xs
xsm
sm
md
lg

มาหาดใหญ่อย่าพลาดทัวร์ “ไหว้ 9 สิ่งศักดิ์สิทธิ์” ได้ทั้งบุญและเป็นสิริมงคลชีวิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

1
 
ใครที่มีโอกาสเดินทางมาเยือนเมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา โดยจะเพื่อท่องเที่ยว ร่วมประชุมสัมมนา มีธุระปะปัง แวะพักเพื่อเดินทางต่อไปยังจังหวัดใกล้เคียง หรือแม้แต่ต้องการเดินทางข้ามแดนต่อไปยังประเทศมาเลเซีย นอกจากกิจกรรมสำคัญๆ ที่ต้องหาเวลาไปแวะชอปสินค้า และชิมอาหารอร่อย ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะเมืองแล้ว “เที่ยวท่องล่องใต้” ขอแนะนำอีกกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดคือ...
 
 
“ตระเวนไหว้ 9 สิ่งศักดิ์สิทธิ์รอบเมืองหาดใหญ่”
 
การตะลอนทัวร์สักการะ 9 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งใน และรอบๆ เมืองหาดใหญ่ MGR Online ภาคใต้” ได้ส่งทีมไปสำรวจ และวางเส้นทางให้ใช้เวลาน้อยที่สุด ร่วมๆ แล้วเพียงครึ่งวัน หรือให้เต็มเหยียดก็ไม่เกิน 1 วัน อันสามารถสร้างความเพลิดเพลินจำเริญใจ แถมด้วยความประทับใจได้อย่างยากจะลืมเลือน และไม่เพียงเท่านั้น ยังจะได้รับบุญกุศล และความเป็นสิริมงคลสำหรับชีวิตกลับไปอย่างเปี่ยมล้นด้วย
 
ใครที่นำรถยนต์มาเองยิ่งสะดวก หากไม่มีก็ว่าจ้างรถตุ๊กตุ๊ก หรือจะให้ใหญ่หน่อยก็รถสองแถว แต่ถ้าให้สะดวกสบายขึ้นก็เช่ารถตู้ ถามไถ่หรือติดต่อที่สถานที่พักได้เลย หลังอาหารเช้าน่าจะเป็นเวลาเหมาะที่สุด แล้วเรียงลำดับขั้นไปตามเส้นทางดังนี้
 
2
 
1.พระพุทธมงคลมหาราช
 
เริ่มออกเดินทางด้วยการมุ่งหน้าไปยังสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ แล้วไต่ขึ้นเขาคอหงส์ไปสักนิดก็จะได้ไหว้พระพุทธรูปประจำเมืองหาดใหญ่ นับเป็นการเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ “พระพุทธมงคลมหาราช” ถือเป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ปางห้ามญาติ ยืนตระหง่านอยู่บนเนินเขาหันหน้าเข้าสู่ตัวเมืองหาดใหญ่ ไหว้พระแล้วไปเดินชมวิวทิวทัศน์ต่อ บนเนินเข้านั้นสามารถมองเห็นเมืองหาดใหญ่ไปจนถึงเมืองสงขลา และต่อเนื่องไปทะเลสาบสงขลาที่ไกลสุดตา ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปเซลฟี่กันมากมาย
 
3
 
2.ท้าวมหาพรหม

ไหว้พระเสร็จก็ไต่ขึ้นสู่ยอดเขาคอหงส์ไปต่อกันที่ “ท้าวมหาพรหม” ที่มักเรียกกันว่า “พระพรหม” ทั้งภายในศาล และทั่วๆ บริเวณจะสังเกตเห็นว่ามีรูปปั้น และรูปแกะสลักช้างล้อมเต็มไปหมด ทั้งนี้ ก็เนื่องจากเป็นที่นิยมเดินทางขึ้นไปสักการะ หรือแม้กระทั่งบนบานศาลกล่าวจากทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์เชื้อสายจีนที่หลั่งไหลไปกราบไหว้สักการะอย่างไม่ขาดสายกันเลยทีเดียว
 
4
5
 
3.พระโพธิสัตว์กวนอิม
 
จากนั้นช่วงลงจากเทือกเขาคอหงส์ก็แวะสักการะ “พระโพธิสัตว์กวนอิม” หรือที่มักเรียกว่าแบบติดปากว่า “เจ้าแม่กวนอิม” ที่ต้องจัดว่าเป็นอลังการที่สุด และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพราะสร้างขึ้นจากหินหยกขาวสั่งตรงพิเศษจากจีนแผ่นดินใหญ่ ทั้งด้วยสวยงาม และความศักดิ์สิทธิ์ของพระโพธิสัตว์กวนอิมบนเทือกเขาคอหงส์แห่งนี้ จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนจากมาเลเซีย และสิงคโปร์เดินทางไปกราบไหว้กันเป็นจำนวนมาก
 
6
7
 
4.พระบรมธาตุทักษิณเจดีย์ศรีโสภณเจดีย์
 
ลงจากเทือกเขาคอหงส์ พ้นรั้วสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่นิดเดียว บนถนนกาญจนวณิชย์ กลับเข้าเมืองหาดใหญ่ ด้านขวาก็จะพบทางเข้า “วัดคลองเปล” เลี้ยวเข้าไปนิดเดียวก็จะได้พบอาคารที่สถาปัตยกรรมทั้งสวย และแปลกตามากมาย เด่นที่สุดคือ “พระบรมธาตุทักษิณเจดีย์ศรีโสภณเจดีย์” เป็นสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัย สังเกตได้จากเจดีย์เป็นองค์ระฆังคว่ำ ผอมเรียว มีการย่อมุม และเจดีย์องค์เล็กๆ ล้อมรอบอยู่ ภายในเจดีย์มีพระพุทธรูปเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก และมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่อยู่กลางใจวิหารให้ได้สักการบูชา นอกจากนี้ ภายในวัดคลองเปลมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สักการะอีกมากมาย
 
8
9
 
5.เจดีย์ชเวดากอง

จากวัดคลองเปล มุ่งหน้าต่อไปยัง “เจดีย์ชเวดากอง” ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหลัง “วัดคลองแห” อีกมุมเมืองของหาดใหญ่ สำหรับเจดีย์ชเวดากองของที่นี่ถือเป็นเจดีย์องค์แรกที่ชาวพม่าสร้างขึ้นในประเทศไทย โดยจำลองมาจากพระธาตุมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า แม้เวลานี้จะยังสร้างไม่เสร็จทีเดียว แต่เป็นรูปเป็นร่างที่โดดเด่นเห็นได้ชัดเจนแล้ว แน่นอนเมื่อแล้วเสร็จน่าจะวิจิตรงดงามไม่น้อยที่เดียว เอาเป็นว่าควรหาโอกาสไปสักการะ และชมความงามได้ตั้งแต่ตอนนี้เพื่อจะได้เห็นพัฒนาการที่น่าตื่นตาตื่นใจ
 
10
11
 
6.พระพุทธมหัตตมงคล
 
จากวัดคลองแห กลับเข้าสู่ตัวเมืองมุ่งหน้าสู่ย่านหาดใหญ่ในไปที่ “วัดมหัตตมังคลาราม” เพื่อไปไหว้ “พระพุทธมหัตตมงคล” หรือที่ชาวบ้านร้านตลาดเรียกกันว่า “พระนอนวัดหาดใหญ่ใน” ซึ่งเป็นพระนอนองค์ที่เชื่อกันว่าใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก มีการสร้างมณฑปครอบไว้อย่างวิจิตรบรรจง ทำให้มีชาวพุทธทั้งไทย และเทศหลั่งไหลไปสักการะ ชมความใหญ่โต และความสวยงามอย่างไม่ขาดสาย ถือว่าเป็นที่ขึ้นชื่อลือชาต่อทั้งชาวพุทธว่า ถ้ามาเที่ยวเมืองหาดใหญ่แล้วไม่ได้ไปไหว้พระนอนที่นี่ เหมือนยังมาไม่ถึงเมืองหาดใหญ่
 
12
13
 
7.หลวงปู่ทวดวัดโคกฯ
 
จากวัดพระนอนวัดหาดใหญ่ใน เดินทางอีกไม่ไกลกันนักก็ถึง “วัดโคกสมานคุณ” แค่ก้าวพ้นรั้ววัดก็จะเห็นรูปปั้น “หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด” องค์ใหญ่เด่นตระหง่านอยู่บนหลังคาอาคารหลังหนึ่ง คนหาดใหญ่มักเรียกว่า “หลวงปู่ทวดวัดโคกฯ” ถือเป็นอีกสถานที่ที่ผู้คนทั้งชาวไทย ชาวมาเลเซีย และชาวสิงคโปร์นิยมไปสักการะ สำหรับวัดโคกสมานคุณ ถือเป็นวัดพระอารามหลวง เป็นวัดเก่าแก่ของเมืองหาดใหญ่ที่ก่อตั้งมานับ 100 ปี และเป็นศาสนสถานที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวหาดใหญ่ และยังมีสิ่งสำคัญภายในวัดให้สักการะกันอีกมากมายด้วย
 
14
15
 
8.โบสถ์วัดคลองเรียน
 
ผ่านย่านหาดใหญ่ในแล้วผ่าตัวเมืองหาดใหญ่ข้ามไปอีกฟากก็ถึง “วัดคลองเรียน” ที่อยู่ติดกับโรงเรียนเทศบาล 4 (ท.4) เมื่อขับเข้าไปภายในวัดสิ่งแรกที่เราสะดุดตาก็คือ “โบสถ์” เพราะโบสถ์ของวัดนี้มีพื้นสีฟ้า แล้ววาดลวดลายเหมือนสวรรค์ สีสันสดใส สวยสด และมีพระประธานเก่าแก่หลายร้อยปีให้สักการะ โดยเฉพาะผู้คนมักนิยมไปขอพร หรือไปกราบไหว้ในวันสำคัญทางศาสนาพุทธ วัดคลองเรียน ถือเป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่คู่เมืองหาดใหญ่มาช้านานเช่นกัน
 
16
17
 
9.พระมาลัยโปรดนรก และเจดีย์จีนโบราณ 9 ชั้น
 
จากวัดคลองเรียน เลี้ยวไปตามถนนกาญจนวณิชย์เส้นมุ่งหน้าสู่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ (ม.อ.หาดใหญ่) ถึงแยกวัดโคกนาว เลี้ยวซ้ายไปหน่อยก็จะถึงเป้าหมายสุดท้าย “วัดถาวรวราราม” ซึ่งอยู่ติดกับวัดโคกนาว ภายในวัดก็จะมี “พระมาลัยโปรดนรก” องค์ใหญ่ที่เด่นมากๆ มองเห็นได้จากระยะไกล วัดจีนนิกายแห่งนี้ยังมีความสวยงามด้านสถาปัตยกรรม รวมถึงรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และยังมี “เจดีย์ 9 ชั้น” ที่ถูกออกแบบตามสถาปัตยกรรมจีนโบราณ ภายในมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สักการะ และชมความงามอย่างมากมาย
 
18
 
ความจริงแล้วกิจกรรม “ตระเวนไหว้ 9 สิ่งศักดิ์สิทธิ์รอบเมืองหาดใหญ่” ที่ภูมิใจนำเสนอในครานี้ไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และเทศที่เดินทางมาเยี่ยมเยือนเมืองหาดใหญ่เท่านั้นที่ไม่ควรพลาด คนบ้านใกล้เรือนเคียง หรือกระทั่งชาวหาดใหญ่ หรือคนที่มาลงหลักปักฐานอยู่เมืองหาดใหญ่เอง ต่างก็สมควรที่จะหาโอกาสทำกิจกรรมนี้ เอาเป็นว่าในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ใครที่ไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนแวะไปไหว้พระทำบุญ สักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อสิริมงคลแก่ตัวเอง และครอบครัวกันดีกว่า อิ่มทั้งบุญ อิ่มทั้งใจแน่นอน 
 
--------------------------------------------------------------------------------
 
เรื่องและภาพ  
นางสาวสุธาทิพย์ โหดสุบ
นางสาวปุณญาณัช แก้วพิลา
นางสาวนงลักษณ์ อินทรโท
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น