ชุมพร - ตำรวจนำศพนักอนุรักษ์ป่าต้นน้ำเขาตะโก จ.ชุมพร ที่ถูก 2 คนร้ายสวมชุดลายพรางรุมยิงถล่มด้วยปืนลูกซองยาว ส่งผ่าพิสูจน์ รพ.นิติเวชอีกครั้ง หลังตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่บ้านได้ 6 วัน เมียผวาวอนเร่งจับคนร้ายให้ได้
จากกรณี นายพะเยาว์ ปานโรจน์ อายุ 52 ปี หนุ่มนักอนุรักษ์ป่าต้นน้ำเขาตะโก ถูก 2 คนร้ายใส่ชุดลายพรางซุ่มยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาว 2 กระบอก เสียชีวิตในสวนทุเรียนห่างจากบ้านพักประมาณ 1 กิโลเมตร บริเวณหมู่ 5 ตำบลตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 8 พ.ค.59 ที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้ตายนำเรื่องการบุกรุกตัดไม้ และยึดครองที่ดินของกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่ง จนมาถูกลอบยิงเสียชีวิตดังกล่าวตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น และขณะนี้ศพยังตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 5 ตำบลตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (13 พ.ค.) ที่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 5 ตำบลตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดงานศพของ นายพะเยาว์ ปานโรจน์ หนุ่มใหญ่นักอนุรักษ์ป่าต้นน้ำเขาตะโก เป็นวันที่ 6 แล้ว โดยมี ร.ต.ท.กิตติภู ลือลั่น รอง สวป.สภ.ทุ่งตะโก พร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลทุ่งตะโก ได้ไปขออนุญาตจากภรรยา และญาติๆของผู้ตาย นำร่างอันไร้วิญญาณของผู้ตายส่งไปชันสูตรเพิ่มเติมที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังคดียังคืบหน้าไปไม่มากนัก ท่ามกลางภรรยา และญาติๆ ร่ำไห้เกรงวิญญาณผู้ตายจะไม่สงบ
น.ส.ภัทรมน กรรมริน อายุ 33 ปี ภรรยาผู้ตายเปิดเผย ว่า ศพของ นายพะเยาว์ ได้กำหนดจะทำการฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ค.59 เวลา 13.00 น.นี้ แต่เมื่อวานที่ผ่านมา ตำรวจเจ้าของคดีได้ติดต่อเพื่อขอนำศพไปชันสูตรเพิ่มเติมอีกครั้ง ในใจลึกๆ ก็เกรงว่าวิญญาณสามีจะไม่สงบ แต่ก็ต้องยอมเพื่อว่าจะได้มีหลักฐานเพิ่มเติมที่ทำให้ตำรวจจับคนร้ายได้ ในส่วนความคืบหน้าของคดีทางตำรวจได้แจ้งให้ทราบว่า มีความคืบหน้าบ้างแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะเกรงจะเสียรูปคดี
ขณะนี้ตนเองมีความกังวนใจในเรื่องความปลอดภัย เพราะหลังจากสามีถูกยิงตายเหลือแต่ตน และครอบครัวซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ไหนจะต้องไปดูแลสวนทุเรียนที่กำลังออกดอก ตนกลัวว่าจะถูกสั่งเก็บปิดปากตามสามีไปด้วยอีกคน เพราะตนอยู่ในเหตุการณ์ขณะสามีถูกยิงตาย จึงขอวิงวอนตำรวจให้เร่งคลี่คลายคดี และจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ไม่เช่นนั้นตน และครอบครัวคงจะอยู่อย่างหวาดผวา และขณะนี้หลังสามีถูกยิงเสียชีวิตทำให้ให้ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าต้นน้ำภูเขาตะโก เสียขวัญเป็นอย่างมาก และต่อไปคงไม่มีใครกล้าออกมาต้านกลุ่มบุคคลดังกล่าวอย่างแน่นอน
ด้าน พ.ต.อ.ชูเกียรติ อิ่มใจธรรม ผกก.สภ.ทุ่งตะโก เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 10 กว่าปาก และเมื่อ 2 วันก่อน ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐหน่วยหนึ่งเพื่อขอให้นำอาวุธปืนมาตรวจสอบ และขณะนี้คดีได้คืบหน้าไปพอสมควร และจะหาหลักฐานเพื่อเชื่อมโยงคดีเพิ่มเติมแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเกรงว่าจะเสียรูปคดี ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ประสานทางญาติผู้ตายเพื่อขอศพส่งไปชันสูตรเพิ่มเติมที่นิติเวช โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีอีกครั้ง และคาดว่าจะสามารถออกหมายจับคนร้ายได้ในเร็วๆ นี้
จากกรณี นายพะเยาว์ ปานโรจน์ อายุ 52 ปี หนุ่มนักอนุรักษ์ป่าต้นน้ำเขาตะโก ถูก 2 คนร้ายใส่ชุดลายพรางซุ่มยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาว 2 กระบอก เสียชีวิตในสวนทุเรียนห่างจากบ้านพักประมาณ 1 กิโลเมตร บริเวณหมู่ 5 ตำบลตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 8 พ.ค.59 ที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้ตายนำเรื่องการบุกรุกตัดไม้ และยึดครองที่ดินของกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่ง จนมาถูกลอบยิงเสียชีวิตดังกล่าวตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น และขณะนี้ศพยังตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 5 ตำบลตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (13 พ.ค.) ที่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 5 ตำบลตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดงานศพของ นายพะเยาว์ ปานโรจน์ หนุ่มใหญ่นักอนุรักษ์ป่าต้นน้ำเขาตะโก เป็นวันที่ 6 แล้ว โดยมี ร.ต.ท.กิตติภู ลือลั่น รอง สวป.สภ.ทุ่งตะโก พร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลทุ่งตะโก ได้ไปขออนุญาตจากภรรยา และญาติๆของผู้ตาย นำร่างอันไร้วิญญาณของผู้ตายส่งไปชันสูตรเพิ่มเติมที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังคดียังคืบหน้าไปไม่มากนัก ท่ามกลางภรรยา และญาติๆ ร่ำไห้เกรงวิญญาณผู้ตายจะไม่สงบ
น.ส.ภัทรมน กรรมริน อายุ 33 ปี ภรรยาผู้ตายเปิดเผย ว่า ศพของ นายพะเยาว์ ได้กำหนดจะทำการฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ค.59 เวลา 13.00 น.นี้ แต่เมื่อวานที่ผ่านมา ตำรวจเจ้าของคดีได้ติดต่อเพื่อขอนำศพไปชันสูตรเพิ่มเติมอีกครั้ง ในใจลึกๆ ก็เกรงว่าวิญญาณสามีจะไม่สงบ แต่ก็ต้องยอมเพื่อว่าจะได้มีหลักฐานเพิ่มเติมที่ทำให้ตำรวจจับคนร้ายได้ ในส่วนความคืบหน้าของคดีทางตำรวจได้แจ้งให้ทราบว่า มีความคืบหน้าบ้างแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะเกรงจะเสียรูปคดี
ขณะนี้ตนเองมีความกังวนใจในเรื่องความปลอดภัย เพราะหลังจากสามีถูกยิงตายเหลือแต่ตน และครอบครัวซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ไหนจะต้องไปดูแลสวนทุเรียนที่กำลังออกดอก ตนกลัวว่าจะถูกสั่งเก็บปิดปากตามสามีไปด้วยอีกคน เพราะตนอยู่ในเหตุการณ์ขณะสามีถูกยิงตาย จึงขอวิงวอนตำรวจให้เร่งคลี่คลายคดี และจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ไม่เช่นนั้นตน และครอบครัวคงจะอยู่อย่างหวาดผวา และขณะนี้หลังสามีถูกยิงเสียชีวิตทำให้ให้ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าต้นน้ำภูเขาตะโก เสียขวัญเป็นอย่างมาก และต่อไปคงไม่มีใครกล้าออกมาต้านกลุ่มบุคคลดังกล่าวอย่างแน่นอน
ด้าน พ.ต.อ.ชูเกียรติ อิ่มใจธรรม ผกก.สภ.ทุ่งตะโก เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 10 กว่าปาก และเมื่อ 2 วันก่อน ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐหน่วยหนึ่งเพื่อขอให้นำอาวุธปืนมาตรวจสอบ และขณะนี้คดีได้คืบหน้าไปพอสมควร และจะหาหลักฐานเพื่อเชื่อมโยงคดีเพิ่มเติมแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเกรงว่าจะเสียรูปคดี ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ประสานทางญาติผู้ตายเพื่อขอศพส่งไปชันสูตรเพิ่มเติมที่นิติเวช โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีอีกครั้ง และคาดว่าจะสามารถออกหมายจับคนร้ายได้ในเร็วๆ นี้
