พระพม่าในชุมพรอ้างโดนสะกดรอย แปลงร่างเป็นฆราวาสซ้อนท้าย จยย.สาวใหญ่ ชาวบ้านเห็นแจ้ง ตร.จับได้

ชุมพร - พระสงฆ์ชาวพม่า บวชที่วัดใน อ.หลังสวน จ.ชุมพร อ้างโดนปองร้าย แปลงกายแต่งชุดฆราวาสนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปกับหญิงสาว ชาวบ้านจำได้ขับรถสะกดรอยตาม โทร.แจ้งตำรวจออกสกัดตามจับตัวไว้ได้

เมื่อเวลา 22.30 น.คืนที่ผ่านมา (25 มิ.ย.) ร.ต.อ.บรรจง ศักดิ์พิมล รองสารวัตรสอบสวน สภ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่า ได้ติดตามชายที่บวชเป็นพระสงฆ์อยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ซึ่งเปลี่ยนชุดเป็นชาวบ้านทั่วไปกำลังซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปกับผู้หญิงวัยกลางคน บนถนนสาย 4006 อ.หลังสวน-อ.พะโต๊ะ กำลังมุ่งหน้าไปทางเขาม่วง หมู่ที่ 4 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน และได้เลี้ยวเข้าไปหลบอยู่ที่บ้านของชาวบ้าน จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย ร.ต.อ.ยงยุทธ พิมพ์เรือง รอง สวป. และกำลังสายตรวจจำนวนหนึ่ง

เมื่อตำรวจไปถึงบ้านหลังดังกล่าวพบกับ นางสุนทรี ประสมทรัพย์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219 หมู่ที่ 8 ตำบลวังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ออกมาแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน พร้อมกับกล่าวว่า ชายและหญิงทั้ง 2 คนที่อยู่ในบ้านตนนั้นตนไม่เคยรู้จักมาก่อน ซึ่งผู้หญิงได้ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กข 9865 ชุมพร และมีผู้ชายนั่งซ้อนท้ายมา ได้ขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้านแล้วบอกว่า ขอหลบซ่อนตัวชั่วคราวเพราะมีคนขับรถเก๋งไล่ติดตามมากลัวว่าจะถูกทำร้าย ตนและสามีจึงให้ผู้หญิงเข้าไปอยู่ในบ้านส่วนผู้ชายให้หลบอยู่ข้างบ้าน จนกระทั่งเห็นตำรวจมาดังกล่าว

ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า ชายคนดังกล่าวชื่อ พระโบโบ หรือนายนาย อายุ 37 ปี เป็นพระสงฆ์ชาวพม่า ได้บวชพระสงฆ์มานานเกือบ 10 ปีแล้ว พูดไทยได้ชัดเจน ที่ผ่านมา เป็นพระลูกวัดและจำวัดอยู่ที่วัดดังแห่งหนึ่งในอำเภอหลังสวน ต่อมา ได้มาพักอยู่ที่ศาลพ่อตาเขาม่วงได้ 3 ปี มีพฤติกรรมชอบทำเครื่องรางของขลัง และใบ้หวยจนมีชาวบ้านที่เชื่อศรัทธาถือจำนวนมาก ส่วนผู้หญิงชื่อ นางเอ (นามสมมติ) อายุ 45 ปี ชาวตำบลปังหวาน อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร

จากการสอบสวนเบื้องต้น พระโบโบ กล่าวเพียงแค่โทร.นัดให้ นางเอ ให้ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมารับตนที่ใกล้ๆ กับร้านขายต้นไม้ ซึ่งอยู่ห่างจากห้องพักที่ศาลพ่อตาเขาม่วง ประมาณ 100 เมตร เพื่อจะไปนอนที่บ้านของ นางเอ ซึ่งเป็นแม่หม้าย ปรากฏว่า ระหว่างทางได้สังเกตเห็นมีรถเก๋งขับสะกดรอยตามมา ด้วยความกลัวว่าจะถูกทำร้าย จึงให้ นางเอ เลี้ยวรถเข้าซอย และขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านเพื่อหลบซ่อนตัวเพราะคิดว่ามีคนร้ายติดตามมา กระทั่งตำรวจตามมาดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตรวจค้นในย่ามพบสบง จีวร และผักกะเฉด และข้าวของเครื่องใช้อีกจำนวนหนึ่ง

ต่อมา ตำรวจได้คุมตัวพระโบโบ ไปหาหลักฐานที่ห้องพักภายในศาลพ่อตาเขาม่วง เจ้าหน้าที่พบเพียงหนังสือผ่านแดนชั่วคราว และใบเกียรติบัตรได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการฝ่ายควบคุมห้องสอบธรรมศึกษา ประจำปี 2552 สอบ ณ โรงเรียนเมืองหลังสวน ใบเกียรติบัตรดังกล่าวเซ็นชื่อโดยเจ้าคณะจังหวัดชุมพร และเจ้าคณะอำเภอหลังสวน จึงได้ประสานไปยังพระผู้ใหญ่เพื่อจะขอให้ทำการสึก แต่พระผู้ใหญ่ได้แจ้งว่า จากพฤติกรรมของพระโบโบ นั้นไม่จำเป็นต้องทำการสึกเพราะขาดจากความเป็นพระแล้ว

ตำรวจจึงนำตัวไปทำบันทึกการจับกุม เนื่องจากพระโบโบ หรือนายนาย ไม่สามารถแสดงเอกสารการเข้าเมืองอย่างถูกต้องได้ จึงแจ้งข้อกล่าวหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาพักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนนางเอ ตำรวจได้ว่ากล่าวตักเตือนแล้วปล่อยตัวกลับบ้าน