ผู้จัดการรายวัน 360 - XO ผู้ส่งออกซอสปรุงรสและเครื่องประกอบอาหารไทยรายใหญ่ เผยผลงานปี 58 มีรายได้รวม 740.11 ล้านบาท กำไรสุทธิ 85.84 ล้านบาท เป็นผลจากการตอบรับจากลูกค้าดีต่อเนื่อง แม้กำลังการผลิตเต็ม เดินหน้าสร้างโรงงานแห่งใหม่ คาดผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 3/59 ดันเป้ารายได้ปีนี้โตอีก 15%
นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO ผู้ส่งออกรายใหญ่ในผลิตภัณฑ์ซอสปรุงรสและน้ำจิ้มต่างๆ ผลิตภัณฑ์เครื่องแกงเครื่องประกอบอาหาร ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน และผลิตภัณฑ์อาหารกึ่งสำเร็จรูปและสำเร็จรูปอื่นๆ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2559 เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีกจำนวน 35,100,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 176,750,000 บาท รวมเป็น 211,850,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 70,200,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 1 หรือ XO-W1 จำนวนไม่เกิน 70,000,000 หุ้นที่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม สัดส่วน 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยไม่คิดมูลค่าและเพื่อรองรับการปรับสิทธิ ESOP Warrant
XO-W1 มีอายุไม่เกิน 3 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ อัตราใช้สิทธิ 1 ต่อ 1 ในราคา 4 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิซื้อหลักทรัพย์แปลงสภาพ (XW) วันที่ 3 พฤษภาคม 2559 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรร วันที่ 9 พฤษภาคม 2559 และกำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้น วันที่ 25 เมษายน 2559
นอกจากนี้ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม 2558 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 3 พฤษภาคม 2559 วันที่จ่ายปันผล วันที่ 19 พฤษภาคม 2559 เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯ มาโดยตลอด
“บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มกระแสเงินสดเพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อขยายกิจการในอนาคต ทั้งการเตรียมพร้อมสำหรับการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจหลักของบริษัทฯ จากการเพิ่มสายการผลิตในสินค้ากลุ่มประเภทซอสปรุงรสซึ่งเป็นกลุ่มที่มียอดขายมากที่สุดและมีแนวโน้มความต้องการจากลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หรือเตรียมพร้อมสำหรับการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างพูดคุยกับผู้ประกอบการอยู่ 2 รายที่มีความแข็งแกร่งในธุรกิจของตัวเอง และการพูดคุยคืบหน้าไปพอสมควรแต่ยังไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าข้อสรุปจะจบลงเมื่อใด แต่บริษัทฯ ก็จะพิจารณาอย่างรอบคอบและคาดว่าอย่างเร็วที่สุดก็น่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ ซึ่งบริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบในลำดับถัดไปและเชื่อมั่นว่าจะเข้ามาสนับสนุน XO ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นและช่วยเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ในระยะยาว” นายจิตติพรกล่าว
สำหรับผลประกอบการงวดปี 2558 บริษัทฯ มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 740.11 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 734.95 ล้านบาท เป็นผลจากบริษัทฯ มีคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 85.84 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 86.20 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักมาจากการรับรู้ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวนเรียบร้อยแล้วและคาดว่าในช่วงต่อจากนี้ผลกระทบดังกล่าวจะน้อยลงมาก เนื่องจากบริษัทฯ ได้เปลี่ยนยอดขายสินค้าให้เป็นเงินบาทแล้ว 48% ของยอดขายทั้งหมด
“ผลงานในปี 2558 บริษัทฯ ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง แม้กลุ่มลูกค้าหลักในยุโรปจะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจและมีการชะลอการสั่งซื้อสินค้าอยู่บ้างแต่ภาพรวมทั้งปีก็ยังอยู่ในทิศทางที่ดี ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ขายสินค้าโดยมียอดขายเป็นสกุลเงินยูโรเป็นหลักสูงถึง 72% จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่พอสมควรเพื่อควบคุมความเสี่ยงดังกล่าว บริษัทฯ ก็ได้มีการเจรจากับทางลูกค้าเพื่อเปลี่ยนยอดขายจากสกุลเงินยูโรเป็นเงินบาทให้ได้มากที่สุด โดยเมื่อสิ้นปี 2558 บริษัทฯ มียอดขายเป็นเงินบาทแล้ว 48% ของยอดขายทั้งหมด และเป็นสกุลเงินยูโร 26% สกุลเงินเหรียญสหรัฐ 26%” นายจิตติพรกล่าว
นายจิตติพรกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ มีกำลังการผลิตสินค้าค่อนข้างเต็มกำลังการผลิตแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าประเภทซอสซึ่งเป็นกลุ่มรายได้หลักของบริษัทฯ คิดเป็นสัดส่วน 67% ของยอดขายทั้งหมด ทำให้การรับออเดอร์จากลูกค้าทำได้ไม่เต็มที่ แต่หลังจากโรงงานใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ระยอง แล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 3/2559 เพื่อสนับสนุนให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตสินค้าประเภทซอสเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว หรืออยู่ที่ประมาณ 1.4 หมื่นตันต่อ 1 กะ จากปัจจุบันอยู่ที่ 7 พันตันต่อ 1 กะ ทำให้บริษัทฯ สามารถรองรับความต้องการซื้อได้เพิ่มขึ้นในขณะที่ต้นทุนลดลง โดยในช่วงเริ่มต้นโรงงานแห่งใหม่บริษัทฯ จะมีไลน์ผลิตซอสทั้งสิ้น 2 ไลน์ก่อนจากพื้นที่ในโรงงานใหม่ที่สามารถเพิ่มไลน์การผลิตซอสได้เต็มที่อีกทั้งสิ้น 4 ไลน์ในอนาคต