ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตร.บุกจับกุม 2 คนร้ายชายหญิงคาห้องเช่าย่านชานเมืองหาดใหญ่ ที่ก่อเหตุลักทรัพย์ในร้านทองเมื่อ 2 วันก่อน เผยฝ่ายหญิงเป็นนักศึกษาปี 3 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ เจ้าตัวรับสารภาพ แต่ยังให้การวกไปวนมา
ความคืบหน้าเหตุ 2 คนร้ายซึ่งเป็นหญิง และชายเข้าไปลักทรัพย์ที่ร้านทอง “ห้างทองไทยโชคชัย” ตั้งอยู่เลขที่ 17 ถนนธรรมนูญวิถี ย่านหน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้สร้อยข้อมือทองคำหนัก 1 บาท 50 สตางค์ ไป 3 เส้น รวมมูลค่า 31,500 บาท เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (22 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ นำโดย พ.ต.ท.เอกรัฐ สวนแสน รองผู้กำกับการ สภ.หาดใหญ่ สามารถติดตามจับกุมคนร้ายทั้ง 2 คนได้แล้ว ภายในห้องเช่าหมายเลข 502 ของหอพักแห่งหนึ่งย่านชุมชนหัวรั้ว ถนนคลองเตยพัฒนา เขตเทศบาลเมืองคอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากที่ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา พยายามตามแกะรอยจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี จนทราบเบาะแสมาเปิดห้องพักอยู่ในหอพักย่านชุมชนหัวรั้ว และเข้าจับกุมได้คาห้อง
จากการตรวจสอบทราบชื่อคือ น.ส.อาทิตยา โพธิ์ทอง อายุ 21 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช นักศึกษาปี 3 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และนายเชษฐา ผลาจันทร์ อายุ 18 ปี แฟนหนุ่มชาว จ.พัทลุง ตรวจค้นภายในห้องพบของกลาง 10 รายการ ที่เกี่ยวข้องต่อการก่อเหตุ เช่น สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 50 สตางค์ ที่ทั้งคู่นำสร้อยคอมือทองคำที่ขโมยมาไปเปลี่ยนที่ร้านทองแห่งหนึ่ง วิกผมปลอม หมวกกันน็อก 2 ใบ เสื้อผ้าที่ทั้ง 2 คนสวมใส่ บ้องกัญชา 1 อัน และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟไอ 110 สีดำ ทะเบียนป้ายแดง 4167 พิธานพาณิชย์
แต่จากการสอบสวน น.ส.อาทิตยา ยอมรับสารภาพเพียงคนเดียว โดยบอกว่า ตนเป็นคนทำคนเดียว โดยที่แฟนหนุ่มซึ่งคบหากันมา 7 เดือน หลังจากที่รู้จักกันทางเฟซบุ๊ก ไม่รู้เรื่อง เพียงแต่ได้ขอช่วยให้ขับรถให้เท่านั้น ส่วนเหตุจูงใจที่ต้องลักทรัพย์ร้านทอง น.ส.อาทิตยา ยังให้การวกไปวนมา อ้างว่าเข้าไปติดต่อเรื่องทองที่จำนำไว้แต่ใบรับจำนำหาย และเผลอหยิบซองใส่ทองติดมือมาด้วยโดยไม่รู้ว่ามีทองอยู่ข้างใน แต่จากพฤติกรรมในการก่อเหตุ รวมทั้งคำให้การของเจ้าของร้านประสงค์ต่อทรัพย์อย่างชัดเจน
หลังถูกจับกุม พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง รทท.ผบช.ภ 9 ได้เดินทางมาติดตามคดี พร้อมกับแถลงข่าวรายละเอียดการจับกุมต่อสื่อมวลชน ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นการจับกุม
