ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจ ปปง.ยึดเพิ่มเรือ รถบัสเครือบริษัท ทรานลี่ฯ เข้าข่ายนอมินี เบื้องต้น นำรถกว่า 50 คัน ส่งไปเก็บที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เพื่อมอบให้สำนักงาน ปปง.ตรวจสอบ ขณะที่เรือตรวจยึดได้แล้ว 33 ลำ เหลืออีก 2 ลำ ยังหาไม่พบ เผยแจ้งข้อหาอั้งยี่เจ้าของบริษัทแล้ว
จากกรณีเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (6 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พล.ต.ต.ชินรัตน์ ฤทธคณานนท์ ผบก.สส.ภ.8. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รองผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว นายสุธรรม เดชดี รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว นำเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ ทหารบก ทหารเรือ เจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ปปง.สนธิกำลังเข้าตรวจสอบทรัพย์สิน และเส้นทางการเงินของบริษัทในเครือข่ายบริษัท ทราน ลี่ เทรเวล จำกัด หรือบริษัทไทลี ที่มี นายกชกร รุ่งมงคลนาม และนายวีรชัย คำไผ่ประพันธ์กุล เป็นเจ้าของ และถูกศาลจังหวัดภูเก็ต ออกหมายจับในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวแต่อ้างว่าเป็นบุคคลสัญชาติไทยให้เจ้าหน้าที่ออกบัตรประชาชน และนำไปจดทะเบียนนิติบุคคลประกอบธุรกิจนำเที่ยว
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (6 ก.ค.) พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.อนิกฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.บัณฑิต ขาวสุธรรม พ.ต.ท.ประเสริฐ ศรีคุณรัตน์ รอง ผกก.8 บก.รน. และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบที่บริเวณท่าเทียบเรือบริษัท อินทรี มารีน จำกัด และบริษัทที แอล เบทเตอร์เวย์ จำกัด อีกครั้ง เพื่อติดตามความคืบหน้าของการตรวจยึดเรือ และรถบัสของทั้ง 2 บริษัท ซึ่งเป็นเครือข่ายของบริษัท ทราน ลี่ จำกัด เนื่องจากในส่วนของการเข้าไปตรวจสอบนั้นพบว่า เรือ และรถบางส่วนทางผู้ประกอบการได้นำออกไปให้บริการนักท่องเที่ยวก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปปฏิบัติการ
อย่างไรก็ตาม สำหรับผลการปฏิบัติงานจนถึงขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดเรือได้แล้ว จำนวน 33 ลำ จากจำนวนเรือของบริษัทที่มีอยู่ทั้งหมด 35 ลำ ส่วนอีก 2 ลำ ขณะนี้ยังหาไม่พบ ขณะที่ในส่วนของรถบัสนั้นสามารถตรวจยึดได้แล้วประมาณ 56-57 คัน จากทั้งหมด 117 คัน ซึ่งในการตรวจสอบทั้งเรือ และรถได้จัดเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าติดตามต่อไปจนกว่าจะตรวจยึดได้ครบตามจำนวนที่มีอยู่
สำหรับรถที่ตรวจยึดได้แล้วในเบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าประจำการที่รถคันละ 1 คน เพื่อให้คนขับรถขับรถที่ถูกตรวจยึดไปจอดไว้ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ต.ไม้ขาว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ส่วนรถที่ตรวจยึดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นาย พร้อมคนขับควบคุมขับไปไว้ที่ตำรวจภูธรภาค 8 ต.ท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อส่งมอบต่อให้แก่สำนักงาน ปปง.ในการดำเนินการตรวจสอบ ขณะที่ในส่วนของเรือยังไม่สามารถนำไปเก็บที่อื่นได้ เนื่องจากช่วงเย็นเป็นช่วงน้ำลง แต่ในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ค.) จะนำเรือทั้งหมดที่ตรวจยึดได้ขึ้นคานที่แพแสงอรุณ เพื่อรอส่งมอบให้แก่ทางสำนักงาน ปปง.ดำเนินการต่อ
พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า การปฏิบัติการในวันนี้เป็นการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำงานร่วมกับทางสำนักงาน ปปง.ในการตรวจยึดทรัพย์ตามกฎหมาย ปปง.สำหรับผู้กระทำความผิดในข้อหาอั้งยี่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อทางนายกชกร รุ่งมงคลนาม และนายวีรชัย คำไผ่ประพันธ์กุล เป็นเจ้าของบริษัทแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเป็นขั้นตอนของทาง ปปง.ที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมายของ ปปง.ต่อไป ส่วนกรณีลูกจ้างของบริษัทเหล่านี้ที่ตกงานก็จะมีการประสานกับทางจัดหางานในการช่วยเหลือต่อไป
จากกรณีเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (6 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พล.ต.ต.ชินรัตน์ ฤทธคณานนท์ ผบก.สส.ภ.8. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รองผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว นายสุธรรม เดชดี รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว นำเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ ทหารบก ทหารเรือ เจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ปปง.สนธิกำลังเข้าตรวจสอบทรัพย์สิน และเส้นทางการเงินของบริษัทในเครือข่ายบริษัท ทราน ลี่ เทรเวล จำกัด หรือบริษัทไทลี ที่มี นายกชกร รุ่งมงคลนาม และนายวีรชัย คำไผ่ประพันธ์กุล เป็นเจ้าของ และถูกศาลจังหวัดภูเก็ต ออกหมายจับในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวแต่อ้างว่าเป็นบุคคลสัญชาติไทยให้เจ้าหน้าที่ออกบัตรประชาชน และนำไปจดทะเบียนนิติบุคคลประกอบธุรกิจนำเที่ยว
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (6 ก.ค.) พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.อนิกฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.บัณฑิต ขาวสุธรรม พ.ต.ท.ประเสริฐ ศรีคุณรัตน์ รอง ผกก.8 บก.รน. และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบที่บริเวณท่าเทียบเรือบริษัท อินทรี มารีน จำกัด และบริษัทที แอล เบทเตอร์เวย์ จำกัด อีกครั้ง เพื่อติดตามความคืบหน้าของการตรวจยึดเรือ และรถบัสของทั้ง 2 บริษัท ซึ่งเป็นเครือข่ายของบริษัท ทราน ลี่ จำกัด เนื่องจากในส่วนของการเข้าไปตรวจสอบนั้นพบว่า เรือ และรถบางส่วนทางผู้ประกอบการได้นำออกไปให้บริการนักท่องเที่ยวก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปปฏิบัติการ
อย่างไรก็ตาม สำหรับผลการปฏิบัติงานจนถึงขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดเรือได้แล้ว จำนวน 33 ลำ จากจำนวนเรือของบริษัทที่มีอยู่ทั้งหมด 35 ลำ ส่วนอีก 2 ลำ ขณะนี้ยังหาไม่พบ ขณะที่ในส่วนของรถบัสนั้นสามารถตรวจยึดได้แล้วประมาณ 56-57 คัน จากทั้งหมด 117 คัน ซึ่งในการตรวจสอบทั้งเรือ และรถได้จัดเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าติดตามต่อไปจนกว่าจะตรวจยึดได้ครบตามจำนวนที่มีอยู่
สำหรับรถที่ตรวจยึดได้แล้วในเบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าประจำการที่รถคันละ 1 คน เพื่อให้คนขับรถขับรถที่ถูกตรวจยึดไปจอดไว้ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ต.ไม้ขาว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ส่วนรถที่ตรวจยึดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นาย พร้อมคนขับควบคุมขับไปไว้ที่ตำรวจภูธรภาค 8 ต.ท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อส่งมอบต่อให้แก่สำนักงาน ปปง.ในการดำเนินการตรวจสอบ ขณะที่ในส่วนของเรือยังไม่สามารถนำไปเก็บที่อื่นได้ เนื่องจากช่วงเย็นเป็นช่วงน้ำลง แต่ในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ค.) จะนำเรือทั้งหมดที่ตรวจยึดได้ขึ้นคานที่แพแสงอรุณ เพื่อรอส่งมอบให้แก่ทางสำนักงาน ปปง.ดำเนินการต่อ
พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า การปฏิบัติการในวันนี้เป็นการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำงานร่วมกับทางสำนักงาน ปปง.ในการตรวจยึดทรัพย์ตามกฎหมาย ปปง.สำหรับผู้กระทำความผิดในข้อหาอั้งยี่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อทางนายกชกร รุ่งมงคลนาม และนายวีรชัย คำไผ่ประพันธ์กุล เป็นเจ้าของบริษัทแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเป็นขั้นตอนของทาง ปปง.ที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมายของ ปปง.ต่อไป ส่วนกรณีลูกจ้างของบริษัทเหล่านี้ที่ตกงานก็จะมีการประสานกับทางจัดหางานในการช่วยเหลือต่อไป