ระนอง - รองนายกฯ ลงพื้นที่จังหวัดระนอง ติดตาม และแก้ไขปัญหาเร่งด่วนโดยใช้กลไก “ประชารัฐ“” ขับเคลื่อนงานภาครัฐแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่
วันนี้ (2 มิ.ย.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้ลงพื้นที่เกาะสินไห หมู่ที่ 4 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง เพื่อกำกับ และติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค เขตตรวจราชการที่ 7 ตามโครงการที่ได้รับอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นของรองนายกรัฐมนตรี ตามโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กชุมชนบ้านเกาะสินไห-อ่าวใหญ่ (จุดที่ 2) พร้อมตรวจเยี่ยมโครงการ และพบปะประชาชนที่บ้านเกาะสินไห
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางพร้อมคณะลงพื้นที่วัดหาดส้มแป้น หมู่ที่ 3 ตำบลหาดส้มแป้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง รับฟังรายงานสรุปโครงการที่ได้รับอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็นของรองนายกรัฐมนตรี โครงการก่อสร้างฝายคลองหาดส้มแป้น และติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างฝายคลองหาดส้มแป้น โดยมีผู้อำนวยการโครงการชลประทานระนอง กล่าวบรรยายสรุปโครงการ พร้อมตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างฝายคลองหาดส้มแป้น และพบปะประชาชนผู้ใช้น้ำในพื้นที่หมู่ที่ 3 บ้านหาดส้มแป้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง
ต่อมา ในช่วงบ่าย พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี และคณะได้ประชุมพร้อมมอบนโยบาย และมอบแนวทางการปฏิบัติราชการโดยมุ่งเน้นใช้กลไก “ประชารัฐ” ขับเคลื่อนงานภาครัฐเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินการแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ โดยมี นายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมด้วย นายณรงค์ พลเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง หัวหน้าส่วนราชการทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังนโยบายในครั้งนี้ ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดระนอง
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อติดตามปัญหา อุปสรรค การปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดระนอง ใน 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ การดำเนินการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล การติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว การดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรม ตลอดจนปัญหาด้านการท่องเที่ยวทางทะเลบนพื้นฐานความเข้มแข็งของภาคเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน เช่น การบริหารจัดการขยะ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (2 มิ.ย.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้ลงพื้นที่เกาะสินไห หมู่ที่ 4 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง เพื่อกำกับ และติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค เขตตรวจราชการที่ 7 ตามโครงการที่ได้รับอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นของรองนายกรัฐมนตรี ตามโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กชุมชนบ้านเกาะสินไห-อ่าวใหญ่ (จุดที่ 2) พร้อมตรวจเยี่ยมโครงการ และพบปะประชาชนที่บ้านเกาะสินไห
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางพร้อมคณะลงพื้นที่วัดหาดส้มแป้น หมู่ที่ 3 ตำบลหาดส้มแป้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง รับฟังรายงานสรุปโครงการที่ได้รับอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็นของรองนายกรัฐมนตรี โครงการก่อสร้างฝายคลองหาดส้มแป้น และติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างฝายคลองหาดส้มแป้น โดยมีผู้อำนวยการโครงการชลประทานระนอง กล่าวบรรยายสรุปโครงการ พร้อมตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างฝายคลองหาดส้มแป้น และพบปะประชาชนผู้ใช้น้ำในพื้นที่หมู่ที่ 3 บ้านหาดส้มแป้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง
ต่อมา ในช่วงบ่าย พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี และคณะได้ประชุมพร้อมมอบนโยบาย และมอบแนวทางการปฏิบัติราชการโดยมุ่งเน้นใช้กลไก “ประชารัฐ” ขับเคลื่อนงานภาครัฐเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินการแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ โดยมี นายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมด้วย นายณรงค์ พลเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง หัวหน้าส่วนราชการทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังนโยบายในครั้งนี้ ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดระนอง
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อติดตามปัญหา อุปสรรค การปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดระนอง ใน 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ การดำเนินการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล การติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว การดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรม ตลอดจนปัญหาด้านการท่องเที่ยวทางทะเลบนพื้นฐานความเข้มแข็งของภาคเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน เช่น การบริหารจัดการขยะ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
