xs
xsm
sm
md
lg

ครึ่งปี “ปุ้มปุ้ย” รายได้พุ่งทะลุเกือบ 630 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ตรัง - “ปุ้มปุ้ย” ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ของปี 2559 โดยมีกำไรสุทธิ 7.27 ล้านบาท รายได้รวม 350.25 ล้านบาท ผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2559 พบว่า บริษัทมีรายได้ 629.28 ล้านบาท

นายไกรสิน โตทับเที่ยง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) หรือ “ปุ้มปุ้ย” เปิดเผยว่า บริษัทได้ประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ของปี 2559 โดยมีกำไรสุทธิ 7.27 ล้านบาท รายได้รวม 350.25 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 25.71 ล้านบาท หรือ 7.92 % เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า

ส่วนผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2559 พบว่า บริษัทมีรายได้ 629.28 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 11.66 ล้านบาท จึงมีกำไรสุทธิรวม 2 ไตรมาสแรกของปี 2559 จำนวน 12.64 ล้านบาท ทำให้บริษัทสามารถรักษาเป้าหมายกำไรได้ทั้ง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สำหรับต้นทุนขายของบริษัทในไตรมาสนี้ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากได้ดำเนินการเตรียมออกสินค้าใหม่ “ปุ้มปุ้ยพร้อมทาน” 5 เมนู เป็นผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่ปรุงสำเร็จรูป 4 เมนู คือ ไก่กระเทียมพริกไทย ผัดกะเพราไก่ คั่วกลิ้งไก่ แกงมัสมั่นไก่ และผลิตภัณฑ์จากเนื้อปลาปรุงสำเร็จรูป 1 เมนู คือ แกงส้มปลามาฮิมาฮิ ซึ่งจะเริ่มทำตลาดได้ในไตรมาสที่ 3 และ 4 นี้

สำหรับการนำบริษัท “ปุ้มปุ้ย” กลับเข้าไปซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น ล่าสุด ได้ดำเนินการเพิ่มทุนชำระแล้ว จาก 376,199,990 บาท เป็น 500,489,990 บาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2559 โดยการสนับสนุนจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่ให้ความเห็นชอบแปลงส่วนของดอกเบี้ยเงินกู้ในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของบริษัท จำนวนเงิน 310,725,000 บาท คิดเป็นจำนวนหุ้น 12,429,000 หุ้น ตามเจตนารมณ์ของธนาคารกรุงไทย ที่ต้องการให้บริษัทของคนไทยกลับมามีสภาพแข็งแกร่งทางการเงิน สามารถซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ และสามารถขยายกิจการเพื่อให้เกิดการจ้างแรงงานไทยเพิ่มขึ้น

ซึ่งการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในครั้งนี้ทำให้ภาระหนี้ของบริษัทลดลงทันที และยังเป็นผลให้เมื่อบริษัทดำเนินการบันทึกส่วนของทุนใหม่เรียบร้อยแล้วจะมีส่วนของทุนเป็นบวก ประกอบกับตั้งแต่ปี 2558 ที่กลุ่มผู้บริหารปัจจุบันเข้ามาบริหารงานมีผลกำไรติดต่อกันทุกไตรมาส จึงอยู่ในเกณฑ์ที่บริษัทจะยื่นขอกลับไปซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ต่อไป
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น