xs
xsm
sm
md
lg

กำไรสุทธิ บจ.ไตรมาส 2/59 อยู่ที่ 2.45 แสนล้าน ฟื้นตัวต่อเนื่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ตลท.เผยผลการดำเนินงานของ บจ.ในตลาดหุ้นไตรมาส 2/59 มียอดขายรวม 2,512,918 ล้านบาท ลดลง 4.52% จากงวดเดียวกันปีก่อน แต่ผลจากต้นทุนการผลิตที่ลดลง ทำให้ส่งผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้น และมีกำไรสุทธิรวมเพิ่มขึ้น 11.83% จากงวดเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 245,247 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 5.27% จากไตรมาส 1/2559

นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ผลดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) จำนวน 558 บริษัท หรือคิดเป็น 93.94% จากทั้งหมด 594 บริษัท (รวมกองทุนอสังหาริมทรัพย์ และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (PF & REIT) และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) ไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือ NC และบริษัทที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด หรือ NPG) นำส่งผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/ 2559 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 โดย บจ.มีกำไรสุทธิ จำนวน 418 บริษัท คิดเป็น 74.91% ของบริษัทที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด มียอดขายรวมเท่ากับ 2,512,918 ล้านบาท ลดลง 4.52% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค มียอดขายลดลงตามทิศทางราคาน้ำมัน และมีกำไรสุทธิ 245,247 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.83% จากงวดเดียวกันปีก่อน โดยส่วนใหญ่เป็นผลจากการกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นของภาคการบริการ และอุปโภคบริโภค คือ หมวดขนส่งและลอจิสติกส์ หมวดเหล็ก หมวดอาหารและเครื่องดื่ม และหมวดพลังงานและสาธารณูปโภค เป็นต้น

ทั้งนี้ หากไม่รวมหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ซึ่งได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาส 2/2559 บจ.จะมียอดขายเพิ่มขึ้น 3.32% และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 13.75% จากปีก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันที่ลดลง มีส่วนช่วยให้ บจ.มีต้นทุนการผลิตลดลงเช่นกัน ทำให้ในภาพรวม บจ.มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นจาก 22.85% ในไตรมาส 2/2558 เป็น 25.62% ในไตรมาส 2/2559

ขณะที่เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2559 บจ.มียอดขายเพิ่มขึ้น 5.46% และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5.27% ทั้งนี้ ผลประกอบการ บจ.ที่ฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ในครึ่งแรกปี 2559 บจ.มีกำไรสุทธิรวม 479,346 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.13% จากงวดเดียวกันปีก่อน

เมื่อพิจารณาฐานะของกิจการพบว่า โครงสร้างเงินทุนของ บจ.ยังคงแข็งแรง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ 1.24 เท่า เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 1.22 เท่า ในช่วงเดียวกันปีก่อน

“ในไตรมาสนี้ บจ.มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น โดยนอกจากกำไรสุทธิที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่องแล้ว ยังเป็นไตรมาสแรกที่มียอดขายฟื้นตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า อีกทั้งกลุ่มธุรกิจที่มีผลประกอบการเติบโตดี คือ เติบโตทั้งด้านยอดขาย อัตรากำไรขั้นต้น และกำไรสุทธิ มีความสอดคล้องกับเศรษฐกิจมหภาค คือ อยู่ในภาคการบริการ และการอุปโภคบริโภค ได้แก่ หมวดธุรกิจการเกษตร อาหารและเครื่องดื่ม แฟชัน ของใช้ในครัวเรือนและสำนักงาน ขนส่งและลอจิสติกส์ ยานยนต์ กระดาษและวัสดุการพิมพ์ และเหล็ก”

ด้านผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2559 ของ บจ.ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ปรับดีขึ้นเช่นกัน โดย มียอดขาย 33,408 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.65% และกำไรสุทธิ 2,332 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.38% จากงวดเดียวกันปีก่อน และมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นจาก 23.83% เป็น 25.00% ได้แน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น