xs
xsm
sm
md
lg

มูลนิธิเพื่อการศึกษาฯ เปิดร้านขายสินค้าเพื่อครอบครัวเด็กกำพร้าในจังหวัดชายแดนใต้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ยะลา - มูลนิธิเพื่อการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เปิดร้านขายสินค้าเพื่อครอบครัวเด็กกำพร้า พร้อมระดมทุนช่วยเหลือเด็กกำพร้าในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของสงขลา เผยมีเด็กกำพร้าในพื้นที่มากกว่า 3 หมื่นคน ที่อยู่ในความดูแลของทางมูลนิธิฯ

วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่ร้านวากัฟเพื่อเด็กกำพร้า ริมถนนสายสิโรรส ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายของชำ มีสินค้าที่จำเป็นต้องใช้ในครัวเรือนทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น ข้าวสาร น้ำตาลทราย ไข่ไก่ หัวหอม กระเทียม ไปจนถึงแป้ง สบู่ ยาสระผม และน้ำดื่ม เปิดจำหน่ายให้แก่บุคคลทั่วไป และสมาชิกผู้ถือบัตรเด็กกำพร้า ซึ่งออกให้โดยมูลนิธิเพื่อการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยมี นายอิสมาอีล สาและ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิฯ เป็นผู้ดูแล

นายอิสมาอีล สาและ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เปิดเผยว่า ร้านวากัฟแห่งนี้ เกิดขึ้นภายใต้กองทุนซากาต และการกุศลเพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้าในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นั่นคือ จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา โดยทางมูลนิธิได้ดำเนินการในการให้ความช่วยเหลือเด็กกำพร้าในพื้นที่มาตลอดระยะเวลา 12 ปี ซึ่งที่ผ่านมาจะพบเห็นว่า ครอบครัวของเด็กกำพร้าจะซื้อสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น ซื้อสินค้าที่ใช้ในชีวิตแต่ละวันในราคาที่สูงมาก
 

 
ทางมูลนิธิฯ จึงได้เล็งเห็นว่า การเปิดร้านค้า และจำหน่ายสินค้าในราคาต้นทุนให้แก่ครอบครัวของเด็กกำพร้าก็จะสามารถช่วยเหลือได้อีกทางหนึ่ง โดยเด็กกำพร้า หรือครอบครัวที่จะมาซื้อของที่นี่จะมีบัตรที่ระบุว่า เป็นครอบครัวเด็กกำพร้าที่ทางมูลนิธิฯ ได้ออกให้ และจะสามารถซื้อสินค้าในราคาต้นทุน ไม่หวังผลกำไร เช่น หากจะซื้อข้าวสาร ถ้าหากซื้อร้านทั่วไปอาจจะมีราคาประมาณ 110 บาท แต่ถ้ามาซื้อที่ร้านวากัฟ ก็จะซื้อได้ในราคาต้นทุน คือ 77 บาท ซึ่งช่วยให้ครอบครัวได้ประหยัดรายจ่ายตรงนี้

ส่วนบุคคลภายนอกที่มาซื้อสินค้าทุกอย่างก็จะขายในราคาขายปลีก ผลกำไรที่ได้มาก็จะมีส่วนช่วยเหลือเป็นทุนให้แก่เด็กกำพร้า เพราะทางร้านจะหักรายได้จากการขายเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนที่จะดำเนินการในร้าน และส่วนที่จะไปซื้อสินค้ามาขายต่อ และอีกส่วนคือ แบ่งไว้สะสมเพื่อนำไปเป็นทุนให้แก่ครอบครัวเด็กกำพร้าในพื้นที่ ซึ่งอยู่ในความดูแลของมูลนิธิเพื่อการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ กว่า 2,000 คน

อีกทั้งครอบครัวเด็กกำพร้าที่กระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่อีกกว่า 300 ครอบครัว ที่จะต้องช่วยเหลือ จึงมีการคิดจัดตั้งร้านค้าวากัฟแห่งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเด็กกำพร้า และระดมทุนเพื่อช่วยเหลือในกิจกรรมสาธารณประโยชน์เพื่อเด็กกำพร้าต่อไป
 

 
นายอิสมาอีล สาแล กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนในปีนี้ ทางมูลนิธิเพื่อการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ได้ตั้งเป้าหมายที่จะแจกจ่ายเสื้อผ้าชุดรายอ ให้แก่เด็กกำพร้าในพื้นที่ จำนวนทั้งสิ้น 1,000 ชุด โดยงบประมาณบางส่วนก็ได้มาจากการบริจาคของผู้มีจิตศรัทธาอยากจะทำบุญช่วยเหลือเด็กกำพร้า ก็ได้บริจาคเงินมาช่วยเป็นงบประมาณในการซื้อผ้า และจ้างแรงงานในการตัดเย็บ โดยแรงงานที่ตัดเย็บก็เป็นครอบครัวของเด็กกำพร้าในพื้นที่ เพื่อที่บุคคลเหล่านี้ก็จะมีรายได้ช่วยเหลือครอบครัว ซึ่งเป็นการกระจายรายได้อย่างทั่วถึงในการช่วยเหลือเด็กกำพร้า

ส่วนชุดรายอนั้น เด็กๆ ทั่วไปทางครอบครัวที่มีอันจะกินก็จะจัดชุดเสื้อผ้าใหม่ๆ ไว้ให้ใส่หลังสิ้นเดือนถือศีลอด หรือเรียกว่าเทศกาลรายออีดิ้ลฟิตรี มุสลิมทุกคนจะร่วมเฉลิมฉลอง และใส่เสื้อผ้าใหม่ในวันดังกล่าว ส่วนเด็กกำพร้าบางคนก็มีฐานะที่ไม่ดี จึงไม่มีโอกาสได้ใส่เสื้อผ้าใหม่ๆ ทางมูลนิธิฯ จึงได้ให้ผู้นำชุมชนในพื้นที่ทำการสำรวจ และรับรองว่า เด็กคนดังกล่าว ครอบครัวดังกล่าวเป็นเด็กกำพร้า และจะดำเนินการแจกจ่ายชุดรายอที่ทางมูลนิธิฯ จัดขึ้นเพื่อให้เด็กกำพร้าเหล่านั้น

โดยขณะนี้มีชุดเด็กกำพร้าที่ดำเนินการตัดเย็บแล้วเสร็จประมาณ 500 กว่าชุด ก็เหลืออีกกว่าครึ่งตามที่ได้ตั้งเป้าไว้ที่ยังไม่มีงบประมาณในการดำเนินการ ตนเองก็อยากจะฝากบอกผู้ที่มีจิตศรัทธาที่อยากจะช่วยเหลือ หรือมอบโอกาสที่ดีให้แก่เด็กกำพร้าในพื้นที่ สามารถที่จะติดต่อประสานมายังมูลนิธิเพื่อการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ หรือโทรศัพท์มาที่ตนเอง 08-1748-7113 / 08-4749-3369 หรือโอนเงินผ่านบัญชี ธนาคารกรุงไทย สาขายะลา เลขที่บัญชี 909-059460-4 และที่ธนาคารอิสลาม สาขายะลา เลขที่บัญชี 548-1-42406-8 โดยเงินทั้งหมดถือเป็นซากาตในการนำไปช่วยเหลือเด็กกำพร้าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
 

 
นายอิสมาอีล สาและ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในระยะ 12 ปีทีผ่านมา ตั้งแต่ปี 2557 มีเด็กกำพร้าจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เกือบ 1 หมื่นคน แต่ความจริงแล้ว คงมีมากกว่านั้น เพราะว่าเด็กกำพร้าปกติ จากปัญหาทางสังคมก็มีมากกว่า 3 หมื่นคนอยู่แล้ว เมื่อรวมกับเด็กกำพร้าที่มาจากสถานการณ์ความไม่สงบอีกเกือบ 1 หมื่นคน ก็รวมๆ แล้วจะมีเด็กกำพร้าในพื้นที่กว่า 4 หมื่นคน

นอกจากนี้ ก็ยังมีเด็กยากไร้ที่สถานะทางครอบครัวยากจน ซึ่งปัญหาเด็กเหล่านี้เราเองจะต้องมาคิดกันว่าจะให้ความช่วยเหลือกันอย่างไร นอกจากเด็กกำพร้าเหล่านี้แล้ว ทางมูลนิธิฯ ยังดูแลกลุ่มเด็กกำพร้าอีก 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่เด็กถูกอุ้มหาย ซึ่งก็ให้ความดูแลในครอบครัวเด็กเหล่านี้อยู่ประมาณ 20 กว่าครอบครัว กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มเด็กที่ผู้เป็นพ่ออยู่ในเรือนจำ กลุ่มนี้เด็กค่อนข้างจะมีปัญหาทางสังคมมาก และกลุ่มสุดท้าย คือ กลุ่มเด็กที่ผู้เป็นพ่อไม่สามารถจะอยู่ในพื้นที่ได้ ซึ่งมีจำนวนค่อนข้างสูง โดยทั้งหมดที่กล่าวมานั้นทางมูลนิธิเพื่อการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ก็พยายามที่จะเข้าไปให้การดูแลอย่างทั่วถึงด้วยเช่นกัน
 


 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น