น้ำท่วมสวนกล้วยชาวโผงเผง ปลากระชังน็อกตายอื้อ “ผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี” สั่งเร่งช่วยชาวบ้านริมฝั่งท่าจีน

อ่างทอง/สุพรรณบุรี - น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านอ่างทอง เริ่มทรงตัว แต่ยังแผลงฤทธิ์ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน ทำให้ชาวสวนกล้วยที่อยู่บริเวณริมคลองโผงเผง ถูกน้ำท่วมหลายไร่ ชาวบ้านต้องช่วยกันเร่งสูบน้ำออก หวั่นต้นกล้วยตาย ขณะที่ลูกปลาในกระชังที่เลี้ยงไว้น็อกน้ำตายอื้อ ด้านผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี ห่วงชาวบ้านริมฝั่งท่าจีน ล่าสุด พบ 3 อำเภอได้รับผลกระทบถูกน้ำท่วมแล้ว สั่ง จนท.เร่งให้ความช่วยเหลือ

วันนี้ (27 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านจังหวัดอ่างทอง ว่า เริ่มทรงตัว ล่าสุด ที่สถานีวัดน้ำชลมาตร C7A บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง มีน้ำไหลผ่าน 1,894 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำอยู่ที่ 7.30 เมตร จากระดับตลิ่ง 9.32 เมตร ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ขณะนี้ประชาชนใน จ.อ่างทอง ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้วทั้งสิ้น 3 อำเภอ 10 ตำบล 30 หมู่บ้าน 583 ครัวเรือน

โดยเฉพาะเกษตรกรที่ปลูกกล้วยไข่บริเวณริมคลองโผงเผง หมู่ 5 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เนื่องจากขณะนี้น้ำได้ไหลซึมเข้าท่วมสวนกล้วยเป็นจำนวนหลายไร่ ทำให้ชาวบ้านช่วยกันตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำออกเพื่อป้องกันสวนกล้วยเน่าเสีย และยืนต้นตาย ขณะที่เกษตรกรที่ประกอบอาชีพเลี้ยงปลากระชังบริเวณคลองโผงเผง ก็ได้รับผลกระทบจากน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และไหลแรงเช่นกัน เนื่องจากทำให้ลูกปลาทับทิมที่เลี้ยงไว้ในกระชังปรับสภาพไม่ทันทำให้น็อกน้ำตายเป็นจำนวนมาก

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สุพรรณบุรี ว่าที่ ร.ต.สุพีร์พัฒน์ จองพานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า หลังจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ได้ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้มีน้ำไหลผ่านประตูระบายน้ำพลเทพ เขต จ.ชัยนาท ปากแม่น้ำสุพรรณ ลงสู่แม่น้ำท่าจีน เข้าประตูน้ำโพธิ์พระยา เขต อ.เมืองสุพรรณบุรี ในอัตราสูงขึ้น

ล่าสุด ระดับน้ำได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอของจังหวัด คือ อ.เมืองสุพรรณบุรี อ.บางปลาม้า และ อ.สองพี่น้อง บางจุดสูงกว่า 1 เมตร หนักสุดที่ อ.สองพี่น้อง เพราะมีลักษณะภูมิประเทศเป็นจุดลุ่มต่ำ และเป็นพื้นที่รองรับน้ำ ภาพรวมพบบ้านเรือนประชาชน รวมถึงพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถระบุตัวเลขที่ชัดเจนได้ เนื่องจากต้องรอให้เจ้าหน้าที่ทำการสำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง

สำหรับสาเหตุที่เกิดน้ำท่วมดังกล่าวมาจากฝนในพื้นที่มีปริมาณมาก ประกอบกับมวลน้ำเหนือไหลมาสมทบ เบื้องต้น หากเขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำเพิ่มขึ้นอีกจะยิ่งทำให้ประชาชน โดยเฉพาะที่อาศัยอยู่ริมฝั่งของแม่น้ำท่าจีนได้รับความเดือดร้อน ทั้งนี้ ยังคงต้องรอดูสถานการณ์ฝนอยู่อย่างต่อเนื่อง และแม้ว่าฝนจะหยุดตก ทางจังหวัดก็ไม่สามารถประเมินได้ว่าน้ำจะลดกลับสู่ภาวะปกติได้เมื่อใด อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันตนได้สั่งการให้ทุกหน่วย ทั้งชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามข่าวสารใกล้ชิด ควบคู่กับการเตรียมความพร้อมรับมือกรณีเกิดอุกทกภัยฉุกเฉิน และเร่งให้ความช่วยเหลือแก่ราษฎรที่ประสบภัยแล้ว