ใกล้ความจริง! รังวัดที่ดิน นสล.อ่าวทุ่งทรายคืบไปมาก เตรียมสรุปเสนอผู้ว่าฯ เร็วๆ นี้

ชุมพร - คณะคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการบุกรุกที่ดินสาธารณะอ่าวทุ่งทราย จ.ชุมพร ลงพื้นที่สำรวจรังวัดที่ดินสาธารณะ ออกหนังสือรับรองสำหรับที่หลวง กำหนดแนวเขตชัดเจน ดำเนินคดีต่อด็อกเตอร์คนดังที่บุกรุกสร้างบ้านพักหรูมูลค่านับร้อยล้าน เตรียมสรุปเสนอผู้ว่าฯ เร็วๆ นี้

จากกรณีปัญหาบ้านพักตากอากาศมูลค่านับร้อยล้านบาทของด็อกเตอร์ชื่อดัง ที่สร้างบนที่ดินสาธารณะอ่าวทุ่งทราย หมู่ 3 ตำบลปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร และโฉนดที่ดินซึ่งถูกอธิบดีกรมที่ดิน มีคำสั่งเพิกถอนตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค.2548 เป็นเวลากว่า 10 ปี และศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว แต่เจ้าของยังครอบครองเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และยังได้บุกรุกที่ดินใกล้เคียงเพิ่มมากกว่าเดิม กระทั่งมีชาวบ้านร้องเรียนมณฑลทหารบกที่ 44 (มทบ.44) เข้าไปตรวจสอบ และแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี แต่ยังไม่สามารถดำเนินการทางกฎหมายได้มากนัก เนื่องจากระวางแผนที่แนวเขตในที่ดินแปลงสาธารณประโยชน์ยังไม่มีแนวเขตที่ชัดเจน จนผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยยึดแผนที่ตามประกาศฉบับเดิมขึ้นมาทำการรังวัดใหม่ตามข่าวที่เสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (5 ต.ค.) พ.ท.ดุสิต เกสรแก้ว นายทหารยุทธโยธา จ.ส.อ.อมรไชยขันธ์ จ.ส.อ.กิตติ มณฑิราช จ.ส.ต.อนุศิษฐ์ ม่วงคำ จ.ส.อ.ปรีชา สุขสกุล ทหารชุดเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาที่ดินของรัฐ บก.ควบคุม มทบ.44 พร้อมด้วย นายประไพ กาละ ปลัดอำเภอปะทิว นายประกิจ แข่งขัน รอง นายก อบต.ปากคลอง และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการบุกรุกที่ดินสาธารณะอ่าวทุ่งทราย ตามคำคั่งแต่งตั้งของผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ลงพื้นที่สาธารณะอ่าวทุ่งทราย ทำการส่องกล้องสำรวจยิงระยะแนววางหมุดโดยวัดค่าพิกัดจีพีเอส ดาวเทียม เพื่อทำระวางแผนที่กำหนดแนวเขตนำไปออกเป็นหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง หรือ นสล.

นายประกิจ แข่งขัน รอง นายก อบต.ปากคลอง หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กล่าวว่า การสำรวจรังวัดดังกล่าวได้ทำกันมาตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา จนแล้วเสร็จในช่วงบ่ายของวันนี้ ซึ่งจากการรังวัดมีเนื้อที่อยู่จริงกว่า 200 ไร่ ไม่ใช่ 101 ไร่ ตามที่มีการรังวัดใหม่เมื่อปี 2552 และในวันที่ 11 ตุลาคมนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะได้ประชุมสรุปการทำงานรายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้รับทราบ และกำหนดทำแผนที่แนวเขตแปลงที่ดินเพื่อออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง หรือ นสล. ซึ่งจะมีแนวเขตที่ชัดเจน จากนั้นก็จะใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดีต่อนายทุนที่เข้ามาบุกรุกยึดครองที่ดินสาธารณะสร้างบ้านพักตากอากาศหรูในบริเวณดังกล่าว และยึดคืนที่ดินแปลงสาธารณะที่อธิบดีกรมที่ดิน มีคำสั่งเพิกถอนซึ่งอยู่ใกล้กัน แต่ปัจจุบันนี้ นายทุนคนดังกล่าวยังคงแสดงสิทธิเป็นเจ้าของครอบครองอยู่แม้จะถูกเพิกถอนมานานกว่า 10 ปีแล้วก็ตาม เนื่องจากมีการเล่นแง่กันในทางกฎหมาย