xs
xsm
sm
md
lg

“เชียงราย-พะเยา” แอ่วเหนือหน้าฝน ไหว้พระเสริมมงคล เดินสุดฟินสะพานยอดไม้บนดอยตุง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สวนแม่ฟ้าหลวง  ดอยตุง
หน้าฝนอาจจะเป็นหน้าที่ใครๆ หลายคนไม่ค่อยอยากออกไปเที่ยวกันสักเท่าไรนัก แต่สำหรับตะลอนเที่ยว แล้วไม่มีหน้าไหนที่จะได้ความรู้สึกที่จะมีชีวิตชีวาไปกว่าหน้าฝน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคเหนือ และททท.สำนักงานเชียงราย จึงได้คัดสรรสำรวจเส้นทางท่องเที่ยว “เชียงราย-พะเยา” ที่น่าสนใจ สำหรับใครที่อยากขึ้นไปเที่ยวภาคเหนือในหน้าฝนให้เราได้ไปยลกัน
พระพุทธรูปแกะสลักจากหินทราย
อุทยานพุทธศิลป์  ใน วัดห้วยผาเกี๋ยง
เริ่มต้นทริปนี้กันด้วยที่ จังหวัดพะเยา จังหวัดที่เชื่อมต่อการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงรายได้น่าสนใจ โดยไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธ์ ที่ วัดห้วยผาเกี๋ยง (สำนักวิปัสสนาผาธรรมนิมิต) ซึ่งกำลังถูกกล่าวขานถึงความวิจิตรงดงามของพระพุทธรูปแกะสลักจากหินทรายปางต่างๆ ในอุทยานพุทธศิลป์ วัดห้วยผาเกี๋ยงแห่งนี้ตั้งอยู่บนเขาที่มีแต่หินหรือหน้าผาที่เป็นหินล้วนๆ และเป็นแนวเขตเดียวกับเมืองโบราณเก่า หรือเรียกว่า เมืองผายาว พระบรรเลง สุมโน เจ้าอาวาสวัดห้วยผาเกี๋ยง ได้เป็นคนริเริ่ม คิดการสร้างปะติมากรรมหินตามหน้าผา และตามโขดหินมาทำการแกะสลักพระพุทธรูป เพื่อเอาไว้เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวได้มาชมความงดงามที่เมืองพะเยาแห่งนี้
วัดศรีโคมคำ
พระเจ้าตนหลวง หรือ พระเจ้าองค์หลวง
จากนั้นดินทางกันต่อเข้าตัวเมือง เยี่ยมชม "วัดศรีโคมคำ" หรือที่คนพะเยามักนิยมเรียกกันว่า “วัดพระเจ้าตนหลวง” วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนในล้านนา เรียกกันว่าพระเจ้าตนหลวง หรือ พระเจ้าองค์หลวง เชื่อกันว่าผู้ที่มาบนบานสานกล่าวกับพระเจ้าตนหลวง หากต้องการให้สัมฤทธิ์ผลต้องบนและแก้บนด้วย ไข่เป็ด ไข่ไก่ หรือไข่ห่าน เพราะมีตำนานผูกพันกันมาตั้งแต่สมัยการสร้างพระเจ้าตนหลวง
“วัดติโลกอาราม”  กลางกว๊านพะเยา
ต้องนั่งเรือข้ามชม
“หลวงพ่อศิลา”หรือ“พระเจ้ากว๊าน”
ต่อกันด้วยวัดที่สำคัญแห่งหนึ่งในจังหวัดพะเยาที่มาแล้วไม่ควรพลาด นั้นคือ วัดกลางน้ำที่ตั้งเด่นอยู่บนเกาะกลางกว๊าน “วัดติโลกอาราม” เป็นที่ประดิษฐานของ “หลวงพ่อศิลา”หรือ“พระเจ้ากว๊าน” พระพุทธรูปเก่าแก่ที่เคยจมอยู่ใต้น้ำเมื่อครั้งสร้างทำที่กักเก็บน้ำ ก่อนที่ในปี พ.ศ. 2526 จะมีการขุดค้นพบท่าน ซึ่งภายหลังในปี 2550 ทางจังหวัดพะเยาได้อัญเชิญหลวงพ่อศิลาให้มาประดิษฐานเป็นองค์พระประธานของวัดติโลกการามหลังการบูรณะใหม่ ซึ่งทุกๆ ปีในวันพระใหญ่ คือ วันมาฆบูชา วิสาขบูชา และอาสาฬหบูชา ที่กว๊านพะเยาจะมีการจัดงาน “เวียนเทียนกลางน้ำ”รอบองค์หลวงพ่อศิลาและวัดติโลกอารามขึ้น นับเป็นประเพณีเวียนเทียนกลางน้ำหนึ่งเดียวในเมืองไทยอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่สวยงามยิ่ง
วัดร่องขุน เชียงราย
หลังเพลิดเพลินประทับใจไปกับการเที่ยวจุดสำคัญๆ ในเมืองพะเยาแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นเราเดินทางเข้าสู่จังหวัดเชียงราย ไปที่ “วัดร่องขุน” ตั้งอยู่ที่ ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง เป็นวัดบ้านเกิดของ “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” ซึ่งหลังจากที่อาจารย์ได้เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดพบว่าวัดแห่งนี้ทรุดโทรมมาก ท่านจึงตั้งปณิธานว่าถ้าตนเองมีความพร้อมก็อยากจะสร้างอุโบสถขึ้นมาใหม่ หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2540 เมื่อ อ.เฉลิมชัย มีความพร้อมทั้งในด้านชีวิต ชื่อเสียง และกำลังทรัพย์ ท่านจึงได้ทำการสร้างโบสถ์วัดร่องขุ่นขึ้นมาใหม่แบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งสุดท้ายได้กลายเป็นวัดร่องขุ่นโฉมใหม่ที่มีคนกล่าวขวัญไปทั่วในความสวยงามอลังการและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

วัดร่องขุ่นสร้างด้วยคติจักรวาลมีสระน้ำรอบล้อมโบสถ์เปรียบดังมหานทีสีทันดร มีสะพานทอดข้ามผ่านเปรียบดังการเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิสู่พระอุโบสถที่เปรียบดังดินแดนแห่งการหลุดพ้น โดยตัวโบสถ์นั้นดูโดดเด่นไปด้วยงานปูนปั้นสีขาวประดับตกแต่งด้วยกระจกแวววับ เปรียบดังพระบริสุทธิคุณและพระปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้าที่เปล่งประกายไปทั่วโลกมนุษย์และจักรวาล ซึ่งต่อมาภายหลังได้มีคำกล่าวว่า ผู้ที่มาเที่ยววัดร่องขุ่นเปรียบดังได้มาท่องแดนสวรรค์ จนเป็นที่เลื่องลือไปทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีนักท่องเที่ยวต่างพามาเยี่ยมชมกันไม่อย่างขาดสาย
“สิงห์ปาร์ค” หรือ“ไร่บุญรอด”
บรรยากาศใน “สิงห์ปาร์ค” หรือ“ไร่บุญรอด”
นั่งรถกันต่อไปมุ่งสู่หน้าแหล่งที่เที่ยวสุดฟินอย่าง “สิงห์ปาร์ค” หรือ “ไร่บุญรอด” ต.แม่กรณ์ อ.เมือง แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร กลายเป็นหนึ่งในจุดยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเชียงราย สัมผัสกับวิวทิวทัศน์อันสวยงามกว้างใหญ่ภายในไร่ ไม่ว่าจะเป็น ไร่ชาอู่หลง ทะเลสาบ สวนผลไม้ แปลงพืชผักที่ปลูกอย่างเป็นระบบ รวมถึงมีทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ แต่น่าเสียดายที่ ทุ่งดอกไม้ กำลังอยู่ในช่วงหว่านเมล็ดเพื่อต้อนรับหน้าหนาว ทำให้เราไม่ได้เห็นความสวยงามของทุ่งดอกไม้กัน
เจ้าแม่กวนอิม ที่ วัดห้วยปลากั้ง
ที่เที่ยวเชียงรายยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ยังมี เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ที่ "วัดห้วยปลากั้ง" ต.ริมกก อ.เมือง ต้นกำเนิดของวัดห้วยปลากั้งไม่ปรากฏหลักฐานที่มาชัดเจน แต่มีข้อมูลระบุว่าวัดแห่งนี้เคยเป็นวัดร้างเก่าแก่ จนกระทั่ง “พระอาจารย์พบโชค ติสสะวังโส” (เจ้าอาวาสองค์แรกของวัดห้วยปลากั้ง) มาพบเจอ ท่านจึงได้ฟื้นฟูบูรณะวัดห้วยปลากั้งให้กับมาเจริญรุ่งเรือง มีความสวยงามเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชนชาวเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง โดยแต่ละวันจะมีผู้คนเดินทางมาทำบุญและเที่ยวชมความงามของวัดแห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก
  วัดห้วยปลากั้งมีสิ่งก่อสร้างสำคัญ คือ “พบโชคธรรมเจดีย์”
วัดห้วยปลากั้งมีสิ่งก่อสร้างสำคัญในวัดห้วยปลากั้งก็คือ “พบโชคธรรมเจดีย์” เป็นมหาเจดีย์ 9 ชั้นอันสวยงามอลังการ และมีความแปลกตากับงานศิลปกรรมผสมระหว่างศิลปะเจดีย์แบบจีนผสมศิลปะล้านนา โดยมีส่วนยอดสร้างเป็นเจดีย์ทรงกลมสีทองอร่าม ส่วนตรงบันไดทางขึ้นสร้างเป็นบันไดมังกร 2 ตัวเลื้อยทอดยาวดูสวยงามและมีพลัง ภายในพบโชคธรรมเจดีย์ สามารถเดินขึ้นไปแต่ละชั้นสู่ยอดเจดีย์ได้ โดยในโถงของแต่ละชั้นมีการสร้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากไม้แกะสลักไว้ให้สักการบูชา เริ่มจากชั้นแรก เป็น“เจ้าแม่กวนอิมปางประทานพร” องค์ใหญ่ สูงถึง 7 เมตร แกะสลักจากไม้จันทน์หอมจากต่างประเทศ ถือเป็นชั้นไฮไลท์ที่มีคนเดินทางมาสักการะขอพรท่านกันอย่างต่อเนื่อง ส่วนชั้น 2 เป็นเจ้าแม่กวนอิมปางประทับยืน ชั้น 3 เจ้าแม่กวนอิมปางประทับนั่ง ชั้น 4 หลวงพ่อพระพุทธโสธรจำลอง ชั้น 5 เจ้าแม่กวนอิมปางพันมือ ชั้น 6 หลวงปู่โต พรหมรังสี และหลวงปู่ทวด ชั้น 7 พระพุทธรูปปางนาคปรก ชั้น 8 พระสังกัจจายน์ ชั้น 9 พระอิศวร และป้ายบอกความสำเร็จว่า “คุณพบโชคแล้ว” สำหรับผู้ที่ตั้งใจเดินขึ้นมาจนถึง
ภายใน “พบโชคธรรมเจดีย์”
นอกจากนี้ตามเส้นทางเดินขึ้นไปในชั้นต่างๆ โดยตั้งแต่ประมาณชั้น 5 ขึ้นไป เราจะมองเห็นวิวทิวทัศน์มุมสูงอันสวยงามของขุนเขาบ้านเรือน รวมถึงโบสถ์หลังใหม่ และองค์เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่สีขาวเด่นเป็นสง่าตั้งอยู่ มีความสูงถึง 79 เมตร กว้าง 39 เมตร นับเป็นเจ้าแม่กวนอิมที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดเชียงรายที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวมากขึ้น
“ วัดร่องเสือเต้น”
บรรยากาศภายใน “ วัดร่องเสือเต้น”
จากนั้นไปชมสิ่งน่าสนใจสำคัญ อย่างวัดแห่งใหม่ที่กำลังกลายเป็นวัดสำคัญในเชียงราย ที่ “วัดร่องเสือเต้น” วัดแห่งนี้เป็นฝีมือศิลปะของ “สล่านก หรือนายพุทธา กาบแก้ว” ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ซึ่งอดีตเคยเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์เฉลิมชัย และเคยทำงานสร้างวัดร่องขุ่นเมื่อหลายปีก่อน นำทีมงานมาร่วมกันรังสรรค์วิหารวัดร่องเสือเต้น กลายเป็นวัดที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่ง
“วัดพระแก้ว”  เชียงราย
“พระพุทธรัตนากรนวุติวัสสานุสรณ์” หรือ “พระหยกเชียงราย”
ต่อจากนั้นไหว้พระแก้ว ที่ “วัดพระแก้ว” อ.เมือง หนึ่งในวัดเก่าแก่ของเชียงราย เดิมเรียกว่า “วัดป่าญะ” หรือ “วัดป่าเยียะ” เนื่องจากมีไม้เยียะ (ไม้ไผ่ชนิดหนึ่งคล้ายไผ่สีสุก) ขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดพระแก้วหลังจากมีการค้นพบองค์พระแก้วมรกตในสมัยพระเจ้าสามฝั่งแกนเป็นเจ้าเมืองเชียงใหม่ ได้พบพระพุทธรูปลงรักปิดทองอยู่ภายใน ต่อมารักกะเทาะออก พบว่าเป็น “พระแก้วมรกต” จึงเรียกวัดนี้ใหม่ว่า “วัดพระแก้ว” จนถึงปัจจุบัน ภายหลังพระแก้วมรกตถูกอัญเชิญไปยังสถานที่ต่างๆ ก่อนมาประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้วที่กรุงเทพฯ ในปี พ.ศ. 2533 เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระชนมายุครบ 90 พรรษา ชาวเชียงรายจึงได้ร่วมกันสร้างพระแก้วมรกตองค์ใหม่ชื่อ “พระพุทธรัตนากรนวุติวัสสานุสรณ์” หรือ “พระหยกเชียงราย” ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ โดยประดิษฐานไว้ในหอพระหยกในวัดพระแก้วแห่งนี้
พระตำหนักดอยตุง
สวนแม่ฟ้าหลวง
สุดท้ายเรามุ่งหน้าสู่ดินแดนแม่ฟ้าหลวง ดอยตุง เยือน "พระตำหนักดอยตุง" ของสมเด็จย่า สร้างอยู่บนเนินเขา ทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์จากตรงนี้ได้กว้างไกล ลักษณะเด่นของพระตำหนักดอยตุงจะเป็นศิลปะแบบล้านนา บ้านปีกไม้ ผสมกับลักษณะบ้านพื้นเมืองของชาวสวิตเซอร์แลนด์ที่เรียกว่า ชาเลต์ (Swiss Chalet) สร้างด้วยไม้ทั้งหลังและมีไม้แกะสลักอ่อนช้อย ภายในเน้นความเรียบง่ายและประโยชน์ใช้สอยอย่างครบครัน ภายนอกรอบๆ พระตำหนักนั้น ตกแต่งเป็นสวนสวยงามมีดอกไม้มากมายหลายสายพันธุ์ ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่น หลังจากชมพระตำหนักดอยตุงแล้ว เดินชมกันต่อที่ “หอแห่งแรงบันดาลใจ” เป็นหอแห่งเรื่องราวของราชสกุลมหิดล ความอบอุ่นภายในครอบครัว กับพระราชกรณียกิจหน้าที่ที่ใหญ่ยิ่งต่อแผ่นดิน เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดี และสร้างประโยชน์สุข รอยยิ้ม ให้แก่ประชาชนชาวไทย จากนั้นเดินเล่นๆ สบายๆ กันที่สวนแม่ฟ้าหลวง ใกล้ๆ กับพระตำหนักดอยตุง เป็นสวนไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวสวยงามทุกฤดู แปลงดอกไม้ที่นี่มีมากมายหลากหลายพันธุ์ จะถูกจัดแต่งหมุนเวียนกันไป ประกอบกับประติมากรรมเด็กยืนต่อตัวโดดเด่นอยู่กลางสวน ซึ่งได้รับพระราชทานชื่อว่า “ความต่อเนื่อง” อันตรงกับพระราชดำริของสมเด็จย่าที่ว่า ทำงานอะไรก็ตามจะสำเร็จได้ต้องมีความต่อเนื่อง
DoiTung Tree Top Walk สวนแม่ฟ้าหลวง (ภาพจาก ททท.เชียงราย)
เดินชมเส้นทางธรรมชาติ (ภาพจากททท.เชียงราย)
บนเส้นทางยอดไม้ (ภาพจาก ททท.เชียงราย)
และที่พิเศษใหม่ที่สุดคือ DoiTung Tree Top Walk สวนแม่ฟ้าหลวง สะพานยอดไม้เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนเรือนยอดไม้ มีระยะทางทั้งหมดประมาณ 300 เมตร โดยรอบๆ จะมี เส้นทางศึกษาธรรมชาติให้ได้ทั้งต้นไม้ใหญ่น้อย ต้นกาแฟชาวบ้าน ตลอดทางจะมีหวาดเสียวเล็กน้อยลดหลั่นไปตามต้นไม้และความลาดชัน สนุกสนานเป็นกิจกรรมที่ท้าทายไม่น้อย

เป็นเส้นทางสถานที่ท่องเที่ยวส่วนหนึ่งที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดสำคัญอีกแห่ง ที่ชวนให้เราอยากเดินทางขึ้นมาแอ่วเหนือในหน้าฝนกัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสถานที่ท่องเที่ยวใน จ.เชียงราย และ จ.พะเยา ได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย (ดูแลพื้นที่เชียงราย,พะเยา) 0-5371-7433
*****************************************

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น