ผู้เลี้ยงปลากระชังกรุงเก่าครวญน้ำเป็นสีแดงส่งปลาปรับตัวไม่ทันน็อกน้ำตายเพียบ

พระนครศรีอยุธยา - ผู้เลี้ยงปลากระชังในพื้นที่ตำบลทางช้าง อำเภอบางบาล ครวญน้ำที่ไหลบ่าลงมาจากภาคเหนือมีสภาพเป็นสีแดงเหมือนน้ำป่า ทำให้ปลาทับทิมในกระชังปรับตัวไม่ทันน็อกตายจำนวนมากวันละ 500-1,000 ตัว

วันนี้ (6 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจระดับน้ำในแม่น้ำน้อย ในพื้นที่ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่า ขณะนี้ระดับน้ำได้ลดลงประมาณ 20-30 เซนติเมตร แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ราบลุ่มบริเวณบ้านเรือนประชาชนอยู่ ขณะเดียวกัน พบว่ากระชังปลาทับทิมในเขตพื้นที่ ต.ทางช้าง อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำที่ท่วม และน้ำที่ไหลลงมาจากทางภาคเหนือ ซึ่งสภาพน้ำเป็นสีแดงเหมือนน้ำป่า ทำให้ปลาทับทิมในกระชังของเกษตรกรจำนวนมากน็อกน้ำ ประกอบกับในช่วงนี้มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน และอากาศเย็นเนื่องจากฝนตก ส่งผลต่อสภาพน้ำ และปลาน็อกน้ำตายไปลงวันละ 500-1,000 ตัว

จากการสอบถาม ร.อ.จรูญ นาคสินธุ์ อายุ 60 ปี เจ้าของกระชังปลาทับทิม อยู่บ้านเลขที่ 28/1 ม.3 ต.ทางช้าง อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ทราบว่า ในช่วงนี้ในพื้นที่มีน้ำท่วม และสภาพน้ำเปลี่ยนสีเป็นสีแดง ทำให้ปลาในกระชังจำนวนมากได้รับผลกระทบ โดยปลาทับทิมในกระชังที่ตนเลี้ยงไว้มีกว่า 54 กระชัง กระชังละ 2,000 ตัว ปลามีอาการปลาน็อกน้ำลอยตายตกวันละ 100 กิโลกรัม คนงานของตนที่ดูแลกระชังปลาต้องตักปลาออกทุกเช้า และช่วงบ่าย ทำให้ตนได้รับความเดือดร้อน และขาดทุนวันจากสภาพน้ำที่เปลี่ยนแปลงในช่วงน้ำท่วมนี้