เรื่อง/ภาพ : พัชรี เกิดพรม
“ฉูรู” และ “แบ่นแบ้น” จะนำทีมข่าวลงไปหาความท้าทายกับกีฬาตกกุ้ง ในคลองละงู คลอง 2 น้ำ ที่ไหลจากป่าเทือกเขาบรรทัด ลงมาบรรจบกับน้ำทะเลที่คลองแห่งนี้ สร้างความอุดมสมบูรณ์ และสมดุลจนเกิดทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ เต็มไปด้วยปู ปลา และโดยเฉพาะกุ้งก้ามกราม ที่วันนี้ เราจะมาตามล่าด้วยวิธีที่อนุรักษ์ และได้รับความนิยมจากชาวบ้านในพื้นที่ต่างอำเภอพากันมาตกกุ้งก้ามกรามกันที่คลองแห่งนี้
วันนี้เราเลือกจะเตรียมเรือหางยาวเพื่อออกไปหาจุดที่เชื่อว่าจะมีกุ้งก้ามกรามอาศัยอยู่ในคลองละงู ซึ่งแล่นเรือจากจุดลงท่าเรือไปไม่ไกลนัก โดยระหว่างแล่นเรือผ่านขึ้นทวนน้ำไปนั้น จะเห็นว่ามีผู้ที่ชื่นชอบกีฬาตกกุ้งมานั่งเป็นจุดๆ เพื่อตกไปกินเป็นกับข้าวบ้าง ตกเพื่อเป็นกีฬา และบางคนตกเพื่อไปขายเป็นรายได้ สร้างสีสันในลำคลองละงูแห่งนี้
หลังได้จุดที่เหมาะก็ไม่รีรอ ในการจัดเตรียมอุปกรณ์เบ็ดคันไม่แพงนักกับกิจกรรมในวันนี้ พร้อมเหยื่อเป็นกุ้งขนาดเล็ก โดยวันนี้ คนในครอบครัวของ “ฉูรู” และ “น้องแบ่นแบ้น” ก็มาร่วมกิจกรรมกับเราด้วย ซึ่งกิจกรรมตกกุ้งก้ามกรามของครอบครัวนี้จะมีบ่อยครั้ง
โดยเฉพาะหลังฝนตกใหม่ๆ น้ำในคลองขุ่นแดง ในห้วงเดือน มิ.ย.-ธ.ค. ช่วงเข้าสู่ฤดูฝน ในคลองแห่งนี้จะพบกุ้งก้ามกรามมากมาย และมีขนาดใหญ่สุดตัวละ 8 ขีด ก็เคยตกได้กันมาแล้ว การตกกุ้งก้ามกราม ถือเป็นกีฬาที่ท้าทายที่ต้องคอยลุ้นว่า กุ้งจะมากินเหยื่อหรือไม่ ทำให้เป็นเสน่ห์ชวนหลงใหลให้ใครหลายคนที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้
บางคนเริ่มออกตกตั้งแต่เย็นวันนี้ ไปถึงเช้าอีกวันก็ยังมี บางคนตกได้ 4-5 ตัว ก็พอใจแล้วกับอาหารหนึ่งมื้อ แต่ครั้งนี้เราได้เตรียมเตาปิ้ง พร้อมน้ำจิ้มซีฟูดสูตรเด็ดของ “ฉูรู” มาด้วย ทันทีที่ได้กุ้งมาก็จัดแจงปิ้งย่างกันสดๆ ได้ความรสชาติความหวานของตัวกุ้ง และความมันของหัวกุ้งที่บอกได้คำเดียวว่า “หรอยจังฮู้”
นายปิยะชาติ ศรีภักดี อายุ 34 ปี “แบ่นแบ้น” เล่าว่า ทรัพยากรไม่ว่าจะเป็นพวกปลา กุ้ง จะอยู่ในลำคลองแห่งนี้จำนวนมาก ชาวบ้านแถวคลองละงูจะอาศัยพวกปลา กุ้ง เอาไปประกอบอาหารบ้าง ขายบ้าง เลยมองว่า อย่างน้อยก็ยังสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชนได้อย่างสบาย ไม่ว่าจะเป็นในช่วงฤดูไหนก็ตามก็สามารถทำได้หมด มีการตก หรือวางอวนปลาเล็กๆ น้อยๆ ตามประสาชาวบ้าน
และในช่วงนี้ก็เข้าสู่ช่วงน้ำแดง ก็จะเป็นการตกกุ้ง และอยากให้ช่วยกันดูแล และสอดส่องในเรื่องของการใช้ยาเบื่อ หรือว่าการใช้แห่ หรือว่าการดำยิง เพราะว่าอยากจะให้ชุมชนช่วยกันอนุรักษ์ในเรื่องของกุ้งแม่น้ำ หรือกุ้งก้ามกรามตรงนี้ไว้
ถ้าหากว่าเราอนุรักษ์มันไว้ได้เราจะสามารถรวมกลุ่ม แล้วก็ทำกันได้ตรงนี้ก็คือว่า รายได้จากแม่น้ำตรงนี้ จากสายคลองตรงนี้จะมีหลายรูปแบบ จะให้มีการเช่าเรือเพื่อมาตกกุ้ง หรือว่าชาวบ้านจะนำกุ้งที่ตกได้ไปขายในราคาที่สามารถกำหนดเองได้ เนื่องจากว่ากุ้งก้ามกรามมีรสชาติที่อร่อยดีอยู่แล้ว มองว่าเสน่ห์ของการตกกุ้งเป็นเกมที่ท้าทาย มันทำให้เราลุ้นไปกับมัน
บางครั้งพอตกได้แล้วเราก็จะลุ้นทันทีเลยว่า จะได้กุ้งตัวใหญ่ หรือกุ้งตัวเล็ก เพราะที่นี่มีกุ้งอยู่เยอะมาก โดยใช้เวลาในการตกเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น ก่อนหน้านี้ ก็มีกุ้งจำนวนเยอะกว่านี้ แต่อาจจะโดนยาเบื่อไปแล้วบางส่วน ตอนนี้ก็เหลือในปริมาณที่ค่อนข้างน้อย แต่หลังจากนี้ ก็อยากให้ชาวบ้านช่วยกันอนุรักษ์ให้มากกว่านี้
นายจิติศักดิ์ ไชยศักดิ์ “ฉูรู” เล่าว่า การสังเกตว่ากุ้งจะกินเหยื่อของเราหรือไม่นั้น สังเกตจากการขยับของเบ็ด หากมีการเคลื่อนไหวของเบ็ด แสดงว่ามันกำลังกินเหยื่ออยู่ แต่อาจจะยังกินอย่างไม่เต็มที่ เพราะบางครั้งเราคิดว่ากุ้งติดเบ็ดแล้ว แต่พอเรานำมาใกล้ๆ กำลังจะเก็บเบ็ดมันกลับดีดตัวกลับลงน้ำ
กุ้งส่วนใหญ่ที่ได้จากการตกก็จะนำกลับไปประกอบเป็นอาหาร บางครั้งได้ถึง 20 ตัว ชาวบ้านส่วนใหญ่นิยมจะมาตกกันช่วง 2 ทุ่ม ถึง 3 ทุ่ม เพราะช่วงนั้น กุ้งจะออกมาเยอะมากกว่าช่วงกลางวัน บางคนก็นำไปขายในราคากิโลกรัมละ 200-300 บาท
นอกจากการตกกุ้งก้ามกราม หรือกุ้งแม่น้ำ จะเป็นกีฬาที่ท้าทาย และมีเสน่ห์ในสายน้ำลำคลองละงูแห่งนี้แล้ว ยังเหมาะต่อนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบจะมาสัมผัสกับธรรมชาติคลอง 2 น้ำ โดยไม่ต้องออกทะเลไป เพราะกลัวคลื่นลมแรง
สามารถติดต่อเรือประมงพื้นบ้านของ “ฉูรู” และ “แบ่นแบ้น” ได้เพราะมีเครือข่ายเรือประมงพื้นบ้านในเทศบาลตำบลกำแพง อ.ละงู จ.สตูล ให้บริการ พร้อมกินกุ้ง ปลาสดๆ หวานอร่อยจากคลองได้เลยทีเดียว โทร. 08-7399-1983