ตรัง - เหลืออีกแค่ 1 เดือน ก็จะเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวทะเลตรังแล้ว แต่ท่าเทียบเรือปากเมง ก็ยังไม่ได้รับการซ่อมแซม ต้องใช้วิธีการขนผู้คนจากเรือเล็กไปเรือใหญ่ ส่วนท่าเทียบเรืออื่นๆ ก็ไม่มีความพร้อม
วันนี้ (5 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณท่าเทียบเรือปากเมง อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นจุดหลักสำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยวยังเกาะแก่งต่างๆ ในท้องทะเลอันดามัน ขณะนี้มีบรรยากาศที่ค่อนข้างจะเงียบเหงา หลังจากที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคจังหวัดตรัง ได้สั่งปิดท่าเทียบเรือแห่งนี้มานานหลายเดือนแล้ว อันเป็นผลมาจากการที่เกิดคลื่นลมแรงพัดพาเข้าใส่จนคานเสาแตกร้าว และบันไดหัก ทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวต้องแก้ปัญหาด้วยการนำเรือหางยาวเข้ามาจอดรับนักท่องเที่ยว แล้วลำเลียงไปขึ้นเรือทัวร์ ซึ่งลอยลำอยู่กลางทะเล และอยู่ห่างจากท่าเทียบเรือปากเมง ออกไปประมาณ 100 เมตร ในสภาพที่ทุลักทุเล และไม่ค่อยจะปลอดภัยนัก
นายบุญเจือ รอดเมือง อายุ 54 ปี ผู้ประกอบการโกเมี้ยง ทราเวล และจาระวีทัวร์ กล่าวว่า นับตั้งแต่กรมเจ้าท่า มีการออกคำสั่งปิดท่าเทียบเรือปากเมงที่อยู่ในสภาพชำรุด ทำให้ต้องเอาเรือหางยาวลำเลียงนักท่องเที่ยวไปยังเรือทัวร์ ในสภาพที่ย้อนยุคสมัยเมื่อครั้ง 30 ปีที่ก่อน และหากภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะมีการเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวของทะเลตรังแล้ว แต่การซ่อมแซมท่าเทียบเรือยังไม่แล้วเสร็จ ย่อมจะมีผลกระทบต่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอย่างมาก หากยังต้องใช้วิธีการลำเลียงผู้คนจากเรือเล็กไปยังเรือใหญ่เช่นนี้ นอกจากนั้น ยังเกิดความยากลำบากในการขนถ่ายข้าวของเพื่อลงเรือไปยังเกาะแก่งต่างๆ ด้วย
ส่วนกรณีที่มีการเสนอให้ย้ายไปใช้ท่าเทียบเรือคลองสนเป็นการชั่วคราวนั้น จากการสำรวจล่าสุดพบว่า มีปัญหาเรื่องร่องน้ำในการเดินเรือ เพราะยังมีทรายทับถมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงน้ำลด แม้ก่อนหน้านี้ อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จะเข้ามาทำการดูดร่องน้ำใหม่แล้ว แต่ก็ถูกทับถมกลับไปเหมือนเดิม นอกจากนั้น ท่าเทียบเรือคลองสนยังไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก และสาธารณูปโภคที่พร้อมหลายอย่าง เช่น ห้องน้ำ หรือระบบน้ำใช้ จึงไม่สามารถนำมาใช้ทดแทนท่าเทียบเรือปากเมงได้
นายบรรจง นฤพรเมธี นายกสมาคมท่องเที่ยวและโรงแรมจังหวัดตรัง กล่าวว่า อีกไม่กี่วันข้างหน้าก็จะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของทะเลตรังแล้ว แต่ท่าเทียบเรือต่างๆ ที่มีอยู่ก็ไม่สามารถที่จะใช้บริการได้ ซึ่งตรงนี้จากการสอบถามหน่วยงานที่รับผิดชอบแจ้งมาว่า กำลังอยู่ในระหว่างเตรียมการปรึกษาหารือ แต่ก็ยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจน ซึ่งอาจจะต้องให้ภาคเอกชนมาช่วยกันลงขันเพื่อสร้างท่าเทียบเรือมาใช้เป็นการชั่วคราวก่อน หรือย้ายไปใช้ท่าเทียบเรืออื่นแทน เช่น ท่าเทียบเรือคลองสน หรือท่าเทียบเรือคลองตุ้งกู โดยเฉพาะท่าเทียบเรือคลองสน ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ และพร้อมที่จะเปิดใช้งานแล้ว แต่ก็ยังติดขัดเรื่องของร่องน้ำที่ยังตื้นเขินในช่วงน้ำลง