ยะลา - ทุเรียนจากจันทบุรี ส่งขายที่ยะลา ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 120 บาท เพิ่มขึ้นเท่าตัวของราคาตลาดกลาง หวั่นดึงราคาทุเรียนในพื้นที่ให้ตกต่ำ วอนหน่วยงานภาครัฐเข้ามาแทรกแซง หรือพยุงราคาของผลผลิตในพื้นที่ให้อยู่ในขั้นต่ำที่เกษตรกรสามารถจะรับได้
วันนี้ (3 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดเมืองใหม่ เขตเทศบาลนครยะลา ซึ่งมีตลาดค้าผลไม้นำเข้าจากนอกพื้นที่ พบว่า ในขณะนี้มีผลไม้จากนอกพื้นที่ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นทุเรียน และมะม่วง นำเข้าจากต่างจังหวัดมาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะทุเรียนทั้งพันธุ์หมอนทอง ชะนี และพวงมณี ซึ่งถูกนำเข้ามาขายปลีก ก่อนผลผลิตในพื้นที่จะออกสู่ท้องตลาด
โดยเฉพาะทุเรียนทุกสายพันธุ์ที่มีราคาขายปลีกที่สูง เช่น ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ขายปลีกตกกิโลกรัมละ 110-120 บาท ทุเรียนพันธุ์พวงมณี ราคาขายปลีกกิโลกรัมละ 120 บาท และทุเรียนพันธุ์ชะนี ขายปลีกกิโลกรัมละ 75-85 บาท ซึ่งทุเรียนส่วนใหญ่นั้นผู้ค้าปลีกรายย่อยบอกว่า เป็นทุเรียนจากจังหวัดจันทบุรี ที่อยู่ในช่วงกำลังออกผลผลิต และนำมาขายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยราคาจากตลาดกลางก่อนที่จะถึงตลาดในจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่ที่กิโลกรัมละ 60 บาท เมื่อบวกรวมค่าขนส่งในการลำเลียงมาขายในพื้นที่แล้ว ส่งผลให้ราคาของทุเรียนสูงขึ้นไปเกือบเท่าตัว
ขณะเดียวกัน จากการสอบถามผู้ค้าปลีกบางรายก็บอกว่า ผลผลิตทุเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งยะลา ปัตตานี และนราธิวาส นั้น จะออกสู่ท้องตลาดในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้ราคาขายส่งตกต่ำลงเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา เพราะมีทุเรียนจากภาคอื่นที่ออกผลผลิตก่อนแล้ว ได้ชิงพื้นที่การค้าในท้องตลาดไป ยกเว้นว่าจะมีการส่งออกผลผลิตจากในพื้นที่ไปยังต่างประเทศ และอาจจะให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาแทรกแซง หรือพยุงราคาของผลผลิตในพื้นที่ให้อยู่ในขั้นต่ำที่เกษตรกรสามารถจะรับได้
อย่างไรก็ตาม ราคาของทุเรียนจากนอกพื้นที่ที่นำมาขายในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น มีพ่อค้าคนกลางที่นำทุเรียนจากตลาดภาคกลางมาส่งขายเป็นผู้กำหนดราคาในการขายส่ง ก่อนที่จะถึงมือผู้ค้าปลีกอีกทอดหนึ่ง จึงทำให้ราคาของทุเรียนสูงขึ้นไปอีกเท่าตัว ขณะเดียวกัน ยังไม่พบมาตรการควบคุมทุเรียนอ่อนในพื้นที่ และยังไม่พบว่ามีการนำทุเรียนอ่อนมาขาย แต่อย่างไรก็ตาม ทางผู้ค้าปลีกบางรายก็ให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมา ก็เคยมีการนำทุเรียนอ่อนมาขายแต่ไม่มีผู้เสียหายใดที่กล้าจะแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินการ
