คอลัมน์ : ดูรูปสวยแถมด้วยเกร็ดความรู้
โดย...สกนธ์ รัตนโกศล
--------------------------------------------------------------------------------
“นก” มีวิวัฒนาการมาจาก “ไดโนเสาร์เทอโรพอด”
มีความสำคัญเป็นอันมากต่อชีวิตมนุษย์ และต่อระบบนิเวศ อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความอิสระ จะบินไปไหนก็ไปได้ เพราะเป็นสัตว์ปีก จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง ชั้น Aves ซึ่งคำว่า Aves เป็นภาษาละติน หมายถึง “นก”
โดยมีลักษณะทั่วไปเป็นสัตว์ทวิบาท เลือดอุ่น ออกลูกเป็นไข่ รยางค์คู่หน้าเปลี่ยนแปลงไปเป็นปีก มีขนนก และมีกระดูกที่กลวงเบา ซึ่งนับว่านกเป็นชั้นของสัตว์มีกระดูกสันหลังที่มีความหลากหลายมากที่สุด ในบรรดาชั้นของสัตว์มีกระดูกสันหลังทั้งหลายที่อาศัยอยู่บนพื้นดิน
ความหลากหลายของนก นับเนื่องไปตั้งแต่ในเรื่องสีสัน เสียงร้อง ขนาดตัว อาหารการกิน และถิ่นที่อยู่อาศัย ในปัจจุบันทั่วโลกมีนกอยู่ประมาณ 8,800-9,800 ชนิด (ตามการจัดอนุกรมวิธานที่ต่างกัน)
อีกทั้งระหว่างนกกับคนยังมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และมีการเกื้อกูลกันมาเนื่องนาน ดูได้จากการนำนกมาใช้เป็นคำกล่าวที่มีคติควรฟัง มีจุดมุ่งหมายเพื่อการสั่งสอน เตือนสติให้ได้คิด ไม่ว่าจะเป็น...
“นางนกต่อ” คือ คนที่ทำหน้าที่ติดต่อ หรือชักจูงหลอกล่อคนอื่นให้หลงเชื่อ (ใช้ในทางไม่ดี)
หรืออาการปากที่มีแผลเปื่อยที่มุมปากเรียกว่า “ปากนกกระจอก”
และ “นกหวีด” เครื่องสำหรับกรรมการเป่า ใช้เป่าให้มีเสียงดังหวีดเมื่อหมดเวลาการแข่งขัน
ซึ่งเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ระหว่างคน นกกับสรรพสิ่งต่างๆ ตามธรรมชาติมีความเป็นไปอย่างแนบแน่น ถ้าหากปราศจากนก คงเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการถึงการดำรงอยู่ต่อไปของชีวภาค หรือโลกของสิ่งมีชีวิตใบนี้
--------------------------------------------------------------------------------
บรรณานุกรม
- https://th.wikipedia.org/wiki/สัตว์ปีก
- kaewmanggorn.blogspot.com/2013/09/blog-post_2280.html