ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เยาวชนสถานพินิจฯ ภูเก็ต กว่า 30 คน ก่อเหตุชุลมุนทุบทำลายข้าวของภายในอาคาร ประสานเจ้าหน้าที่เรือนจำ ตำรวจ ฝ่ายปกครองจังหวัดเข้าระงับเหตุไว้ได้ พร้อมแยก 4 หัวโจกไปควบคุมไว้ที่เรือนจำ
วันนี้ (5 ส.ค.) เจ้าหน้าที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดภูเก็ต ได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เรือนจำจังหวัดภูเก็ต ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต และฝ่ายปกครองจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอให้เข้ามาช่วยระงับเหตุภายในสถานพินิจฯ หลังจากเยาวชนฯ ที่ถูกควบคุมตัวจำนวนหนึ่งได้ก่อเหตุสร้างความวุ่นวายทุบทำลายข้าวของภายในโรงอาหาร และลานอเนกประสงค์ ชั้น 1
โดย น.ส.รวี คูหามุข ผู้อำนวยการสถานพินิจฯ และเจ้าหน้าที่ภายในฯ ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เนื่องจากเยาวชนมีจำนวนมาก แม้จะพยายามห้ามปรามแล้วแต่เยาวชนดังกล่าวก็ไม่ฟัง โดยได้ใช้ถังดับเพลิงฉีดพ่นน้ำยาไปตามพื้นอาคาร และทุบกระจกกั้นห้องอาหาร และห้องทำกิจกรรมซึ่งอยู่บริเวณชั้น 1 ได้รับความเสียหาย ขณะเดียวกัน ก็ได้นำขนมชนิดต่างๆ เทกระจายทั่วพื้นลานกิจกรรม นอกจากนี้ ยังได้มีการทุบทำลายเก้าอี้พลาสติกที่วางไว้ในห้องอาหาร และล็อกเกอร์เก็บสิ่งของบริเวณลานอเนกประสงค์ได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่งด้วย
เมื่อทางเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ต นำโดย นายพิชิต วรรณจิตต์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต นำโดย พ.ต.อ.กมล โอศิริ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต และ อส.ปกครองจังหวัดภูเก็ต ได้เดินทางไปถึงอาคารสถานพินิจฯ ทางกลุ่มเยาวชน จำนวน 35 คน กำลังอยู่ในความชุลมุน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปทำการระงับเหตุโดยให้เยาวชนทั้งหมดมานั่งรวมตัวกันอยู่ที่บริเวณลานกิจกรรมด้านนอกตัวอาคาร พร้อมแยกแกนนำไว้ต่างหาก และได้มีการว่ากล่าวตักเตือน ก่อนที่จะให้ทางเจ้าหน้าที่สถานพินิจฯ จัดหาอาหารเย็นให้รับประทาน
จากนั้นได้แยกแต่ละกลุ่มขึ้นไปควบคุมตัวไว้บนเรือนนอนชั้น 2 ส่วนหัวโจก จำนวน 4 คน ได้นำตัวมาควบคุมไว้ที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ต ในระหว่างนั้น นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายชาติชาย สุขไสย ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต และ พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้มาติดตามสถานการณ์ และสอบถามรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
น.ส.รวี คูหามุข ผู้อำนวยการสถานพินิจฯ เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ในช่วงบ่ายระหว่างที่จัดให้มีการเยี่ยมญาติตามปกติ ระหว่างนั้นก็ได้มี นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ซึ่งถูกดำเนินคดียาเสพติด (พืชกระท่อม) และเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดีเผา สภ.ถลาง เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม 2558 ได้เข้าไปกลั่นแกล้งเพื่อนซึ่งถูกควบคุมตัวเข้ามาอยู่ใหม่เพื่อแสดงตัวให้เป็นที่ยอมรับ รวมทั้งพยายามชักชวนคนอื่นๆ ก่อความวุ่นวายด้วยความฮึกเหิมทางกลุ่มเยาวชนที่อยู่บริเวณดังกล่าวรวม 35 คน ได้ใช้ถังดับเพลิงฉีดพ่นไปตามพื้นของอาคาร และฉีดลงไปน้ำซึ่งกั้นระหว่างอาคารที่ควบคุมเยาวชนกับอาคารสำนักงาน บางส่วนก็ได้ไปทุบกระจกของโรงอาหาร และห้องที่ใช้สำหรับทำกิจกรรมบำบัด รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ที่อยู่ภายในโรงอาหาร และลานอเนกประสงค์
จากเดิมที่ไม่ได้มีข้อเรียกร้องอะไรแต่พอรวมตัวกันได้ก็ได้กำหนดข้อเรียกร้อง โดยขอให้ปรับเปลี่ยนวันพบญาติจาก 3 วัน (จันทร์ พุธ ศุกร์) เป็นทุกวัน และขอให้เล่นฟุตบอลหลังจากทำกิจกรรมตามตารางที่กำหนดไว้แล้ว แต่ในความเป็นจริงหลังจากเวลา 15.00 น. ของทุกวันก็จะเป็นช่วงเวลาอิสระ และปกติเด็กๆ ก็จะเล่นฟุตบอลอยู่แล้ว
ในส่วนของหัวโจ๊กนั้นเข้าออกสถานพินิจฯ มาแล้ว 4 ครั้ง ด้วยคดีเกี่ยวกับยาเสพติดประเภทพืชกระท่อม กับคดีเผาโรงพักถลาง ซึ่งศาลได้พิจารณาแล้ว โดยให้ควบคุมตัวไว้ในสถานพินิจฯ เพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นเวลา 8 เดือน