xs
xsm
sm
md
lg

“ครูแก้ว” เปิดศูนย์เรียนรู้ปลูกเมลอนญี่ปุ่นแห่งแรกอีสาน หนุนเกษตรกรปลูกทำเงินแทนทำสวนยาง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายศุภชัย  โพธิ์สุ หรือครูแก้ว อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นครพนม - “ครูแก้ว” อดีต รมช.เกษตรฯ นำร่องปลูกเมลอนญี่ปุ่นได้ผลผลิตรุ่นแรกเกินคาด เผยเป็นพืชเศรษฐกิจทางเลือกใหม่ให้เกษตรกรนำไปเพาะปลูกทำเงินชดเชยการทำสวนยางที่ราคาดิ่งเหว ตั้งเป้าเป็นศูนย์เรียนรู้การปลูกเมลอนญี่ปุ่นแห่งแรกของภาคอีสาน เล็งขยายผลเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรครบวงจรในอนาคต

ภายหลังพักงานการเมือง นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อดีต ส.ส.นครพนมหลายสมัย ได้ใช้เวลาว่างหันมาทำอาชีพเกษตรกรรมด้วยการเปิดฟาร์มตัวอย่าง ในชื่อ “พูนสุขฟาร์ม” ทดลองทำการเกษตรทางเลือก นำร่องปลูกเมลอนญี่ปุ่นเป็นแห่งแรกของ จ.นครพนม จนขณะนี้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตส่งออกขายท้องตลาดได้แล้ว พร้อมเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรทางเลือก ส่งเสริมให้เกษตรกรศึกษาเยี่ยมชม และนำไปเพาะปลูก

เมลอนญี่ปุ่นถือเป็นผลไม้ที่ตลาดกำลังเป็นที่นิยมและมีราคาแพง ตกกิโลกรัมละ 150-200 บาท ที่สำคัญเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย ใช้ระยะเวลาปลูกสั้น แต่สามารถสร้างรายได้เป็นอย่างดี เกษตรกรหลายรายที่ประสบปัญหาราคายางพาราตกต่ำได้หันมาปลูกเมลอนญี่ปุ่นกันบ้างแล้ว

นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว เล่าถึงที่มาของการปลูกเมลอนญี่ปุ่นว่า โดยส่วนตัวชอบทำการเกษตรอยู่แล้ว เพราะครอบครัวมาจากชาวไร่ชาวนา ภายหลังไม่ได้ทำงานการเมือง แต่ยังมีใจรักในการพัฒนาอาชีพการเกษตร โดยเฉพาะในช่วงที่ยางพาราเกิดวิกฤตราคาตกต่ำ จึงได้คิดค้นหาวิธีทำเกษตรทางเลือก ในที่สุดจึงเลือกที่จะทดลองทำฟาร์มตัวอย่าง ปลูกเมลอนญี่ปุ่น จนประสบความสำเร็จได้ผลผลิตออกสู่ตลาดเป็นรุ่นแรกในปีนี้ การปลูกเมลอนญี่ปุ่นน่าจะเป็นเกษตรทางเลือกใหม่ให้เกษตรกรมาศึกษานำไปเพาะปลูกทดแทนการทำสวนยาง เพราะตลาดมีความต้องการสูง และมีราคาแพง

สำหรับเมลอนญี่ปุ่นเป็นพืชตระกูลแตง ปลูกด้วยการเพาะเมล็ดพันธุ์ ก่อนนำมาลงแปลงปลูกที่เป็นโรงเรือนคลุมด้วยพลาสติกใสเพื่อป้องกันปัญหาเรื่องศัตรูพืช เกษตรกรต้องศึกษาเรียนรู้วิธีการปลูกให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ แต่ถือว่าสภาพอากาศบ้านเรามีความเหมาะสม เพราะเป็นพืชใช้น้ำน้อย ทนความร้อน เหมาะปลูกหน้าแล้ง แต่ไม่ชอบหน้าหนาว ใช้เวลาเพาะปลูกประมาณ 30 วัน จะสามารถผสมเกสร จากนั้นประมาณ 15-20 วัน จะออกผลโต และสามารถเก็บผลผลิตขายได้ ใช้ระยะเวลารวมประมาณ 80-90 วัน

ครูแก้วเล่าอีกว่า ตนได้ทดลองทำฟาร์มปลูกราว 6-7 ไร่ รวม 36 โรงเรือน ได้ผลผลิตชุดแรกประมาณ 7,000 ลูก หรือประมาณ 15,000 กิโลกรัม ราคาขายตามตลาดทั่วไป ประมาณกิโลกรัมละ 150-200 บาท ถือว่ามีราคาสูง แต่จะขายประมาณกิโลกรัมละ 80-100 บาท เพื่อให้เกษตรกรสามารถซื้อไปรับประทานได้ง่ายขึ้น

“หากขยันปลูกพื้นที่มากคาดว่าจะสามารถทำเงินได้เดือนละหลายแสนบาท เหมาะแก่เกษตรกรที่สนใจปลูกขายสร้างรายได้ ซึ่งในการปลูกถ้าเข้าใจศึกษาเรียนรู้ถือว่าดูแลไม่ยาก และได้ผลผลิตดีเกินคาด และต้องเน้นปลอดสารพิษ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” ครูแก้วบอก และเล่าต่อว่า

หลังจากเห็นผลผลิตออกมาแล้วยอมรับว่าภูมิใจมากที่ได้เปิดฟาร์มทดลองปลูก หลังจากนี้จะทำเป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรทางเลือกปลูกเมลอนแห่งแรกของภาคอีสาน เปิดให้เกษตรกร หรือผู้สนใจมาศึกษาเยี่ยมชมฟรี หรือใครสนใจที่จะศึกษานำพันธุ์ไปเพาะปลูกก็ยินดี เชื่อว่าจะเป็นเกษตรทางเลือกใหม่ที่จะสามารถทำเงินทดแทนยางพาราได้อย่างแน่นนอน จึงขอเชิญชวนพี่น้องเกษตรกร ประชาชน นักท่องเที่ยว ที่สนใจมาเที่ยวชมศึกษาหาความรู้

โดยในอนาคตพื้นที่ตลาดพูนสุข ในเขตเทศบาลตำบลศรีสงคราม จะพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรครบวงจร และยังเป็นตลาดกลางสินค้าเกษตรที่สำคัญของ จ.นครพนม สามารถเลือกซื้อ เลือกชมสินค้าเกษตรปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น