สตูล - ตร.สภ.หลีเป๊ะ เปรียบเทียบปรับ 3 ชายฉกรรจ์ทำร้ายชาวเล จากเหตุถกเถียงที่อยู่อาศัย ขณะที่รอง ผบก.ลงเกาะหลีเป๊ะด่วน สอบข้อเท็จจริงละเลยการปฏิบัติหน้าหรือไม่หลังตกเป็นประเด็น
วันนี้ (11 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.นิพล เหมสลาหมาด รอง ผบก.ตร.ภ.จว.สตูล ลงพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ หมู่ที่ 7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล ทันทีที่ทราบเหตุทำร้ายร่างกายชาวเล บนเกาะหลีเป๊ะ ที่เกรงว่าจะมีชนวนเหตุบานปลายไปถึงกรณีข้อพิพาทปัญหาที่ดิน ที่ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไข หลังมีชาวเลจำนวนมากเดินทางมารอติดตามการเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดในครั้งนี้
พ.ต.อ.นิพล เหมสลาหมาด รอง ผบก.ตร.ภ.จว. พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชาญวิทย์ ศรีหร่าย สว.สภ.เกาะหลีเป๊ะ พร้อมพนักงานสอบสวน และผู้ใหญ่บ้าน พร้อมตัวแทนชาวเลจำนวนหนึ่ง ร่วมสอบสวนข้อเท็จจริงที่ สภ.หลีเป๊ะ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กรณีเหตุทำร้ายร่างกาย หลังผู้เสียหายคือ นายกล้าหาญ หาญทะเล อายุ 47 ปี และนายตา หาญทะเล อายุ 42 ปี ส่วนฝ่ายผู้ต้องหาคือ นายเรวัตร เดชสม อายุ 37 ปี ชาว อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง นายสมนึก ศรีศิริ อายุ 60 ปี ชาว อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และนายเจริญ จันทร์ช่วย อายุ 50 ปี ชาว อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ให้การว่า ได้ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจริง ซึ่งเป็นการทำร้ายร่างกาย ไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ และยินยอมให้พนักงานสอบสวนทำการเปรียบเทียบปรับ และชดเชยค่าสินไหมทดแทน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ทำการเปรียบเทียบปรับ และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว
กรณีสื่อเฟซบุ๊ก และสื่อทีวี พ.ต.อ.นิพล เหมสลาหมาด รอง ผบก.ตร.ภ.จว.สตูล ได้เรียกทั้ง 2 ฝ่ายมาซักถามข้อความที่ปรากฏเป็นข่าวว่า “ตำรวจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่” โดยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 นายสัญญา ศิริฮัน ตัวแทนชาวบ้านให้การว่า เมื่อเดินทางมาถึงสถานีตำรวจแล้วได้แจ้งให้พนักงานสอบสวนที่เข้าเวรในขณะนั้นคือ ร.ต.อ.โฆษิต เชาว์โกวิทกุล พนักงานสอบสวน ได้ดำเนินการสอบสวนปากคำ และได้ดำเนินการสอบปากคำผู้เสียหาย แต่ในระหว่างที่พนักงานสอบสวนทำงานมีชาวบ้านบางส่วนไม่พอใจ และเข้าใจผิดว่าทางพนักงานสอบสวนไม่ได้ดำเนินการใดๆ จึงพากันไปแจ้งต่อทางเจ้าหน้าที่ทหารทราบ และเป็นเหตุให้มีการรวมตัวกันที่หน้า สภ.เกาะหลีเป๊ะ
สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.00 น. ในหมู่บ้านชาวเล ตามที่ นายตา หาญทะเล นั่งอยู่ที่เกิดเหตุ โดยมี นายเรวัตร นายเดชสม นายสมนึก และนายเจริญ มาที่เกิดเหตุ โดย นายเรวัตร ได้อ้างว่า เป็นเจ้าของที่ดินบริเวณดังกล่าวเพื่อจะดำเนินการสร้างรีสอร์ต แล้วมีการโต้เถียงเรื่องที่ชาวบ้านสร้างห้องน้ำเพิ่มในพื้นที่เกิดเหตุ จนเกิดมีปากเสียงไม่พอใจกัน
จากนั้น นายเรวัตร นายสมนึก และนายเจริญ ได้ร่วมกันตบบริเวณใบหน้า นายตา ประมาณ 10 ครั้ง แล้วแยกย้ายกัน ก่อนที่ นายกล้าหาญ หาญทะเล ที่นั่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร ได้พูดโต้เถียงกับกลุ่ม นายเรวัต ที่เดินผ่าน และแล้วกลุ่ม นายเรวัตร ได้ร่วมทำร้ายตบบริเวณใบหน้า นายตา ประมาณ 3 ครั้ง จากนั้นได้แยกย้ายกัน
หลังเกิดเหตุ นายตา และนายกล้าหาญ ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานสอบสวน ซึ่งไม่ได้มีบาดแผล หรือรอยฟกช้ำจากการถูกทำร้าย แค่แจ้งว่าแสบใบหน้าหลังเกิดเหตุเล็กน้อยเท่านั้น จากนั้นเจ้าพนักงานสอบสวนได้เรียก นายเรวัตร กับพวกมาพบที่สถานีตำรวจ โดย นายเรวัตร และพวกรับสารภาพว่า ทำร้ายร่างกายจริง ซึ่งเป็นความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ เบื้องต้น คู่กรณียินยอมให้พนักงานสอบสวนทำการเปรียบเทียบปรับในชั้นสอบสวน