ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวบ้านกลุ่มรักษ์บ้านเกิด ต.คู อ.จะนะ จ.สงขลา เปิดเวทีคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลจะนะกรีน ขนาด 25 เมกะวัตต์ ห่วงกระทบต่อสุขภาพของนักเรียน และประชาชนรอบพื้นที่ ยืนยันเดินหน้าคัดค้านจนถึงที่สุด
วันนี้ (22 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มรักษ์บ้านเกิด ซึ่งคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลจะนะกรีน ที่ตำบลคู ขนาด 25 เมกะวัตต์ ซึ่งกำลังจะมีการรับฟังความคิดเห็นอีกครั้ง หลังครั้งแรกล้มเหลว ขาวบ้านจึงรวมกันจัดการพูดคุย ในหัวข้อ “โรงไฟฟ้าชีวมวล ดีหรือภัยที่ให้ชุมชน” โดยจัดที่โรงเรียนจะนะชนูปถัมภ์
นายอำนวย สังราชกิจ ผู้อำนวยการโรงเรียนจะนะชนูปถัมป์ บอกว่า นักเรียน 700 คน เป็นเด็กตำบลคูเพียง 85 คน ที่นี่คือโรงเรียนประจำอำเภอ ผลกระทบที่เกิดจากโรงไฟฟ้าที่สร้างติดหลังโรงเรียนนั้น ย่อมสร้างมลพิษให้แก่นักเรียน แก่ชุมชน นักเรียนจะเรียนได้อย่างไร ทั้งเสียงดัง กลิ่นเหม็น ควันพิษที่ปล่อยออกมาตลอดเวลา ในนามตัวแทนเพื่อนครู นักเรียน ขอขอบคุณชาวบ้านที่สู้อย่างจริงจังไม่ให้มีโรงไฟฟ้าชีวมวล
นายสุเบต หลีเหร็ม กำนันตำบลคู แกนนำคนสำคัญกล่าวว่า การลุกขึ้นสู้ของคนตำบลคูนั้นเป็นการลุกขึ้นปกป้องบ้านเกิดของชาวบ้านเอง คนตำบลคู และตำบลข้างเคียงเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่สำคัญของจะนะ เป็นที่นา เป็นสวนยาง สวนผลไม้ ที่สร้างรายได้ให้ลูกหลานมีอยู่มีกินอย่างไม่ลำบาก ข่าวลือมีมากมายว่า กำนันจะได้กี่ล้าน ขอชาวบ้านอย่าไปฟัง หากพี่น้องยังสู้ กำนันจะต้องสู้เคียงข้างชาวบ้าน จะมีการเปิดเวทีการรับฟังความเห็นอีกครั้งในวันที่ 12 พ.ย.นี้ ที่หมู่ 6 ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงไฟฟ้า
“ทราบมาว่า งานนี้ตำรวจไม่ได้รับการประสานให้มาดูแล แต่จะมีทหารค่ายเสนาณรงค์จำนวนมากจะมาดูแลแทน ชาวบ้านยิ่งไม่สบายใจ เพราะการรับฟังความคิดเห็นที่มีทหารยืนเต็ม คนที่ค้านจะเข้ามาร่วมคัดค้านได้อีกไหม เราชาวบ้านจึงต้องปรึกษากันให้ดีว่าจะปกป้องบ้านเกิดจากโรงไฟฟ้าชีวมวล ในวันที่ 12 พ.ย.อย่างไร”
นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ กล่าวว่า จะนะมีโรงไฟฟ้าจะนะ 1,500 เมกะวัตต์แล้ว ใหญ่มากแล้ว มีโรงแยกก๊าซอีกแห่ง ทั้ง 2 โรงนั้นปล่อยมลพิษแม้ไม่เกินมาตรฐาน แต่ก็ปล่อยออกมาจำนวนไม่น้อย คนจะนะเมื่อครั้งที่รัฐสามารถสร้างโรงไฟฟ้าจะนะได้ เคยประกาศจุดยืนที่สำคัญมาก ว่า คนจะนะจะเปลี่ยนจากเดิมที่ประกาศว่า “มึงสร้างกูเผา” มาเป็น “ที่มีอยู่พอแล้วนะ ของใหม่ขออย่าเอามาอีก” และขอให้ทุกคนช่วยเฝ้าระวังโรงงานที่มีอยู่อย่าให้ส่งผลลบต่อประชาชน
“แต่วันนี้จะนะกำลังมีจะมีการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลอีกหลายแห่ง เทพาก็จะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาดใหญ่มาก 4 อำเภอของสงขลา เป็นพื้นที่สร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลนับสิบโรง นี่คือการเปิดทางนโยบายโดยไม่มีการฟังเสียงประชาชน ฝุ่น เสียง สารมลพิษ น้ำเสีย กลิ่นเหม็น คือพิษภัยที่สำคัญ โรงไฟฟ้าชีวมวลที่ขุนตัดหวาย ที่สร้างเสร็จแล้ว คือบทเรียนที่ชัดเจนเพราะมีมลพิษครบทุกอย่างที่กล่าวมา
อาจารย์ถาวร อุบล นักวิชาการกลุ่มรักษ์ถิ่นเกิด ซึ่งเป็นวิศวกร ได้กล่าวว่า คนที่ออกแบบโรงไฟฟ้าชีวมวลรู้อยู่เต็มอกว่า มีผลกระทบ แต่ก็ยังออกแบบมา วันหนึ่งโรงไฟฟ้านี้จะใช้น้ำ 2 ล้านกว่าลิตร ซึ่งเป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งนอกจากน้ำคลอง น้ำผิวดินก็ต้องเจาะบาดาล น้ำใต้ดินก็จะแห้ง น้ำชลประทานเพื่อการเกษตรก็จะถูกแย่งใช้ คนบ้านคูเป็นชุมชนเกษตร เป็นที่ราบลุ่ม หากเกิดชีวมวลขึ้นมา คนบ้านคู และรอบๆ จะยากจนลงอย่างแน่นอน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการเสวนามีการหารือของชาวบ้าน และแกนนำเพื่อเตรียมตั้งรับต่อการจัดรับฟังความคิดเห็นที่มีแนวโน้มปิดกั้นคนค้านโดยเอาทหารมาคุมด้วย ซึ่งชาวบ้านยืนยันจะคัดค้านจนถึงที่สุด
