xs
xsm
sm
md
lg

ธปท.สรุป ศก.ไตรมาสแรกปี 59 ภาพรวมทรงตัว-คาดภัยแล้งจ่อคลี่คลายแต่ห่วงความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ สรุปภาพรวมภาวะเศรษฐกิจไตรมาสแรกปี 2559 ทรงตัว พบภาคการท่องเที่ยวยังขยายตัวดี เช่นเดียวกับการใช้จ่ายภาครัฐ แต่การบริโภคเอกชนชะลอต่อ ขณะที่ภาคเกษตรกรรมโดนผลกระทบภัยแล้ง ส่วนแนวโน้มไตรมาสถัดไปคาดสถานการณ์ภัยแล้งจะเริ่มคลี่คลาย แต่ห่วงความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับต่ำ

นายสิงห์ชัย บุณยโยธิน ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานภาคเหนือ ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยสรุปสภาพรวมภาวะเศรษฐกิจภาคเหนือในช่วงไตรมาสแรกของปี 2559 ว่า เศรษฐกิจและการเงินยังคงตัวจากไตรมาสก่อน โดยภาคเศรษฐกิจที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากการใช้จ่ายภาครัฐร้อยละ 12.5 จากการเร่งเบิกจ่ายจากมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบลและโครงการลงทุนตามแผนงานในงบประมาณปกติจากการก่อสร้างและซ่อมแซมถนนของกรมทางหลวง อาคารของสถาบันการศึกษาและโรงพยาบาลที่มีความคืบหน้าอย่างชัดเจน รวมถึงการโอนเงินอุดหนุนค่าก่อสร้างให้กับท้องถิ่นเพิ่มขึ้น

ขณะที่ภาคท่องเที่ยว มีการขยายตัวดี สะท้อนจากจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากโรงแรมและภัตตาคาร อัตราการเข้าพักของโรงแรมและราคาห้องพักเฉลี่ย ส่วนสำคัญนั้นจะมาจากนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาในช่วงเทศกาลตรุษจีน นอกจากนี้ พบว่านักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกาและยุโรปเริ่มทยอยกลับเข้ามาเที่ยวเพิ่มมากขึ้น โดยในส่วนของคนไทยพบว่ามีการเดินทางมาประชุมสัมมนากันมากด้วยในช่วงไตรมาสแรก

ส่วนภาคการส่งออกของภาคเหนือนั้น ในไตรมาสแรกมีการส่งออกลดลงไปเพียงเล็กน้อยประมาณร้อยละ 0.2 ปัจจัยสำคัญมาจากการส่งออกสินค้าประเภทชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปญี่ปุ่น สิงคโปร์ และฮ่องกง ลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเศรษฐกิจในแระเทศดังกล่าวชะลอตัวลง รวมถึงความสามารถในการแข่งขันมีข้อจำกัดในสินค้าบางประเภท แต่พบว่าการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคไปยังประเทศพม่า และลาว กลับมีการขยายตัวที่ดีเพิ่มขึ้น

สำหรับการลงทุนของภาคเอกชนในไตรมาสแรกปี 2559 นั้น ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำกว่าร้อยละ 3.9 จากภาวะซบเซาในภาคการก่อสร้างและภาคอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ ในภาคเกษตรกรรมพบว่ารายได้เกษตรกรยังคงอยู่ในระดับต่ำถึงแม้จะปรับตัวดีขึ้นมาบ้างในไตรมาสที่ผ่านมา แต่ก็ลดลงถึงร้อยละ 11.1 เนื่องจากในปีนี้ภาคเหนือเกิดภาวะความแห้งแล้งที่รุนแรงมากทำให้พื้นที่การเพาะปลูกลดลง ผลผลิตทางทางการเกษตรหดตัวลงร้อยละ 4.6

โดยเฉพาะพืชสำคัญเช่น อ้อย ข้าวนาปรัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ดัชนีราคาสินค้าเกษตรลดลงร้อยละ 6.8 จากราคาอ้อย มันสำปะหลังและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากคุณภาพของผลผลิตและความต้องการในต่างประเทศที่ลดลง

ด้านแนวโน้มของเศรษฐกิจภาคเหนือในไตรมาสต่อไปนั้น ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานภาคเหนือ ธนาคารแห่งประเทศไทย คาดว่าปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรมน่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่ผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งนั้นยังมีความน่ากังวลว่าเกษตรกรจะหาเงินรายได้มาจากแหล่งใด ส่วนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักธุรกิจนั้นยังคงอยู่ในระดับต่ำจากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจ รายได้ตกต่ำและภาระหนี้เพิ่มสูงขึ้น




กำลังโหลดความคิดเห็น