xs
xsm
sm
md
lg

แอมเนสตี้ออกรายงานใหม่ “คุกในคุก” เผยการทรมานนักโทษทางความคิดในคุกเวียดนาม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

 
แอมเนสตี้ ออกรายงาน “คุกในคุก” เปิดโปงการทรมานนักโทษทางความคิดในคุกเวียดนาม ซึ่งมีทั้งถูกทรมาน ขังเดี่ยว ขังมืด ไม่ให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ และอื่นๆ พร้อมเรียกร้องให้ทางการเวียดนามยุติการละเมิดสิทธิ และแก้กฎหมายตามหลักมาตรฐานสากล

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดตัวรายงานฉบับใหม่ “คุกในคุก : การทรมานและการปฏิบัติอันโหดร้ายทารุณต่อนักโทษทางความคิดในเวียดนาม” ซึ่งมาจากการลงไปทำวิจัยในพื้นที่กับอดีตนักโทษทางความคิดในเวียดนาม ที่ต่างต้องเผชิญต่อชะตากรรมอันโหดร้ายภายในคุกหลากหลายรูปแบบ เพียงเพราะใช้เสรีภาพในการเรียกร้องสิทธิ และความเท่าเทียมกันของพวกเขาเท่านั้น
 
ภาพจากแอมเนสตี้
 
ข้อมูลในรายงานได้มาจากการสัมภาษณ์อดีตนักโทษทางความคิดชาวเวียดนาม 18 คน (เป็นหญิง 7 คน และชาย 11 คน) ทุกคนถูกปล่อยตัวในช่วงไม่เกิน 5 ปีที่ผ่านมา โดยแต่ละคนได้เล่าถึงประสบการณ์อันโหดร้ายภายในคุกที่พวกเขาต้องเผชิญ ตั้งแต่การกักขังแบบไม่ให้ติดต่อกับโลกภายนอก การบังคับให้สูญหายต่อนักโทษ (อุ้มหาย) การสร้างความทุกข์ทรมาน และความเจ็บปวดทางร่างกาย การขังเดี่ยว การปฏิเสธความช่วยเหลือทางการแพทย์ ไปจนถึงการสั่งย้ายพวกเขาไปยังคุกต่างๆ หลายๆ ครั้ง เพื่อให้พวกเขาต้องอยู่ห่างจากครอบครัว และผู้สนับสนุนในพื้นที่ ซึ่งทั้งหมดถือว่าเข้าข่ายการทรมาน และการปฏิบัติอันโหดร้ายทารุณ และเป็นสิ่งต้องห้ามตามมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ

ดาร์ (นามสมมติ) นักกิจกรรมกลุ่มชาติพันธุ์และชนกลุ่มน้อยทางศาสนา หนึ่งในอดีตนักโทษทางความคิดที่ให้ข้อมูลต่อแอมเนสตี้ เปิดเผยว่า “ตอนที่พวกเขาจับกุมผม เขาขังผมไว้ในคุกมืดๆ ถึง 10 เดือน ... ผมนับไม่ถูกเลยว่า พวกเขาซ้อมผมกี่ครั้ง พวกเขาซ้อมผมตอนไหนก็ได้ที่พวกเขาต้องการ ... พวกเขาบอกผมว่า นี่เป็นผลจากอาชญากรรมที่ผมก่อ ทั้งๆ ที่ผมแค่ชุมนุมเพื่อเรียกร้องเสรีภาพ สิทธิในที่ดิน และความเสมอภาคทางศาสนาเท่านั้น ... พวกเขาบอกว่า ผมจะตายในคุก ในห้องขังห้องนั้น และครอบครัวของผมจะไม่มีวันรับรู้”
 
ภาพจากแอมเนสตี้
 
ปัจจุบัน แม้ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อนักโทษของทางการเวียดนามจะตรวจสอบได้ยาก และรายงานฉบับนี้ได้ถูกเขียนขึ้นจากข้อมูลของอดีตนักโทษทางความคิดที่ได้รับการปล่อยตัวมาแล้ว แต่แอมเนสตี้ ยังคงพบว่า การทรมาน และการปฏิบัติอันโหดร้ายทารุณที่ปรากฏในรายงานฉบับนี้ ยังคงมีการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องกับนักโทษทางความคิดที่ยังไม่ถูกปล่อยตัวในปัจจุบันด้วย

เวียดนามถูกปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์ และเป็นประเทศที่มีการจับกุม และคุมขังนักโทษทางความคิดมากที่สุดประเทศหนึ่งในเอเชีย พรรคคอมมิวนิสต์ได้คุกคาม และปราบปรามผู้ที่เห็นต่างอย่างรุนแรง และต่อเนื่องโดยปราศจากความอดทน อดกลั้นต่อสิ่งที่พวกเขามองว่าเป็นภัยต่ออำนาจ และผลประโยชน์ของตัวเอง

ในขณะที่กลไกต่างๆ ของรัฐเป็นไปเพื่อปราบปรามผู้ที่เห็นต่าง กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของเวียดนาม กลับมีบทบาทพิเศษที่แตกต่างออกไป ได้แก่ การดูแลตำรวจและระบบเรือนจำทั่วประเทศ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องต่อการทรมาน และการปฏิบัติอันโหดร้ายทารุณต่อนักโทษทางความคิดจำนวนมาก ตามที่ได้นำเสนอผ่านรายงานฉบับนี้
 
ภาพจากแอมเนสตี้
ภาพจากแอมเนสตี้
 
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล มีข้อเรียกร้องต่อทางการเวียดนามดังนี้

1.ให้ยุติการจับกุม ดำเนินคดี และตัดสินลงโทษต่อประชาชนจากความเชื่อ รวมทั้งการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน เสรีภาพทางศาสนา ระบอบประชาธิปไตยแบบหลายพรรค และสิทธิแรงงานของพวกเขา ตลอดจนให้ปล่อยตัวนักโทษทางความคิดทุกคนที่ถูกกักขังอยู่ในขณะนี้โดยทันที

2.ให้ยุติการทรมาน และการปฏิบัติอันโหดร้ายทารุณในสถานีตำรวจ ศูนย์ควบคุมตัว และเรือนจำต่างๆ ที่กระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ตำรวจ เจ้าหน้าที่เรือนจำ และนักโทษ ซึ่งครอบคลุมถึงการบังคับบุคคลให้สูญหาย การขังแบบตัดขาดจากโลกภายนอก การขังเดี่ยว การทำร้ายร่างกาย การลงโทษนักโทษด้วยการย้ายเรือนจำ และการปฏิเสธความช่วยเหลือทางการแพทย์

3.ให้สืบสวนข้อร้องเรียน และรายงานการทรมานและการปฏิบัติอันโหดร้ายทารุณอื่นๆ อย่างรวดเร็ว เป็นกลาง อิสระ และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐทุกคนที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยด้วย ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการแก้แค้นต่อผู้ร้องเรียน พยาน และคนอื่นๆ ที่อาจตกอยู่ในความเสี่ยง ตลอดจนให้ดำเนินคดีต่อทุกคนที่มีพยานหลักฐานทำให้เชื่อได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องต่อการทรมาน และการปฏิบัติอันโหดร้ายทารุณอื่นๆ โดยไม่คำนึงถึงตำแหน่งทางราชการ และช่วงเวลาที่พวกเขาก่อเหตุ

4.ให้แก้กฎหมายในประเทศ ได้แก่ ประมวลกฎหมายอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาภาคบังคับคดี และกฎหมายใหม่เกี่ยวกับการบังคับใช้การคุมขังและกักขัง ให้เป็นไปตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (CAT) และมาตรฐานสากลอื่นๆ ว่าด้วยการปฏิบัติต่อนักโทษ นอกจากนี้ ยังให้ยุติหนังสือเวียนของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ ฉบับที่ 37 ที่เปิดช่องให้มีการเลือกปฏิบัติต่อนักโทษทางความคิดอีกด้วย
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น