ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จับไม่หมด สาวปราจีนฯ รับจ้างขนโคเคน 1.8 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 5.4 ล้านบาท จากดูไบเข้าภูเก็ต หัวใสซุกซ่อนในห่อช็อกโกแลตหิ้วมาเหมือนซื้อสินค้าตามปกติ แต่ไม่รอดสายตาช่างสังเกตของเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรท่าอากาศยาน พบพฤติกรรมน่าสงสัยคล้ายกับรายที่เคยถูกจับก่อนหน้านี้ที่สุวรรณภูมิ จึงขอตรวจสอบ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (28 เม.ย.) ที่ห้องด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นางหัทยา ทิพยะวัฒน์ นายด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต นายวิศิษฐ์ พีรพัฒนานนท์ นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ หัวหน้าชุดจับกุม นายอำนวย สาระชาติ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต นาวาเอกพงษ์จักร อุไรมาลย์ ผู้บังคับหมวดบินเฉพาะกิจทัพเรือภาคที่ 3 พ.ต.ท.นิกร ชูทอง รอง ผกก.ป.สภ.ท่าฉัตรไชย พ.ต.ท.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยว 2 กก. 5 บก.ทท. ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม น.ส.อัจฉรา วิโค อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 430/526 ม.7 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี ถือหนังสือเดินทางประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้โดยสารเดินทางมาจากเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 394 ของวันที่27 เม.ย.2559 ถึงสนามบินภูเก็ต เวลา 04.15 น.ของวันนี้ (28 เม.ย.) พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) จำนวน 100 ก้อน ห่อหุ้มด้วยกระดาษห่อช็อกโกแลต ปะปนมากับช็อกโกแลต จำนวน 2กล่อง โดยใส่ไว้ในถุงดิวตี้ฟรี น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 1,800 กรัม มูลค่าประมาณ 5.4 ล้านบาท
นางหัทยา ทิพยะวัฒน์ นายด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวถึงจับกุมครั้งนี้ ว่า ตามนโยบาย นายกุเลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร และนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะผู้อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดภูเก็ต ที่เน้นย้ำการควบคุมทางศุลกากร และปกป้องสังคมอย่างเคร่งครัดในการจับกุมการลักลอบขนยาเสพติด ได้สั่งการให้ นายจำเริญ โพธิยอด รองอธิบดี รักษาการที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและการบริหารการจัดเก็บภาษี นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 ดำเนินการวางแผนจับกุมการลักลอบยาเสพติดข้ามชาติ ซึ่งมีแนวโน้มลักลอบขนยาเสพติดให้โทษสูงขึ้น จึงให้เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต เข้มงวดเป็นพิเศษในการตรวจสัมภาระผู้โดยสารเพื่อสกัดกั้นป้องกัน และปราบปรามการลักลอบขนยาเสพติดให้โทษเข้ามาจังหวัดภูเก็ต
สำหรับผู้ต้องหาคนดังกล่าว ได้ถือของกลางผ่านเข้ามาในด่านตรวจ ซึ่งมีพฤติกรรมน่าสงสัยลักษณะคล้ายกับผู้ต้องหาที่เคยถูกจับที่สุวรรณภูมิก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ขอตรวจค้นถุงขนมที่ผู้ต้องหาถืออยู่ ปรากฏว่า จากการตรวจค้นพบว่า มีโคเคนที่ห่อด้วยกระดาษห่อช็อกโกแลตปะปนอยู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ห้องศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต
จากการสอบถาม น.ส.อัจฉรา วิโค ผู้ต้องหาให้การในเบื้องต้นว่า ตนได้รับการติดต่อจากชาวต่างชาติว่าจะฝากของมาให้แก่ นายไมเคิล ที่ภูเก็ต โดยรับฝากมาจากเมืองดูไบ ซึ่งทางคนฝากจะให้ค่าฝากของในราคา 150,000 บาท เมื่อมาถึงภูเก็ต นายไมเคิล จะติดต่อมาเอง แต่ตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่า นายไมเคิล เป็นใคร อยู่ที่ไหน และตนไม่ทราบว่าสิ่งของที่รับฝากมาเป็นยาเสพติด ตนเพิ่งทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก
หลังการจับกุมทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) ไว้ในครอบครอง และนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 ประกอบกับ พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 มาตรา 16 และมาตรา 17 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าฉัตรไชย เพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (28 เม.ย.) ที่ห้องด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นางหัทยา ทิพยะวัฒน์ นายด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต นายวิศิษฐ์ พีรพัฒนานนท์ นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ หัวหน้าชุดจับกุม นายอำนวย สาระชาติ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต นาวาเอกพงษ์จักร อุไรมาลย์ ผู้บังคับหมวดบินเฉพาะกิจทัพเรือภาคที่ 3 พ.ต.ท.นิกร ชูทอง รอง ผกก.ป.สภ.ท่าฉัตรไชย พ.ต.ท.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยว 2 กก. 5 บก.ทท. ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม น.ส.อัจฉรา วิโค อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 430/526 ม.7 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี ถือหนังสือเดินทางประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้โดยสารเดินทางมาจากเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 394 ของวันที่27 เม.ย.2559 ถึงสนามบินภูเก็ต เวลา 04.15 น.ของวันนี้ (28 เม.ย.) พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) จำนวน 100 ก้อน ห่อหุ้มด้วยกระดาษห่อช็อกโกแลต ปะปนมากับช็อกโกแลต จำนวน 2กล่อง โดยใส่ไว้ในถุงดิวตี้ฟรี น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 1,800 กรัม มูลค่าประมาณ 5.4 ล้านบาท
นางหัทยา ทิพยะวัฒน์ นายด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวถึงจับกุมครั้งนี้ ว่า ตามนโยบาย นายกุเลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร และนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะผู้อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดภูเก็ต ที่เน้นย้ำการควบคุมทางศุลกากร และปกป้องสังคมอย่างเคร่งครัดในการจับกุมการลักลอบขนยาเสพติด ได้สั่งการให้ นายจำเริญ โพธิยอด รองอธิบดี รักษาการที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและการบริหารการจัดเก็บภาษี นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 ดำเนินการวางแผนจับกุมการลักลอบยาเสพติดข้ามชาติ ซึ่งมีแนวโน้มลักลอบขนยาเสพติดให้โทษสูงขึ้น จึงให้เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต เข้มงวดเป็นพิเศษในการตรวจสัมภาระผู้โดยสารเพื่อสกัดกั้นป้องกัน และปราบปรามการลักลอบขนยาเสพติดให้โทษเข้ามาจังหวัดภูเก็ต
สำหรับผู้ต้องหาคนดังกล่าว ได้ถือของกลางผ่านเข้ามาในด่านตรวจ ซึ่งมีพฤติกรรมน่าสงสัยลักษณะคล้ายกับผู้ต้องหาที่เคยถูกจับที่สุวรรณภูมิก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ขอตรวจค้นถุงขนมที่ผู้ต้องหาถืออยู่ ปรากฏว่า จากการตรวจค้นพบว่า มีโคเคนที่ห่อด้วยกระดาษห่อช็อกโกแลตปะปนอยู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ห้องศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต
จากการสอบถาม น.ส.อัจฉรา วิโค ผู้ต้องหาให้การในเบื้องต้นว่า ตนได้รับการติดต่อจากชาวต่างชาติว่าจะฝากของมาให้แก่ นายไมเคิล ที่ภูเก็ต โดยรับฝากมาจากเมืองดูไบ ซึ่งทางคนฝากจะให้ค่าฝากของในราคา 150,000 บาท เมื่อมาถึงภูเก็ต นายไมเคิล จะติดต่อมาเอง แต่ตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่า นายไมเคิล เป็นใคร อยู่ที่ไหน และตนไม่ทราบว่าสิ่งของที่รับฝากมาเป็นยาเสพติด ตนเพิ่งทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก
หลังการจับกุมทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) ไว้ในครอบครอง และนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 ประกอบกับ พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 มาตรา 16 และมาตรา 17 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าฉัตรไชย เพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป