นครศรีธรรมราช - ซื้อน้ำ 5 พันล้านยังไม่จบ สภา ทน.นครศรีฯ เปิดพิจารณาอีกครั้ง 27 พ.ค. ประชาชนฮึ่มจ่อบุกอีก ด้านผู้บริหารเทศบาลเมืองปากพูน ยืนยันสามารถผลิตประปาใช้เอง เทศบาลนครศรีฯ ไม่สนนับรวมให้เป็นพื้นที่ต้องซื้อน้ำจากเอกชน แพทย์-พยาบาลจ่อเปิดยุทธการ “ปล่อยตัวประกันชุดขาว” จี้ให้การประปาภูมิภาคดูแลระบบน้ำของโรงพยาบาล
วันนี้ (20 พ.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช ความคืบหน้าในการติดตามการแก้ไขสถานการณ์ขาดแคลนน้ำสำรับอุปโภคบริโภคที่มีปัญหาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นความล้มเหลวในระบบการผลิตน้ำของสำนักการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ทำให้ความเดือดร้อนขยายตัวเป็นวงกว้าง ทั้งโรงพยาบาลมหาราช ที่ต้องใช้น้ำสำหรับคนไข้หลายพันคนต่อวัน โรงเรียนต่างๆ และผู้ใช้น้ำครัวเรือนอีกนับหมื่นครัวเรือน ขณะที่ชาวบ้านได้แสดงออกคัดค้านการจัดทำโครงการของนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ที่เตรียมเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาผูกขาดขายน้ำให้สำนักการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เป็นเวลา 30 ปี มูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการนำเข้าครั้งที่ 2 หลังจากที่ญัตตินี้เคยถูกตีตกไปจากสภาเมื่อปี 2558 ไปแล้ว
แม้ว่าเมื่อวันที่ 18 พ.ค.59 การประชุมสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ที่จะต้องมีการพิจารณาญัตติซื้อน้ำจากเอกชนไม่สามารรถดำเนินการต่อไปได้ เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากบุกเข้าไปประท้วงที่หน้าห้องประชุมสภา จน นายเคารพ อิสระไพบูลย์ ประธานสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ต้องเลื่อนการประชุมออกไปก่อน โดยถือว่าญัตติในการประชุมนั้นยังไม่ตกไป ล่าสุดนั้น นายเคารพ อิสระไพบูลย์ ประธานสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้นัดหมายการประชุมขึ้นใหม่อีกครั้งในวันที่ 27 พ.ค.2559 เวลา 10.00 น. ทำให้หน่วยงานด้านความมั่นคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดอีกครั้ง และคาดการณ์ว่า จะมีประชาชนเข้ามาร่วมขับไล่ผู้บริหารมากขึ้นกว่าเดิม
ขณะที่ นายเชาว์นวัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ได้กล่าวถึงการขาดแคลนน้ำของประชาชนต่อหน้าสื่อมวลชนจำนวนมากช่วงบ่ายของวานนี้ (19 พ.ค.) โดยสรุปในทำนองว่า แท้จริงแล้วพื้นที่เทศบาลมีน้ำแต่มีน้อยลง สำหรับประชาชนที่ไม่มีน้ำใช้นั้นเป็นเพราะว่าเปิดน้ำไม่ตรงเวลา โดยคลิปในการกล่าวเช่นนี้ได้ถูกแชร์ออกไปอย่างกว้างขวาง ขณะเดียวกัน ระบุว่า น้ำในเขตเทศบาลมีเพียงพอ แต่สาเหตุที่ต้องจัดซื้อน้ำจากเอกชนเพื่อให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียง 4-5 แห่ง
ในเรื่องเดียวกัน นายฤทธิชัย ศรีเมือง รองนายกเทศมนตรีเมืองปากพูน ซึ่งเป็นพื้นที่ปรากฏในรายงานการศึกษา ได้ระบุเป็นพื้นที่ต้องใช้น้ำในการจัดซื้อจากเอกชนของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช พบว่า เป็นพื้นที่ที่มีระบบผลิตน้ำประปาเป็นของตัวเอง มีระบบน้ำใต้ดินที่ถูกนำมาผลิตประปา ซึ่งเป็นกิจการของเทศบาลเมืองปากพูน สามารถหล่อเลี้ยงพื้นที่ได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยมีแหล่งน้ำใต้ดินเป็นแหล่งน้ำหลัก และแหล่งน้ำสำรองหน้าดินที่ได้รับความร่วมมือจากทหารช่างกองทัพภาคที่ 4 ในการขุดสามารถกักเก็บน้ำสำรองได้ถึง 3 แสน ลบ.ม. และยังสามารถส่งน้ำไปช่วยเหลือพื้นที่โดยรอบได้อย่างไม่ขาดแคลน
ขณะที่ระบบการผลิตประปาของกองการประปาเทศบาลเมืองปากพูน ยังเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ โดยมีรถบรรทุกน้ำของกองทัพภาคที่ 4 และหน่วยงานอื่นๆ เข้ามาขอรับการสนับสนุนเพื่อส่งต่อไปยังพื้นที่ขาดแคลน โดยเฉพาะในระยะนี้คือ การช่วยเหลือชุมชนเมืองนครศรีธรรมราช ที่ใช้ประปาจากสำนักการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ที่กำลังล้มเหลว และที่สำคัญ รถบรรทุกน้ำของเทศบาลเมืองปากพูน ยังต้องบรรทุกน้ำเข้ามาส่งให้ระบบการใช้น้ำของสำนักงานเทศบาลนครนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะห้องสุขาของผู้บริหาร ข้าราชการ และผู้มาติดต่อราชการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งตอกย้ำถึงความพร้อมในการจัดการตัวเองของเทศบาลเมืองปากพูน
ขณะเดียวกัน การลงทุนซื้อน้ำจากเอกชนของผู้บริหารที่อ้างถึงการจำหน่ายให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายนอก เสมือนเป็นนายหน้าในการจำหน่ายน้ำ เป็นการสุ่มเสี่ยงที่จะขัดต่อพระราชบัญญัติเทศบาล 2493 ซึ่งเทศบาลจะไม่มีอำนาจหน้าที่ในการจัดการนอกเขต เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายนอกมีอำนาจเต็มในการจัดการพื้นที่ของตัวเองตามกฎหมาย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทศบาลนครนครศรีธรรมราช
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีการเปิดยุทธการ “ปล่อยตัวประกันชุดขาว” ซึ่งมีกระแสข่าวระบุว่า แพทย์ และพยาบาลจะมีการรวมตัวกันเดินทางไปยังเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เพื่อกดดันให้ผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ยอมปล่อยให้การประปาภูมิภาค เข้ามารับผิดชอบดูแลระบบน้ำของโรงพยาบาล หลังจากเกิดวิกฤตอย่างหนักในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
