ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ชี้แจงกรณีถูกช่างภาพแจ้งความเอาผิดอธิการบดีตบศีรษะ เนื่องจากขอบคุณเจ้าของมหาวิทยาลัยไม่เหมาะสมโดยการโค้งไม่ยกมือไหว้ ระบุถูกกล่าวหาเกินจริงเป็นเพียงการแนะนำในฐานะลูกศิษย์กับอาจารย์เรื่องการเคารพผู้ใหญ่
วันนี้ (25 ก.ย.) จากกรณีที่ไม่มีการแชร์ภาพทางเฟซบุ๊กของผู้ที่ใช้ชื่อว่า Teerayut Jittapong ซึ่งได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เพื่อเอาผิดต่ออธิการมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ ซึ่งได้ทำร้ายร่างกายตนโดยตบเข้าที่บริเวณศีรษะหลายครั้ง
โดยเรื่องราวที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Teerayut Jittapong เล่าในวันเกิดเหตุระบุว่า ตัวเองทำงานเป็นช่างภาพของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ในวันเกิดเหตุหลังทำงานเสร็จทางเจ้าของมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นแม่ของอธิการบดีบอกว่า ได้ซื้อข้าวกล่องมาฝากแล้ว ตนจึงโค้งคำนับโดยไม่ยกมือไหว้ แต่อธิการบดีไม่พอใจบอกว่า ทำไมทำแบบนั้นไปขอบคุณใหม่ และตบตน 2 ครั้งแรงๆ จากนั้นตนก็หันไปสบตา อธิการบดีได้ผลักพร้อมตบอีก 2-3 ครั้ง ซึ่งมีคนอยู่ในเหตุการณ์หลายคน ตนมองว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุจึงได้เข้าแจ้งความเอาผิด พร้อมกับได้โพสต์ภาพขณะแจ้งความผ่านทางเฟซบุ๊ก และมีการแชร์ต่อกันในสังคมออนไลน์ และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง
ล่าสุด ทางมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีนี้แล้ว ซึ่งมีการกล่าวหาว่าอธิการบดีทำร้ายร่างกายบุคลากร เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา เหตุเกิดในห้องอาหารร้อยเกาะ อาคารสุราษฎร์ธานี ช่วงเกิดเหตุมีบุคลากรรับประทานอาหารกลางวันอยู่บริเวณนั้น 11 คน เลขานุการของอธิการบดีได้ตาม นายธีรยุทธ จิตตพงศ์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายโสตฯ (ช่างภาพ) ของมหาวิทยาลัยมาถ่ายภาพที่ห้องร้อยเกาะ และนายธีรยุทธ มาถ่ายภาพเรียบร้อย พอเสร็จท่านผู้ได้รับอนุญาต (แม่ของอธิการบดี) บอกนายธีรยุทธ ว่า เตรียมข้าวเที่ยงไว้ให้ไปรับที่ห้องทำงาน นายธีรยุทธ กล่าวขอบคุณแม่ของอธิการบดี
ซึ่งอธิการบดียืนอยู่ใกล้กับ นายธีรยุทธ์ อธิการบดีในฐานะครูกับศิษย์ และเป็นรักษาการคณบดีคณะนิเทศศาสตร์ นายธีรยุทธ์ ก็เป็นศิษย์เก่าของคณะนิเทศศาสตร์ จึงได้สอน นายธีรยุทธ โดยแนะนำ นายธีรยุทธ ว่า การแสดงความเคารพต่อผู้ใหญ่ควรต้องยกมือไหว้ และได้ใช้มือผลักศีรษะด้านหลัง 2 ครั้ง และอธิการบดีได้ให้ นายธีรยุทธ เดินไปพบท่านผู้ได้รับอนุญาตพร้อมกัน เพื่อขอบคุณอีกครั้ง แต่นายธีรยุทธ หันมองหน้าอธิการบดี อธิการบดีจึงผลักศีรษะอีก 1 ครั้ง โดยอธิการบดีไม่ได้แสดงอาการโกรธแต่อย่างใด หลังจากนั้น นายธีรยุทธ ก็เดินออกจากห้องร้อยเกาะไปโดยไม่มีเหตุการณ์โต้เถียงเสียงดังเกิดขึ้น
หนังสือชี้แจงยังระบุอีกว่า หากเกิดเหตุการณ์ตามที่นายธีรยุทธ กล่าวอ้างจริง ต้องเป็นการกระทำที่รุนแรง และมีเสียงดังเกิดขึ้น และเป็นที่สนใจของบุคลากรที่อยู่บริเวณนั้น แต่ปรากฏว่า บุคลากรส่วนใหญ่ที่อยู่ ณ ที่นั้นไม่ได้เยินเสียง มีเพียงบุคลากรที่อยู่ใกล้กับเหตุการณ์ดังกล่าว 2 คนเท่านั่นที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งสามารถยืนยันได้ว่า เหตุการณ์ตามข่าวเป็นการกล่าวหาที่เกินจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น นายธีรยุทธ ได้ลาออกจากการเป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว
