คน ร่วมกันจุดเทียนร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 9 นาที เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์มีพระเมตตาต่อประชาชนในพื้นที่จนหาที่สุดมิได้

ในขณะที่ นายมนู เพชรเศษ อายุ 55 ปี ผู้ป่วยในพระบรมราชูปถัมภ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้มาร่วมพิธีจุดเทียน กล่าวว่า ตนได้ประสบอุบัติเหตุดินปืนระเบิดใส่เมื่ออายุ 8 ขวบ จนพิการที่ใบหน้า และแขนข้างขวาเป็นพังผืดติดกันจนแขนใช้ไม่ได้ แต่โชคดีบิดาพาไปเข้าเฝ้ารับเสด็จที่วัดสามพัน อำเภอพระแสง พระองค์ท่านรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช เป็นเวลา 8 เดือน ทุกวันนี้ยังทำใจไม่ได้เมื่อนอนหลับก็ฝันถึงพระองค์ทุกๆคืน เนื่องได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระองค์ที่ได้ซุบชีวิตใหม่ให้ตนเอง จากเด็กที่ตายไปแล้ว พระองค์ท่านทำให้เกิดใหม่จนสามารถดำเนินชีวิตได้มาจนถึงปัจจุบันนี้ และในชีวิตที่เหลืออยู่ขอทำความดีทุกอย่างเพื่อทดแทนพระคุณพ่อ พร้อมจะสั่งสอนลูกหลานให้ทุกคนให้ทำความดี พร้อมแนะให้ยึดหลักปรัชญาเศษกิจพอเพียงมาเป็นหลักการดำเนินชีวิต พร้อมเตรียมนำครอบครัวขึ้นกรุงเทพฯ เพื่อไปกราบพระบรมศพในเร็วๆ นี้

ที่จังหวัดพังงา ชาวท้ายเหมืองนับพันคนร่วมร้อยดวงใจจุดเทียนแสดงความอาลัย และรำลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ครั้งหนึ่งที่เคยเสด็จเยี่ยมราษฎรอำเภอท้ายเหมือง ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา นายนพสิทธิ์ อุดมสุวรรณกุล นายอำเภอท้ายเหมือง เป็นประธานพิธีแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ แสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมี พ.ต.อ.สมยศ สีหาบัว ผกก.สภ.ท้ายเหมือง จ.ส.ต.จิระวิทย์ พวงจิตร นายกเทศมนตรีตำบลท้ายเหมือง นายปรารถนา ดำทน กำนันตำบลนาเตย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนร่วมพิธีกว่า 2,000 คน ซึ่งอำเภอท้ายเหมือง เคยเป็นสถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จประพาสจังหวัดพังงา เมื่อพุทธศักราช 2502

โดยเปิดวิดีทัศน์ให้ประชาชนได้ชมการเสด็จเยือนโรงเรียนวัดเหมืองประชาราม เมื่อปี พ.ศ.2502 พร้อมร่วมร้อยดวงใจยืนสงบนิ่งแสดงความอาลัย 9 นาที และจุดเทียน แสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หน้าพระบรมยาลักษณ์ สื่อความหมายในหลวงจะอยู่ในใจปวงชนชาวพังงา พร้อมร่วมกันร้องเพลงพระราชาผู้ทรงธรรม เพลงขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป เพลงในหลวงของแผ่นดิน และวงดุริยางค์โรงเรียนท้ายเหมืองวิทยา ร่วมบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี



 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น