ชุมพร - พ่อเมืองชุมพร จับมือกับ ผบ.มทบ.44 สางคดีรุกที่สาธารณะอ่าวทุ่งทราย สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จ พร้อมดึง อปท.ปปช.ร่วมงาน ยึดคืน เพิกถอนโฉนดของ ดร.คนดัง ติงที่เจ้าหน้าที่ที่ดินเกิดปัญหาเพราะแค่เดินรังวัดตามหลังคนนำชี้จนพื้นที่ขาดหายไปกว่า 400 ไร่
หลังมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อ ดร.พิริยะ ไกรฤกษ์ ญาตินักการเมืองใหญ่ระดับชาติ ข้อหาบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์อ่าวทุ่งทราย หมู่ 3 ตำบลปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร มีการสร้างบ้านพักตากอากาศหรูใหญ่โต 2 หลัง มูลค่าร่วม 100 ล้านบาท บนเนินทรายชายหาด และพบพิรุธความไม่ชอบมาพากลเจ้าหน้าที่รังวัดแปลงที่ดินเดิมตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ผิดพลาดคลาดเคลื่อนขาดหายไปจากเดิมกว่า 400 ไร่ ตามข่าวที่เสนอมาต่อเนื่องนั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 16.00 น. วานนี้ (24 ส.ค.) นายสมดี คชายั่งยืน ผวจ.ชุมพร นายไมตรี ไตรติลานันท์ รอง ผวจ.ชุมพร ได้ประชุมผู้เกี่ยวข้องกับกรณีปัญหาดังกล่าวหลายหน่วยงาน เช่น พ.ท.ดุสิต เกสรแก้ว นายทหารฝ่ายยุทธโยธา พ.ต.สังคม รองมาลี นายทหารฝ่ายกิจการพลเรือน ร.ท.อาทิตย์ คลังนิมิต สวส.(ฝ่ายกฎหมาย) จ.ส.อ.อมร ชัยขรรค์ จ.ส.ต.อนุศิษฐ์ เจ้าหน้าที่ที่ดิน ฝ่ายยุทธโยธา บก.ควบคุม มทบ.44 ชุมพร น.ส.สุภาวณย์ ชูโชติ เจ้าพนักงานที่ดิน จ.ชุมพร นายทะนง รุ่งเรือง เจ้าพนักงานที่ดินสาขาอำเภอปะทิว นายประไพ กาละ ปลัดอำเภอปะทิว นายประกิจ แข่งขัน รองนายก อบต. นายอรรถพร ตันหนึ่ง ปลัด อบต.ปากคลอง ร.ต.อ.นพชัย เกื้อบุญแก้ว รองสารวัตรสอบสวน สภ.มาบอำมฤต เจ้าของคดี และผู้เกี่ยวข้องจากส่วนต่างๆ รวมกว่า 20 คน เข้าร่วมประชุมเพื่อตรวจสอบข้อมูลเอกสาร และข้อชี้แจงจากผู้เกี่ยวข้อง โดย ผวจ.ชุมพร ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่บันทึกการประชุมไว้เป็นหลักฐานด้วย
นายสมดี คชายั่งยืน ผวจ.ชุมพร กล่าวว่าถึงกรณีปัญหาที่สาธารณะอ่าวทุ่งทราย ว่า เป็นข่าวที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และผู้บังคับบัญชาระดับสูง เรื่องที่เกิดขึ้นตนก็เพิ่งจู้จากข่าวที่สื่อมวลชนนำเสนอ ซึ่งมีอยู่ 2 ประเด็น คือ เรื่องโฉนด ที่อธิบดีกรมที่ดินมีคำสั่งถูกเพิกถอนออกโดยมิชอบ แต่เจ้าของยังครอบครองอยู่อย่างปกติมานานนับ 10 ปี และยังมีการบุกรุกเพิ่มเติมซึ่งเกิดขึ้นได้อย่างไร และที่ดินสาธารณประโยชน์พื้นที่ดังกล่าวจากเดิมมีประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อปี พ.ศ.2530 มีอยู่จำนวน 565 ไร่ 3 งาน ต่อมา ในปี 2550 ได้มีการรังวัดใหม่แต่กลับรังวัดเนื้อที่ได้เพียง 101 ไร่ 69 ตารางวา น้อยไปกว่าเดิมถึง 464 ไร่ โดยอ้างว่าที่ประกาศในกิจจานุเบกษาเดิมนั้นมีความผิดพลาดคลาดเคลื่อน ซึ่งตนดูจากระวางแผนที่ท้ายประกาศ มีการลงชื่อผู้มีตำแหน่งจากเชี่ยวชาญหลายคนซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ว่าจะมีการรังวัดผิดพลาดคลาดเคลื่อนได้มากถึงขนาดนั้น
ด้าน นายทะนง รุ่งเรือง เจ้าพนักงานที่ดินสาขาอำเภอปะทิว กล่าวว่า สำนักงานที่ดีก็เปรียบเสมือบุรุษไปรษณีย์ การรังวัดที่ดินในช่วงนั้นมาจากคำร้องขอของท้องถิ่นให้เป็นผู้ดำเนินการ โดยมีผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และชาวบ้านข้างเคียงจะเป็นผู้นำชี้รังวัด ส่วนกรณีที่มีการเพิกถอนโฉนดที่ดินของ ดร.พิริยะ และมีการฟ้องศาลปกครอง จนถึงศาลปกครองสูงสูดได้ยกคำร้องซึ่งคดีได้ถึงที่สุดแล้วนั้น แต่เนื่องจากทางกรมที่ดินไม่ได้แจ้งเรื่องกลับมายังท้องที่ให้รับทราบ จึงไม่มีการดำเนินการใดๆ
ขณะที่ ผวจ.ชุมพร แย้งสวนกลับ ว่า ก็ต้องตรวจสอบไปยังกรมที่ดิน เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วทำไมจึงไม่แจ้งกลับมาให้ท้องถิ่นทราบเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป และกรณีเป็นเจ้าพนักงานที่ดินอ้างว่าเป็นแค่บุรุษไปรษณีย์แค่เดินสำรวจรังวัดตามหลังที่ผู้นำชี้อย่างเดียวนั้นคงไม่ได้ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องยึดหลักฐานระวางแผนที่จริงตามท้ายประกาศในราชกิจจานุเบกษาประกอบด้วย
ขณะที่ พ.ท.ดุสิต เกสรแก้ว นายทหารฝ่ายยุทธโยธา กล่าวว่า ชุดทำงานของตนปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของ พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผบ.มทบ.44/ผบ.ควบคุม มทบ.44 เรามีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทั้งฝ่ายกฎหมาย วิศวกร เจ้าหน้าที่ที่ดิน เจ้าหน้าที่ระวางแผนที่ จากการตรวจสอบข้อมูลหลักฐานการลงพื้นที่จริงทางภูมิศาสตร์ พบมีความผิดปกติความไม่ชอบมาพากล ความคลาดเคลื่อนของกระบวนการรังวัดของเจ้าหน้าที่รัฐปลายประการ ซึ่งขณะนี้ทาง พล.ต.อุดมวิทย์ ได้มีหนังสือที่ กห.0484.75/2221 ลงวันที่ 23 ส.ค.59 เรียนถึง ผวจ.ชุมพร เรื่องขอแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาดังกล่าว โดยให้มีผู้ทรงคุณวุฒิจากทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ(อปท.) สำนักงานคณะกรรมการป้องและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย
ภายหลังการประชุมนานร่วม 2 ชั่วโมง นายสมดี คชายั่งยืน ผวจ.ชุมพร เห็นชอบให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามหนังสือของ พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ จากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยมอบหมายให้ปลัดจังหวัดชุมพร เป็นผู้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนภายใน 7 วัน พร้อมกับให้เรียกประชุมคณะกรรมการชุดดังกล่าวทันที ให้ดำเนินการเป็นไปอย่างรวดเร็ว รัดกุม นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการให้ยึดเอาระวางแผนที่สาธารณประโยชน์อ่าวทุ่งทราย ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ปี 2530 ฉบับเดิมที่มีพื้นที่อยู่จำนวน 565 ไร่ 3 งาน มาใช้ประกอบการทำงาน เพราะต้องถือว่าเป็นประกาศที่ใช้อยู่ยังไม่มีการยกเลิกแต่อย่างใด
พร้อมกับมอบหมายให้เจ้าพนักงานที่ดิน จ.ชุมพร ดำเนินการทำหนังสือผ่านมาถึงตนเซ็นลงชื่อกำกับส่งไปถึงอธิบดีกรมที่ดิน เพื่อขอหลักฐานฟิล์มเขียวต้นฉบับจริงการรังวัดระวางแผนที่ตามท้ายประกาศในราชกิจจานุเบกษามาให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตรวจสอบเทียบกับที่มีการรังวัดใหม่ด้วยว่ามีความผิดพลาดคลาดเคลื่อนจริงหรือไม่อย่างไร และขอเอกสารหลักฐานการเพิกถอนโฉนดที่ดิน รวมถึงคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ยกคำร้องจนคดีถึงที่สุดแล้วมามอบให้แก่ท้องถิ่น และหน่วยงานเกี่ยวข้องไว้เป็นหลักฐานด้วย
หลังมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อ ดร.พิริยะ ไกรฤกษ์ ญาตินักการเมืองใหญ่ระดับชาติ ข้อหาบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์อ่าวทุ่งทราย หมู่ 3 ตำบลปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร มีการสร้างบ้านพักตากอากาศหรูใหญ่โต 2 หลัง มูลค่าร่วม 100 ล้านบาท บนเนินทรายชายหาด และพบพิรุธความไม่ชอบมาพากลเจ้าหน้าที่รังวัดแปลงที่ดินเดิมตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ผิดพลาดคลาดเคลื่อนขาดหายไปจากเดิมกว่า 400 ไร่ ตามข่าวที่เสนอมาต่อเนื่องนั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 16.00 น. วานนี้ (24 ส.ค.) นายสมดี คชายั่งยืน ผวจ.ชุมพร นายไมตรี ไตรติลานันท์ รอง ผวจ.ชุมพร ได้ประชุมผู้เกี่ยวข้องกับกรณีปัญหาดังกล่าวหลายหน่วยงาน เช่น พ.ท.ดุสิต เกสรแก้ว นายทหารฝ่ายยุทธโยธา พ.ต.สังคม รองมาลี นายทหารฝ่ายกิจการพลเรือน ร.ท.อาทิตย์ คลังนิมิต สวส.(ฝ่ายกฎหมาย) จ.ส.อ.อมร ชัยขรรค์ จ.ส.ต.อนุศิษฐ์ เจ้าหน้าที่ที่ดิน ฝ่ายยุทธโยธา บก.ควบคุม มทบ.44 ชุมพร น.ส.สุภาวณย์ ชูโชติ เจ้าพนักงานที่ดิน จ.ชุมพร นายทะนง รุ่งเรือง เจ้าพนักงานที่ดินสาขาอำเภอปะทิว นายประไพ กาละ ปลัดอำเภอปะทิว นายประกิจ แข่งขัน รองนายก อบต. นายอรรถพร ตันหนึ่ง ปลัด อบต.ปากคลอง ร.ต.อ.นพชัย เกื้อบุญแก้ว รองสารวัตรสอบสวน สภ.มาบอำมฤต เจ้าของคดี และผู้เกี่ยวข้องจากส่วนต่างๆ รวมกว่า 20 คน เข้าร่วมประชุมเพื่อตรวจสอบข้อมูลเอกสาร และข้อชี้แจงจากผู้เกี่ยวข้อง โดย ผวจ.ชุมพร ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่บันทึกการประชุมไว้เป็นหลักฐานด้วย
นายสมดี คชายั่งยืน ผวจ.ชุมพร กล่าวว่าถึงกรณีปัญหาที่สาธารณะอ่าวทุ่งทราย ว่า เป็นข่าวที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และผู้บังคับบัญชาระดับสูง เรื่องที่เกิดขึ้นตนก็เพิ่งจู้จากข่าวที่สื่อมวลชนนำเสนอ ซึ่งมีอยู่ 2 ประเด็น คือ เรื่องโฉนด ที่อธิบดีกรมที่ดินมีคำสั่งถูกเพิกถอนออกโดยมิชอบ แต่เจ้าของยังครอบครองอยู่อย่างปกติมานานนับ 10 ปี และยังมีการบุกรุกเพิ่มเติมซึ่งเกิดขึ้นได้อย่างไร และที่ดินสาธารณประโยชน์พื้นที่ดังกล่าวจากเดิมมีประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อปี พ.ศ.2530 มีอยู่จำนวน 565 ไร่ 3 งาน ต่อมา ในปี 2550 ได้มีการรังวัดใหม่แต่กลับรังวัดเนื้อที่ได้เพียง 101 ไร่ 69 ตารางวา น้อยไปกว่าเดิมถึง 464 ไร่ โดยอ้างว่าที่ประกาศในกิจจานุเบกษาเดิมนั้นมีความผิดพลาดคลาดเคลื่อน ซึ่งตนดูจากระวางแผนที่ท้ายประกาศ มีการลงชื่อผู้มีตำแหน่งจากเชี่ยวชาญหลายคนซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ว่าจะมีการรังวัดผิดพลาดคลาดเคลื่อนได้มากถึงขนาดนั้น
ด้าน นายทะนง รุ่งเรือง เจ้าพนักงานที่ดินสาขาอำเภอปะทิว กล่าวว่า สำนักงานที่ดีก็เปรียบเสมือบุรุษไปรษณีย์ การรังวัดที่ดินในช่วงนั้นมาจากคำร้องขอของท้องถิ่นให้เป็นผู้ดำเนินการ โดยมีผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และชาวบ้านข้างเคียงจะเป็นผู้นำชี้รังวัด ส่วนกรณีที่มีการเพิกถอนโฉนดที่ดินของ ดร.พิริยะ และมีการฟ้องศาลปกครอง จนถึงศาลปกครองสูงสูดได้ยกคำร้องซึ่งคดีได้ถึงที่สุดแล้วนั้น แต่เนื่องจากทางกรมที่ดินไม่ได้แจ้งเรื่องกลับมายังท้องที่ให้รับทราบ จึงไม่มีการดำเนินการใดๆ
ขณะที่ ผวจ.ชุมพร แย้งสวนกลับ ว่า ก็ต้องตรวจสอบไปยังกรมที่ดิน เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วทำไมจึงไม่แจ้งกลับมาให้ท้องถิ่นทราบเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป และกรณีเป็นเจ้าพนักงานที่ดินอ้างว่าเป็นแค่บุรุษไปรษณีย์แค่เดินสำรวจรังวัดตามหลังที่ผู้นำชี้อย่างเดียวนั้นคงไม่ได้ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องยึดหลักฐานระวางแผนที่จริงตามท้ายประกาศในราชกิจจานุเบกษาประกอบด้วย
ขณะที่ พ.ท.ดุสิต เกสรแก้ว นายทหารฝ่ายยุทธโยธา กล่าวว่า ชุดทำงานของตนปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของ พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผบ.มทบ.44/ผบ.ควบคุม มทบ.44 เรามีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทั้งฝ่ายกฎหมาย วิศวกร เจ้าหน้าที่ที่ดิน เจ้าหน้าที่ระวางแผนที่ จากการตรวจสอบข้อมูลหลักฐานการลงพื้นที่จริงทางภูมิศาสตร์ พบมีความผิดปกติความไม่ชอบมาพากล ความคลาดเคลื่อนของกระบวนการรังวัดของเจ้าหน้าที่รัฐปลายประการ ซึ่งขณะนี้ทาง พล.ต.อุดมวิทย์ ได้มีหนังสือที่ กห.0484.75/2221 ลงวันที่ 23 ส.ค.59 เรียนถึง ผวจ.ชุมพร เรื่องขอแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาดังกล่าว โดยให้มีผู้ทรงคุณวุฒิจากทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ(อปท.) สำนักงานคณะกรรมการป้องและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย
ภายหลังการประชุมนานร่วม 2 ชั่วโมง นายสมดี คชายั่งยืน ผวจ.ชุมพร เห็นชอบให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามหนังสือของ พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ จากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยมอบหมายให้ปลัดจังหวัดชุมพร เป็นผู้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนภายใน 7 วัน พร้อมกับให้เรียกประชุมคณะกรรมการชุดดังกล่าวทันที ให้ดำเนินการเป็นไปอย่างรวดเร็ว รัดกุม นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการให้ยึดเอาระวางแผนที่สาธารณประโยชน์อ่าวทุ่งทราย ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ปี 2530 ฉบับเดิมที่มีพื้นที่อยู่จำนวน 565 ไร่ 3 งาน มาใช้ประกอบการทำงาน เพราะต้องถือว่าเป็นประกาศที่ใช้อยู่ยังไม่มีการยกเลิกแต่อย่างใด
พร้อมกับมอบหมายให้เจ้าพนักงานที่ดิน จ.ชุมพร ดำเนินการทำหนังสือผ่านมาถึงตนเซ็นลงชื่อกำกับส่งไปถึงอธิบดีกรมที่ดิน เพื่อขอหลักฐานฟิล์มเขียวต้นฉบับจริงการรังวัดระวางแผนที่ตามท้ายประกาศในราชกิจจานุเบกษามาให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตรวจสอบเทียบกับที่มีการรังวัดใหม่ด้วยว่ามีความผิดพลาดคลาดเคลื่อนจริงหรือไม่อย่างไร และขอเอกสารหลักฐานการเพิกถอนโฉนดที่ดิน รวมถึงคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ยกคำร้องจนคดีถึงที่สุดแล้วมามอบให้แก่ท้องถิ่น และหน่วยงานเกี่ยวข้องไว้เป็นหลักฐานด้วย