xs
xsm
sm
md
lg

ซีอิ๊วขาวของดีคู่เมืองตรังผู้บริโภคยังนิยมกว้างขวาง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ตรัง - ชาวตรังยังคงนิยมบริโภคซีอิ๊วกันอย่างกว้างขวาง อันเนื่องมาจากวัฒนธรรมการกิน โดยเฉพาะชาวไทยเชื้อสายจีนที่สืบทอดกันยาวนานแล้ว เพราะนำไปปรุงอาหารได้หลากหลายกว่าน้ำปลา
 

 
วันนี้ (29 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสง่า เรืองพิมาน หรือโกหว่า อายุ 71 ปี ผู้บริหารโรงงานซีอิ๊วตราแกะ เครื่องปรุงรส หรือซอสปรุงรสชื่อดังที่อยู่คู่เมืองตรังมาถึง 80 ปีแล้ว กล่าวว่า ทุกวันนี้ชาวตรังก็ยังคงให้ความนิยมบริโภคซีอิ๊วกันอย่างกว้างขวาง อันเนื่องมาจากวัฒนธรรมการกิน โดยเฉพาะชาวไทยเชื้อสายจีนที่สืบทอดกันยาวนานแล้ว เพราะซีอิ๊วสามารถนำไปปรุงอาหารชื่อดังได้หลากหลาย เช่น หมูย่าง หมูพะโล้
 

 
รวมทั้งนำไปจิ้มกับเนื้อสัตว์ต่างๆ ได้อย่างเอร็ดอร่อย แตกต่างไปจากผู้คนในจังหวัดอื่น หรือภาคอื่นที่นิยมบริโภคน้ำปลามากกว่า ทั้งนี้ เพราะซีอิ๊วเป็นเครื่องปรุงรสที่ให้รสชาติหอมกลมกล่อม รวมทั้งมีความเค็ม และความคาวน้อยกว่าน้ำปลา ที่สำคัญก็คือ กระบวนการผลิตซีอิ๊วไม่มีการเจือสี ปรุงกลิ่น หรือแต่งรสใดๆ ทั้งสิ้น จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัย แถมวัตถุดิบที่นำมาผลิตก็ประกอบไปด้วยถั่วเหลืองเป็นหลัก
 

 
นอกจากนั้น ซีอิ๊วก็ยังไม่มีเนื้อสัตว์เจือปนแม้แต่นิดเดียว จึงเหมาะสำหรับผู้ที่กินเจ หรือผู้รักสุขภาพ ซึ่งทำให้ซีอิ๊วแกะ มียอดการสั่งซื้อโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในจังหวัดตรัง และในภาคใต้ รวมทั้งนักท่องเที่ยวภาคอื่นที่เดินทางมาเยือน ก็จะนิยมซื้อไปเป็นของฝาก เพราะเป็นสูตรเด็ดที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษชาวมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ซึ่งลูกค้าจะต้องเดินทางมาซื้อถึงโรงงาน หรือไปซื้อจากร้านค้าต่างๆ ที่รับไปจำหน่ายต่อเท่านั้น แต่จะไม่มีการเปิดสาขา นอกจากจัดส่งให้ตามออเดอร์ที่สั่งเข้ามาผ่านทางรถทัวร์ หรือรถไฟ โดยล่าสุด มีการผลิตประมาณวันละ 12,000 ขวด (ขนาด 600 ซีซี) ขายส่งขวดละ 15 บาท และคาดว่าเครื่องปรุงรสชนิดนี้ยังคงอยู่ต่อไปอีกยาวนาน หากตราบใดที่ชาวตรังยังมีวัฒนธรรมในการบริโภคเช่นนี้
 

 
สำหรับกระบวนการผลิตซีอิ๊วตราแกะ จะเริ่มต้นตั้งแต่การนำถั่วเหลืองมาล้างทำความสะอาด ก่อนที่จะนำไปต้มในกระทะใบใหญ่ให้สุก แล้วนำไปตากในเจ้ย ซึ่งเป็นวัสดุที่ทำจากไม้ไผ่สานเป็นลายเข้ากันเป็นรูปวงกลม หรือวงรี คล้ายกระด้ง จนถั่วเหลืองแห้ง และเปลี่ยนสี จากนั้นนำไปหมักในโอ่งขนาดใหญ่ แต่จะต้องเปิดฝาเพื่อรับแสงแดดจัดๆ เป็นเวลา 2-3 เดือน โดยขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ซึ่งหากเป็นในหน้าแล้งจะใช้เวลาน้อยกว่า และห้ามถูกน้ำฝนโดยเด็ดขาด เพื่อให้สีกลิ่นรสแบบธรรมชาติ ก่อนที่จะนำไปกลั่นเพื่อให้ได้ซีออ๊วบริสุทธิ์ 100% แล้วบรรจุขวด และติดสลาก จำหน่ายได้ทันที แต่กว่าจะได้ซีอิ๊ว 1 ขวด ต้องใช้ระยะเวลา 3-4 เดือน ซึ่งค่อนข้างยาวนานมากพอสมควร เพื่อให้ผลผลิตออกมามีคุณภาพดีที่สุด
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น