ยะลา - ปริมาณน้ำในเขื่อนบางลาง จ.ยะลา ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบแพท่องเที่ยว และกระชังเลี้ยงปลา ทำให้ชาวบ้านขาดรายได้นานกว่า 3 เดือน หวั่นหากฝนไม่ตกตามฤดูกาลมีหวังการท่องเที่ยวทรุด
วันนี้ (29 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากปัญหาปริมาณน้ำในเขื่อนบางลาง จ.ยะลา ได้มีปริมาณน้อยลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากฝนตกทิ้งช่วงเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 3 เดือน ทำให้ไม่มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำเขื่อนบางลาง ขณะที่ทางเขื่อนบางลางจำเป็นต้องปล่อยมวลน้ำต่อเนื่องในปริมาณ 2 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพื่อเป็นการผลักดันน้ำเค็ม และเพื่อการอุปโภคของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใต้เขื่อนบางลาง ได้แก่ จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี
โดยล่าสุด ปริมาณน้ำที่มีอยู่ในเขื่อนบางลาง จากการรายงานสถานการณ์น้ำเมื่อวันที่ 29 ก.ย.59 มีปริมาณน้ำในเขื่อนบางลาง จ.ยะลา ทั้งหมดที่ 407.73 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่สามารถใช้น้ำได้จริงที่ 131.45 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 11.16 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจผลกระทบจากประชาชนที่อาศัยอยู่ริมเขื่อนบางลาง ในพื้นที่บ้านตาพะเยา ม.11 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา ซึ่งมีอาชีพการทำประมงน้ำจืด และทำแพท่องเที่ยวเชิงนิเวศ หลังจากที่จังหวัดยะลา ได้มีแผนพัฒนาการท่องเที่ยวในจังหวัดยะลา ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ตั้งแต่ปี 2557 โดย นายสว่าง ลิ่ววิวัฒน์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11 บ้านตาพะเยา ได้พาล่องเรือไปชมพื้นที่ในเขื่อนบางลาง ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาปริมาณน้ำลดลงต่ำสุดในรอบ 36 ปี
นายสว่าง ลิ่ววิวัฒน์ ผู้ใหญ่บ้านตาพะเยา กล่าวว่า ปีนี้ถือว่าเป็นวิกฤตหนักที่สุดในรอบ 36 ปี ที่ปริมาณน้ำในเขื่อนบางลางได้ลดลงเป็นอย่างมาก จนส่งผลกระทบต่อชาวบ้านที่อาศัยอยู่เหนือเขื่อนบางลางจำนวนหลายหมู่บ้านที่ต้องใช้การเดินทางโดยเรือผ่านอ่างเก็บน้ำเขื่อนบางลาง ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสิ่งของพืชผลทางการเกษตรของประชาชนในพื้นที่ การเดินทางไปประกอบอาชีพกรีดยางพารา ในสวนของตนเองที่ต้องนั่งเรือไป
อีกทั้งผลกระทบหนักที่ส่งไปถึงประชาชนที่ประกอบการแพท่องเที่ยวซึ่งมีอยู่จำนวนกว่า 10 ลำ ที่ต้องจอดแน่นิ่ง ไม่สามารถนำนักท่องเที่ยวออกไปเที่ยวชมธรรมชาติในเขื่อนบางลางเหมือนที่ผ่านมา ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่ได้จองแพท่องเที่ยวไว้ต่างก็ต้องยกเลิกการจอง หลังจากทราบข่าวว่าปริมาณน้ำในเขื่อนบางลางลดลง ทำให้ชาวบ้าน และผู้ประกอบแพท่องเที่ยวต้องขาดรายได้มาเป็นระยะเวลากว่า 3 เดือนแล้ว
“นอกจากนี้ ปริมาณน้ำที่ลดลงยังส่งผลต่อประชาชนที่ทำการประมงน้ำจืด การเลี้ยงปลาในกระชังก็เสียหายไม่สามารถจะเลี้ยงได้ เนื่องจากกิ่งไม้ และตอไม้โผล่มาทำให้กระชังเลี้ยงปลาได้รับความเสียหาย โดยขณะนี้มีประชาชนที่ใช้ชีวิตอยู่กับสายน้ำ และอาศัยอยู่เหนือเขื่อนบางลางจำนวนหลายหมู่บ้านได้รับผลกระทบจากปัญหาระดับน้ำที่ลดลงเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเกิดความกังวลใจหากฝนไม่ตกลงมาตามฤดูกาลในช่วงเวลาต่อจากนี้ อาจจะส่งผลกระทบยาวไปจนถึงกลางปีหน้าอย่างแน่นอน” ผู้ใหญ่บ้านตาพะเยา กล่าว