กาญจนบุรี - ภัยสังคมเมืองกาญจน์รุนแรงขึ้น “ไอ้หนุ่มโรคจิต” มีลายสักที่แขน และขาที่ใช้ผ้าปิดปากอำพรางใบหน้าตนเองอาละวาดไล่ลวนลามหญิงสาวในยามค่ำคืนหนักขึ้น เผยหลังไม่ประสบผลสำเร็จจากการปองร้ายหญิงสาวเหยื่อรายแรก ระหว่างขับรถ จยย.หลบหนีไปพบเหยื่อหญิงสาววัย 20 ปี อีกรายแล้วลงมือลวนลาม แต่หญิงสาวเอาตัวรอดมาได้ก่อนแจ้งญาติให้ทราบเข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.พนมทวน เหยื่อวอนตำรวจตามล่าตัวโดยเร็ว เชื่อหากยังปล่อยให้ลอยนวลจะมีหญิงสาวตกเป็นเหยื่อเพิ่มอีกแน่นอน ยันเป็นคนเดียวกันกับในคลิปที่ถูกโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีผู้ที่ใช้เฟซบุ๊ก นามว่า Persia Jongtawon นำคลิปวิดีโอภาพจากกล้องวงจรปิด ความยาว 1.33.33 นาที และภาพนิ่ง จำนวน 4 ภาพ มาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังจากพบหนุ่มวัยรุ่นโรคจิตขับรถจักรยานยนต์ตามแฟนสาวมาที่บ้าน แล้วใช้ผ้าปิดปากตนเองเพื่ออำพรางใบหน้า แต่พบมีรอยสักที่บริเวณแขน และขา จากนั้นได้พยายามที่จะเข้าไปในบ้านซึ่งเป็นช่วงกลางคืนเพื่อหวังเข้าปองร้าย แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากมีคนอยู่ในบ้าน ทำให้หนุ่มวัยรุ่นโรคจิตคนดังกล่าวถอนตัวออกมาแล้วขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยเหตุเกิดขึ้นที่บริเวณบ้านซึ่งเป็นห้องแถว 3 ห้องติดกัน ตั้งอยู่ริมถนนในซอยโรงเจ หมู่ 2 ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ในพื้นที่ สภ.ท่าม่วง ตามที่ข่าวเสนอไปแล้วนั้น
เบื้องต้น พบว่าไม่ได้มีเพียงหญิงสาวคนดังกล่าวเพียงคนเดียวเท่านั้นที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อหนุ่มโรคจิตรายนี้ แต่จากการตรวจสอบล่าสุด พบว่า ยังมีหญิงสาวอีกหลายรายที่ตกเป็นเป้าของหนุ่มวัยรุ่นมีรอยสักที่แขน และขาโรคจิตคนนี้
ทั้งนี้ นายณัฐพงษ์ ฐิตินันทเดชเอก พี่ชายสามีของหญิงสาวเหยื่อรายแรกที่ถูกหนุ่มโรคจิตขับรถจักรยานยนต์ตามมาที่บ้านเพื่อมุ่งปองร้ายที่ถูกเผยแพร่ทางคลิป ตามที่ข่าวได้เสนอไปเมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมาได้เปิดเผยกับ MGR Online ภาคกลางว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่มีเฉพาะน้องสะไภ้ของตนเองเท่านั้นที่ตกเป็นเป้าของหนุ่มวัยรุ่นโรคจิตรายนี้ ซึ่งยังมีหญิงสาวรายอื่นอีกหลายรายที่ตกเป็นเป้า และบางรายเคยถูกลวนลามมาแล้ว แต่สามารถเอาตัวรอดมาได้
นายณัฐพงษ์ ให้ข้อมูลอีกว่า หลังจากชายหนุ่มโรคจิตคนดังกล่าวหลบหนีไปจากบ้านหลังจากจะเข้ามาในบ้านเพื่อปองร้ายกับน้องสะไภ้ของตนไม่สำเร้จ ในระหว่างทางหลบหนีได้ไปก่อเหตุฉุดหญิงสาวอีก 1 ราย ที่กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตามถนนสายกร่างทอง-ดอนเจดีย์ หมู่ 5 ต.ดอนเจดีย์ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี แต่ไม่มีการข่มขืน ได้เพียงแค่ใช้มือลูบไล้ไปตามร่างกายเพื่อให้เกิดอารมณ์แล้วใช้มือช่วยเหลือตัวเองจนสำเร็จความใคร่แล้วหลบหนีไปเท่านั้น หลังเกิดเหตุหญิงสาวคนดังกล่าวพร้อมญาติได้ไปแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้แล้วที่ สภ.พนมทวน อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี
ล่าสุด เช้าวันนี้ (21 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดตามหาหญิงสาวคนดังกล่าวจนกระทั่งพบทราบชื่อคือ น้องเฟิร์น (นามสมมติ) อายุ 20 ปี เป็นชาว ต.ดอนเจดีย์ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี โดยน้องเฟิร์น ยินดีที่จะเปิดโปงถึงพฤติกรรมของชายคนดังกล่าวเพื่อเป็นการเตือนภัยให้แก่ผู้หญิง หรือหญิงสาววัยรุ่นทุกรายที่อาจจะตกเป็นเหยื่อรายต่อไปว่า ตนทำงานอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่อำเภอท่าม่วง ที่อยู่ห่างจากบ้านประมาณ 10 กิโลเมตร ปกติจะมีพ่อ และน้องชายสลับกันไปรับส่งที่ทำงานทุกวัน แต่ในวันเกิดเหตุคือวันที่ 16 ก.ย.ตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปทำงานเอง โดยไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับตน
หลังจากห้างสรรพสินค้าปิดในช่วงเวลากลางคืน ตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากห้างเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน เมื่อขับมาถึง 4 แยกไฟแดงมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ตนก็เลี้ยวซ้ายข้ามทางรถไฟแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนสายกร่างทอง-ดอนเจดีย์ เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน เมื่อมาถึงพื้นที่หมู่ 5 ต.ดอนเจดีย์ ซึ่งเป็นทางเปลี่ยว และมืดก็สังเกตเห็นว่ามีคนขับขี่รถจักรยานยนต์ตามมาอย่างกระชั้นชิดแล้วมากระกบข้างรถของตน จากนั้นได้ยื่นมือเข้ามาจับที่ระหว่างขาของตน
ด้วยความกลัวตนจึงพยายามเร่งเครื่องหลบหนีแต่ไม่พ้น ชายคนดังกล่าวได้ผลักตนจนรถจักรยานยนต์ตกลงไปในคลองข้างทางที่เป็นไร่อ้อย จากนั้นชายคนดังกล่าวได้กระโดดลงมาจากรถแล้วมาคร่อมตัวของตน พร้อมทั้งใช้มือบีบคอของตนเอาไว้ และพูดจาข่มขู่ไม่ให้ส่งเสียงร้อง หากส่งเสียงร้องโวยวายจะเรียกให้เพื่อนๆ ที่อยู่แถวนี้เป็นจำนวนมากมาลงแขก
น้องเฟิร์น กล่าวต่อว่า ระหว่างนั้นชายคนดังกล่าวก็ได้ใช้มือลูบไล้ไปตามเรือนร่างของตนพร้อมๆ กับใช้มืออีกข้างหนึ่งช่วยเหลือตนเองไปด้วย ตนพยายามดิ้นรนขัดขืนแต่ก็ถูกชายคนดังกล่าวใช้มืออีกข้างหนึ่งบีบคอตนเอาไว้พร้อมกับนั่งทับ และได้ดึงเข็มขัดของตนเพื่อถอดกางเกงออก จนเข็มขัดขาด แต่ชายคนดังกล่าวก็ยังใช้มืออีกข้างหนึ่งช่วยเหลือตนเองอยู่จนสำเร็จความใคร่ ไม่นานนักก็ได้รีบวิ่งไปขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปอย่างรวดเร็ว ตนจึงได้พยายามนำรถจักรยานยนต์ขึ้นมาแล้วรีบขับขี่ไปที่บ้านที่อยู่ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร แล้วจึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแก่ตนให้กับพ่อ และแม่ฟัง จากนั้นจึงเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.พนมทวน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุบคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
“หนูจำลักษณะของชายคนดังกล่าวได้ว่านุ่งกางเกงยีนส์ยาวถึงหัวเข่า ใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ สวมรองเท้าแตะ ผมสั้น และใช้ผ้าปิดใบหน้าเอาไว้ โดยหลังจากตนกลับมาบ้านก็ได้ดูคลิปวิดีโอที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อๆกันไปในทางเฟซบุ๊ก จึงจำได้ว่าชายคนที่ทำร้ายตนเป็นคนเดียวกันที่อยู่ในคลิป” น้องเฟิร์น กล่าว และว่า
บุคคลดังกล่าวถือว่ามีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อผู้หญิงเป็นอย่างมาก เชื่อว่าจะต้องมีการขับขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อลงมือก่อเหตุอีกอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในยามค่ำคืน ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันจึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด