พ่อค้าแม่ค้ากว้านซื้อเมล็ดมะม่วงหิมพานต์บนเกาะสุกร แหล่งให้ผลผลิตใหญ่สุดในตรัง

 
ตรัง - พ่อค้าแม่ค้าบุกกว้านซื้อเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ พืชผลพื้นบ้านชื่อดังของภาคใต้บนเกาะสุกร ซึ่งแหล่งที่ใหญ่ที่สุดของ จ.ตรัง ด้าน อบต.เร่งหาทางส่งเสริมให้ประชาชนปลูกเพิ่มขึ้น เพราะสร้างรายได้ให้แต่ละปีสูง แถมมีอายุยาวนานถึง 30 ปี

วันนี้ (30 พ.ค.) นางราตรี จิตรหลัง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง กล่าวว่า เนื่องจากบนเกาะสุกร หรือเกาะหมู เป็นพื้นที่ราบสลับเนินเขา และมีดินลักษณะร่วนปนทราย ทำให้เป็นแหล่งมะม่วงหิมพานต์ หรือยาร่วง หรือยาโห้ย พืชผลพื้นบ้านชื่อดังของภาคใต้ที่ใหญ่ที่สุดของ จ.ตรัง เฉพาะในบริเวณหมู่ที่ 3 บ้านทุ่ง มีต้นมะม่วงหิมพานต์ขึ้นอยู่ในพื้นที่สาธารณประโยชน์ถึง 100 ไร่ รวมทั้งยังขึ้นอยู่ตามพื้นที่อื่นๆ บนเกาะอีกรวมประมาณ 500 ไร่ จนสามารถสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่
 

 
ทั้งนี้ ปกติในช่วงฤดูฝน ชาวบ้านจะเก็บส่วนยอดส่งขายเพื่อทำเป็นผักหน่อ (ผักจิ้ม) คู่กับขนมจีน หรือข้าวแกง ส่วนในช่วงหน้าร้อน ผลสุกที่มีสีเหลือง หรือสีแดงจะนิยมนำไปรับประทานแบบสดๆ โดยขายในราคา 12 ผล 10 บาท หรือนำไปปรุงเป็นอาหารประเภทยำ ที่มีรสชาติทั้งอร่อย และแปลก เพราะหารับประทานได้เฉพาะที่เกาะสุกรเพียงแห่งเดียวเท่านั้น รวมทั้งเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งให้ผลผลิตปีละนับพันๆ กิโลกรัม และสร้างมูลค่าให้สูงมาก เนื่องจากนำไปปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายชนิด เช่น คั่ว (อบแห้ง) แกงเลียง แกงพุงปลา

สำหรับเมล็ดของมะม่วงหิมพานต์นั้นจะมีพ่อค้าแม่ค้าจากบนฝั่งข้ามมาซื้อถึงเกาะสุกร ในราคาขายส่งกิโลกรัมละ 30-35 บาท ประเภทมีเท่าไหร่ก็กว้านซื้อเหมาไปหมด เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคมีสูง ประกอบกับปีนี้เจอสภาพอากาศที่ร้อน และแล้งจัด จึงทำให้ส่งผลกระทบต่อการติดผล ซึ่งขณะนี้ทาง อบต.กำลังสนับสนุนให้ชาวบ้านปลูกมะม่วงหิมพานต์เพิ่มขึ้นทั่วทั้งเกาะ เนื่องจากเป็นพืชผลที่ดูแลรักษาง่ายแบบธรรมชาติ และมีอายุยาวนานถึง 30 ปี ที่สำคัญก็คือ มีตลาดรับซื้อผลผลิตไม่อั้นโดยเฉพาะในส่วนของเมล็ด