ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกษตรกรใน จ.สงขลา รวมกลุ่มปลูกมะเดื่อฝรั่งในเชิงพาณิชย์ และปลูกแบบอินทรีย์ปลอดสารพิษ เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่น่าสนใจมาก ให้ผลผลิตเร็ว อายุยืนยาว ราคาสูงกิโลกรัมละ 120 บาทเป็นอย่างน้อย ยังไม่มีคู่แข่งทางการตลาด แต่เป็นที่รู้จักในระดับสากล และสามารถปลูกในประเทศไทยได้
วันนี้ (21 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มะเดื่อฝรั่ง หรือ Figs เป็นผลไม้ที่อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จัก หรือคุ้นหูของคนไทยมากนัก แต่สำหรับในตลาดต่างประเทศ มะเดื่อฝรั่ง จัดเป็นผลไม้แปลกที่มีราคาแพงมากเพราะมีคุณค่าทางอาหารสูงสุดติดอับดับ 1 ใน 10 ของโลก รวมทั้งยังมีสรรพคุณทางยามากมาย กำลังเป็นที่นิยมของกลุ่มคนรักสุขภาพ
แต่ขณะนี้กลุ่มเกษตรใน จ.สงขลา เริ่มนำมาทดลองปลูกในเชิงพาณิชย์เพื่อเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ในอนาคต เช่น คุณสมชาย จันทะสะระ อายุ 44 ปี เกษตรกรในชุมชนป่ากล้วย บ้านฉลุง หมู่ 7 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ลงทุนซื้อต้นพันธุ์มะเดื่อฝรั่งจากมหาวิทยาแม่โจ้ ต้นละ 500 บาท จำนวน 40 ต้น มาปลูกร่วมกับผลไม้ในท้องถิ่น และพืชผลชนิดอื่นๆ ในแปลงเดียวกัน โดยปลูกระยะห่างประมาณ 2 เมตรต่อต้น และเริ่มเห็นผลเพราะหลังจากปลูกมาแค่ 3 เดือน มะเดื่อฝรั่ง ก็เริ่มให้ผลผลิตแล้วในรุ่นแรก และจะให้ผลผลิตเต็มที่ตั้งแต่ 6-8 เดือนขึ้นไป และเป็นการปลูกมะเดื่อฝรั่งแบบเกษตรอินทรีย์ หรือปลอดสารพิษทั้งหมด
คุณสมชาย บอกว่า มะเดื่อฝรั่ง ยังเป็นผลไม้ชนิดใหม่ที่ยังมีการปลูกกันน้อยมากในประเทศไทย และใน จ.สงขลา ตนได้รวมกลุ่มกับเพื่อนอีก 10 คน ทดลองปลูกเป็นแห่งแรก และเป็นที่เดียวในภาคใต้ การปลูกมะเดื่อฝรั่ง เมื่อฟังชื่อแล้วอาจจะยุ่งยาก หรือเกษตรกรกลัวว่าจะไม่ออกผลเพราะไม่ใช่ผลไม้พื้นเมืองของไทย แต่ปรากฏว่า หลังจากนำมาปลูกในสวนร่วมกับผลไม้อื่นๆ ก็เติบโตดีมากแม้จะปลูกในที่โล่งแจ้ง หรือปลูกในบ่อซีเมนต์
ส่วนการดูแลมะเดื่อฝรั่ง คุณสมชาย บอกว่า ไม่แตกต่างจากผลไม้ชนิดอื่นๆ ใส่ปุ๋ยหมักที่ทำขึ้นเองเดือนละครั้ง รดน้ำสม่ำเสมอ ส่วนโรคแมลงก็มีบ้าง เช่น หนอนชอนเปลือก และราสนิม แต่ก็สามารถแก้ไขได้ ส่วนราคาขายจะขายในราคาประกันกิโลกรัมละ 120 บาท และเป็นการขายกันในกลุ่มที่ปลูกมะเดื่อฝรั่งอยู่แล้ว แต่หากราคาขายในท้องตลาดที่นำเข้ามาจากต่างประเทศจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 300-700 บาท และขณะนี้ตนเริ่มตอนกิ่งพันธุ์เองเพื่อขยายพื้นที่การปลูกเพิ่มขึ้น
เพราะเชื่อว่าในอนาคตมะเดื่อฝรั่งจะเป็นผลไม้ที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าเพราะปลูกเพียงครั้งเดียวแต่มีอายุยืนยาวไม่ต้องปลูกหลายรอบ และให้ผลผลิตหมุนเวียนต่อเนื่องตลอดทั้งปี สำหรับมะเดื่อฝรั่งรุ่นแรกที่ปลูกไว้แม้ว่าจะยังไม่ให้ผลผลิตเต็มที่ แต่ขณะนี้เริ่มมีออเดอร์เข้ามาแล้ววันละ 50 กิโลกรัมเป็นอย่างน้อย เฉลี่ย 12 ลูกต่อ 1 กิโลกรัม
คุณสมชาย บอกว่า จุดขายของผลไม้ชนิดนี้ในประเทศไทยยังไม่มีคู่แข่งทางด้านการตลาด หากปลูกในเชิงพาณิชย์มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จ เพราะเป็นผลไม้ที่มีความเป็นสากลรู้จัก และบริโภคกันทั่วโลก เพียงแต่ยังไม่เป็นที่รู้จักในประเทศไทยเท่านั้น เพราะคิดว่าเป็นผลไม้ที่ไม่อร่อย และยังติดกับภาพมะเดื่อพื้นบ้าน หรือมะเดื่อป่าของไทยที่ผลมีแต่ยาง และบางครั้งยังพบหนอนอยู่ในผลด้วย ซึ่งผู้ที่สนใจมาดูลู่ทาง และวิธีการปลูกมะเดื่อฝรั่งก็มาดูได้ที่สวนของตนติดต่อได้ที่หมายเลข 08-2289-8238
ทั้งนี้ แปลงปลูกมะเดื่อฝรั่งของ คุณสมชาย มีหน่วยงานภาคใต้คอยให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดย นายทวีวุฒิ สังข์ศิริ นายอำเภอหาดใหญ่ ได้สั่งการให้ นายสุริยัน จันทศรี นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ เข้าไปช่วยเหลือ และแนะนำความรู้ทางวิชาการในการดูแลเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด
สำหรับประโยชน์ของมะเดื่อฝรั่ง เป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวาน และมีสรรพคุณทางยา และมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก นอกจากจะทานสดแล้ว ยังนำไปแปรรูปได้อีกหลายอย่าง เช่น พาย แยม อบแห้ง ผลไม้กวน พุดดิ้ง เค้ก ไอศกรีม ใช้ผสมในชาไข่มุก ใส่ขนมแทนลูกเกด ทำเป็นผลไม้แห้งนำไปคั่วแล้วป่นใช้แทนกาแฟได้