ชุมพร - 2 มือปืนใช้อาวุธปืนลูกซองยาวรุมยิงหนุ่มใหญ่ชาวสวนทุเรียนดับ เผยก่อนตายได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนกรณีมีกลุ่มอิทธิพลบุกรุกรักษ์ป่าต้นน้ำ
เมื่อเวลา 08.45 น. วันนี้ (8 พ.ค.) พ.ต.ท.นรินทร์ พุ่มสวัสดิ์ สารวัตรสอบสวน สภ.ทุ่งตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร รับแจ้งจากโรงพยาบาลหลังสวน ว่า มีคนถูกยิงมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชูเกียรติ อิ่มใจธรรม ผกก.สภ.ทุ่งตะโก ชุดสืบสวน และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งลงพื้นที่ตรวจสอบ
ที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลหลังสวน อ.หลังสวน พบร่างของผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายพะเยาว์ ปานโรจน์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 5 ตำบลตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาวเข้าที่ขมับขวา 2 รู อกซ้าย 1 รู ชายโครงซ้าย 1 รู และ หัวเข่าขวา 2 รู เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่สอบสวน น.ส.ภัทรมน กรรมริน อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/24 ถ.ประชาอุทิศ ต.ขันเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งเป็นภรรยาผู้ตายทราบว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนและสามีออกไปรดน้ำสวนทุเรียนที่เชิงเขาตะโก ห่างจากบ้านประมาณ 1 กม. ระหว่างที่ตน และสามีกำลังเดินรดน้ำต้นทุเรียนโดยสามีเดินไปรดน้ำทุเรียนอีกแปลง ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ตนจึงตะโกนถามสามีก็ไม่มีเสียงตอบ แต่กลับได้ยิงเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด และได้เห็นชายวัยกลางคน จำนวน 2 คน ใส่ชุดลายพรางทั้ง 2 คน สะพายอาวุธปืนลูกซองยาวคนละกระบอกเดินหายเข้าไปในป่าอย่างเร่งรีบ เมื่อตนวิ่งไปดูก็พบว่า นายพะเยาว์ สามีถูกยิงนอนหายใจรวยรินจึงนำส่งโรงพยาบาลหลังสวน และแจ้งตำรวจดังกล่าว
น.ส.ภัทรมน ยังกล่าวต่อไปอีกว่า สาเหตุที่ทำให้สามีถูกยิงน่าจะมาจากเรื่องที่ นายพะเยาว์ เคยนำสื่อมวลชนขึ้นไปทำข่าวกรณีมีกลุ่มบุคคลบุกรุกป่าต้นน้ำบนภูเขาตะโก จนเรื่องบานปลาย มีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานลงมาตรวจสอบ แต่เรื่องกลับกลายเป็นว่า นายพะเยาว์ ถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน เนื่องจาก นายพะเยาว์ มีที่สวนทุเรียนติดกับจุดที่มีการบุกรุก ทั้งๆ ที่เป็นที่ดินมีการทำประโยชน์มาตั้งตั้งแต่รุ่นพ่อมาเกือบ 30 ปี และเรื่องยังอยู่ในระหว่างชั้นสอบสวน และจะส่งฟ้องศาลในอีกไม่กี่วันนี้ ซึ่งหลังจากมีการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวสามีตนก็ถูกคุกคามมาตลอด
เมื่อวันที่ 25 เม.ย.59 ที่ผ่านมา มีชายใส่ชุดคล้ายชุดข้าราชการหน่วยหนึ่งมาดักซุ่มอยู่ในสวนทุเรียนของตน และชายคนดังกล่าวมีอาวุธปืนลูกซองติดตัวมาด้วย และเห็นชายคนดังกล่าวกำลังหักลำกล้องปืนเอาลูกกระสุนที่ด้านติดลำกล้องออก นายพะเยาว์ สามีจึงเข้าไปสอบถาม ชายคนดังกล่าวก็บอกว่า มาซุ่มยิงสัตว์แล้วก็รีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว สามีตนจึงได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ทุ่งตะโก เมื่อวันที่ 28 เม.ย.59 ผ่านมา และก่อนที่ นายพะเยาว์ จะถูกยิงตาย กำลังรวบรวมหลักฐานจะนำเรื่องที่มีกลุ่มบุคคลรุกป่าต้นน้ำบนภูเขาตะโก เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ใน 1- 2 วันนี้ แต่ก็มาถูกยิงเสียชีวิตเสียก่อน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนร้าย จำนวน 2 คน ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของนายพะเยาว์ มาเป็นอย่างดี และไปซุ่มรออยู่ที่จุดเกิดเหตุ เมื่อสบจังหวะคนร้ายทั้ง 2 คน ได้ใช้ปืนลูกซองยาวคนละกระบอกรุมยิงนายพะเยาว์ จนเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงยังอยู่ระหว่างการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
เมื่อเวลา 08.45 น. วันนี้ (8 พ.ค.) พ.ต.ท.นรินทร์ พุ่มสวัสดิ์ สารวัตรสอบสวน สภ.ทุ่งตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร รับแจ้งจากโรงพยาบาลหลังสวน ว่า มีคนถูกยิงมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชูเกียรติ อิ่มใจธรรม ผกก.สภ.ทุ่งตะโก ชุดสืบสวน และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งลงพื้นที่ตรวจสอบ
ที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลหลังสวน อ.หลังสวน พบร่างของผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายพะเยาว์ ปานโรจน์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 5 ตำบลตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาวเข้าที่ขมับขวา 2 รู อกซ้าย 1 รู ชายโครงซ้าย 1 รู และ หัวเข่าขวา 2 รู เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่สอบสวน น.ส.ภัทรมน กรรมริน อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/24 ถ.ประชาอุทิศ ต.ขันเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งเป็นภรรยาผู้ตายทราบว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนและสามีออกไปรดน้ำสวนทุเรียนที่เชิงเขาตะโก ห่างจากบ้านประมาณ 1 กม. ระหว่างที่ตน และสามีกำลังเดินรดน้ำต้นทุเรียนโดยสามีเดินไปรดน้ำทุเรียนอีกแปลง ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ตนจึงตะโกนถามสามีก็ไม่มีเสียงตอบ แต่กลับได้ยิงเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด และได้เห็นชายวัยกลางคน จำนวน 2 คน ใส่ชุดลายพรางทั้ง 2 คน สะพายอาวุธปืนลูกซองยาวคนละกระบอกเดินหายเข้าไปในป่าอย่างเร่งรีบ เมื่อตนวิ่งไปดูก็พบว่า นายพะเยาว์ สามีถูกยิงนอนหายใจรวยรินจึงนำส่งโรงพยาบาลหลังสวน และแจ้งตำรวจดังกล่าว
น.ส.ภัทรมน ยังกล่าวต่อไปอีกว่า สาเหตุที่ทำให้สามีถูกยิงน่าจะมาจากเรื่องที่ นายพะเยาว์ เคยนำสื่อมวลชนขึ้นไปทำข่าวกรณีมีกลุ่มบุคคลบุกรุกป่าต้นน้ำบนภูเขาตะโก จนเรื่องบานปลาย มีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานลงมาตรวจสอบ แต่เรื่องกลับกลายเป็นว่า นายพะเยาว์ ถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน เนื่องจาก นายพะเยาว์ มีที่สวนทุเรียนติดกับจุดที่มีการบุกรุก ทั้งๆ ที่เป็นที่ดินมีการทำประโยชน์มาตั้งตั้งแต่รุ่นพ่อมาเกือบ 30 ปี และเรื่องยังอยู่ในระหว่างชั้นสอบสวน และจะส่งฟ้องศาลในอีกไม่กี่วันนี้ ซึ่งหลังจากมีการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวสามีตนก็ถูกคุกคามมาตลอด
เมื่อวันที่ 25 เม.ย.59 ที่ผ่านมา มีชายใส่ชุดคล้ายชุดข้าราชการหน่วยหนึ่งมาดักซุ่มอยู่ในสวนทุเรียนของตน และชายคนดังกล่าวมีอาวุธปืนลูกซองติดตัวมาด้วย และเห็นชายคนดังกล่าวกำลังหักลำกล้องปืนเอาลูกกระสุนที่ด้านติดลำกล้องออก นายพะเยาว์ สามีจึงเข้าไปสอบถาม ชายคนดังกล่าวก็บอกว่า มาซุ่มยิงสัตว์แล้วก็รีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว สามีตนจึงได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ทุ่งตะโก เมื่อวันที่ 28 เม.ย.59 ผ่านมา และก่อนที่ นายพะเยาว์ จะถูกยิงตาย กำลังรวบรวมหลักฐานจะนำเรื่องที่มีกลุ่มบุคคลรุกป่าต้นน้ำบนภูเขาตะโก เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ใน 1- 2 วันนี้ แต่ก็มาถูกยิงเสียชีวิตเสียก่อน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนร้าย จำนวน 2 คน ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของนายพะเยาว์ มาเป็นอย่างดี และไปซุ่มรออยู่ที่จุดเกิดเหตุ เมื่อสบจังหวะคนร้ายทั้ง 2 คน ได้ใช้ปืนลูกซองยาวคนละกระบอกรุมยิงนายพะเยาว์ จนเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงยังอยู่ระหว่างการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
