รอยเตอร์ - อันเดอร์ส เบห์ริง เบรวิก คนร้ายในคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญชาวนอร์เวย์ ทำท่าชูมือขวา “ไฮล์ ฮิตเลอร์” ขณะเดินทางไปขึ้นศาลวันนี้ (15 มี.ค.) พร้อมกล่าวหารัฐบาลนอร์เวย์ว่าปฏิบัติต่อตนอย่างไร้มนุษยธรรมด้วยการจับแยกขังเดี่ยวมาตลอด หลังจากที่ตนก่อเหตุสังหารหมู่ 77 ศพเมื่อปี 2011
หนุ่มหัวขวาจัดปรากฏตัวต่อสาธารณชนอีกเป็นครั้งแรกหลังถูกดำเนินคดีเมื่อปี 2012 ระหว่างนั้นมีผู้ขอเข้าเยี่ยม เบรวิก เพียงคนเดียว คือมารดาของเขา ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้าไปในเรือนจำเพื่อสวมกอดบุตรชาย ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อปี 2013
เบรวิก วัย 37 ปี ซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว เนกไทสีทอง ทับด้วยสูทสีดำ ได้ชูมือขวาเลียนแบบการทักทายของพวกนาซีขณะก้าวเข้าไปในห้องพิจารณาคดี และไม่ได้พูดอะไรอีก หนวดเคราบนใบหน้าถูกโกนเรียบร้อย และผมสีบลอนด์ก็ดูสั้นลงกว่าครั้งก่อนที่มาขึ้นศาล
ทางการนอร์เวย์พิจารณาเห็นว่า ชายผู้นี้ “อันตราย” เกินกว่าจะส่งตัวไปขึ้นศาลที่กรุงออสโล จึงได้ตั้งศาลชั่วคราวขึ้นภายในอาคารยิมเนเซียมของเรือนจำสเกียน (Skien) ห่างจากเมืองหลวงไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 130 กิโลเมตร
เบรวิกจะให้การต่อศาลว่า การจับตนแยกขังเดี่ยวที่เรือนจำสเกียนเป็นการละเมิดคำสั่ง “ห้ามปฏิบัติต่อผู้ต้องขังอย่างไร้มนุษยธรรมและบั่นทอนศักดิ์ศรี” ภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป (European Convention on Human Rights) และยังลิดรอนสิทธิในการมีครอบครัวของตนด้วย
“เขาต้องการติดต่อกับบุคคลภายนอกบ้าง” เอย์สไตน์ สตอร์วิก ทนายความของเบรวิกให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ก่อนที่การไต่สวนคดีจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 15-18 มี.ค.
สำนักงานอัยการสูงสุดในกรุงออสโลแถลงว่า ไม่มีข้อกล่าวหาใดๆ ที่จะต้องโต้แย้ง “เพราะไม่ปรากฏหลักฐานว่า ผู้ต้องหามีปัญหาด้านร่างกายหรือจิตใจที่เกิดจากสภาพแวดล้อมในเรือนจำ”
เนื่องจากการไต่สวนครั้งนี้ไม่มีคณะลูกขุน หน้าที่ในการตัดสินจึงตกเป็นของผู้พิพากษา คาดว่าจะประกาศคำตัดสินชี้ขาดในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ปี 2011 เบรวิก ได้วางระเบิดสำนักงานรัฐบาลในกรุงออสโลจนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย จากนั้นจึงเดินทางไปที่เกาะอูเทอยา และใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่นักเรียนที่ไปเข้าค่ายเยาวชนฤดูร้อนจนมีผู้เสียชีวิตไปอีก 69 คน
เขาถูกตัดสินจำคุก 21 ปี ซึ่งเป็นโทษจำคุกสูงสุดตามกฎหมายนอร์เวย์ แต่ยังสามารถขยายเวลาออกไปได้อีก
คุกที่คุมขัง เบรวิก มีลักษณะเป็น 3 ห้องเชื่อมต่อกัน โดยมีโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ให้ใช้ แต่ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้
บุคคลที่เบรวิกได้พบในแต่ละวันมีเพียงผู้คุมเรือนจำและแพทย์ที่มาตรวจร่างกาย แม้แต่ สตอร์วิก ซึ่งเป็นทนายความก็ต้องคุยกันผ่านกระจกกั้น