สตูล - ชาวสวนไม้ผลผสมใน อ.ควนโดน จ.สตูล กำลังได้รับความเดือดร้อนหนัก หลังถูกค้างคาว และแมลงบุกกัดกินผลผลิตจนเสียหายเพียบ ขณะที่เกษตรอำเภอเข้าแนะวิธีป้องกันเบื้องต้น
วันนี้ (2 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบกับเกษตรกรชาวสวนผลไม้ใน อ.ควนโดน จ.สตูล ที่ต้องประสบปัญหาซ้ำซ้อน หลังจากภัยแล้งที่มาเยือนในปีนี้ยาวนานแล้ว หลังฝนตกผลไม้ก็แตกช่อชูดอกให้ผลผลิตไม่นาน กลับมาถูกสัตว์ร้ายเข้าทำลายผลผลิตจนได้รับความเสียหาย
อย่างเกษตรกรชาวสวนไม้ผลผสม ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.ควนโดน อ.ควนโดน จ.สตูล ต้องหาวิธีแก้ปัญหากันเองโดยการจัดหาตาข่าย เดินสายไฟล่อสัตว์ที่เข้ามากัดกินสวนไม้ผล อย่างเช่น ค้างคาว ที่ระยะนี้พบว่ามีจำนวนมากที่มารุมกัดกินสวนลองกอง ทุเรียนหมอนทอง ผลผลิตเสียหาย โดยการดักจับด้วยวิธีดังกล่าวจนได้ค้างคาวครั้งละไม่น้อยกว่า 10 ตัว และต้องปล่อยให้ตายแห้งคาตาข่าย ก่อนจะเปลี่ยนตาข่ายใหม่ โดยจะทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเก็บผลผลิตขายได้
นางซอฟีย๊ะ แซะอามา อายุ 44 ปี เกษตรกรสวนผลไม้ เล่าว่า เนื่องจากหมู่บ้านของเรามีค้างคาวจำนวนมาก จำเป็นต้องหาตาข่ายเพื่อที่จะดักจับค้างคาวที่ชอบมากัดกินผลไม้ แต่มันก็ช่วยได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งเวลาที่พวกมันมาก็จะมาเป็นจำนวนมากถึง 20 ตัว นอกจากจะมีค้างคาวมากัดกินผลไม้แล้ว ก็ยังมีกระรอกที่มากัดกินทุเรียนจนหมด เป็นแบบนี้มานานแล้วแก้ยังไงก็แก้ไม่หายสักที
นายนรา มียัง เกษตรอำเภอควนโดน กล่าวว่า สำหรับสวนไม้ผลจะเป็นอาหารของค้างคาว และคน ซึ่งเราก็อยู่ร่วมกัน แต่ในปีนี้มีผู้ประสบปัญหามากเพราะว่าลองกองมีผลผลิตหลายรุ่น มีถึง 5 รุ่น ซึ่งรุ่นสุดท้ายจะอยู่ที่เดือนกันยายน เพราะช่วงที่ออกเยอะจะอยู่ช่วงต้นเดือนกันยายน ช่วงนี้ลองกองจะออกมาเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น จำนวนของค้างคาวมีเยอะกว่าจำนวนไม้ผล มันเลยต้องออกมาแย่งกันกิน
ดังนั้น เกษตรกรก็ต้องหาแนวทางการป้องกันโดยการใช้กัด หรือตาข่ายมาดักจับ เพื่อที่จะลดจำนวนของค้างคาวลงให้ได้ไม่มากก็น้อย บางพื้นที่ก็จะมีการห่อผลลองกอง นี่ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ทางเกษตรกรทำขึ้นมาเพื่อป้องกันการกัดกินของแมลง หรือค้างคาวได้อีกด้วย