ศูนย์ข่าวภูเก็ต - บริษัท นิกรมารีน กรุ๊ป โพสต์ข้อความยืนยันหลังเกิดเหตุเรือถูกเพลิงไหม้เสียหาย 6 ลำ ยังเปิดให้บริการตามปกติ ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถระบุได้ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้เรือสปีดโบต ของบริษัท นิกรมารีน กรุ๊ป ซึ่งจอดเทียบท่าอยู่บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รับความเสียหายรวมทั้งสิ้น 6 ลำ โดยเสียหายทั้งหมด จำนวน 5 ลำ และเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.00 น. วันนี้ (19 เม.ย.) ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ ทางบริษัทนิกรมารีน ได้โพสต์ข้อความผ่านทางแฟนเพจ “Nikorn Marine” ว่า จากเหตุการณ์เพลิงไหม้เรือเมื่อคืนนี้ ทางบริษัท นิกรมารีน กรุ๊ป ขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า ทางบริษัทยังให้บริการตามปกติทุกโปรแกรม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถระบุได้ว่า เกิดจากสาเหตุอะไร ต้องรอผลจากทางเจ้าหน้าที่ ... นิกรมารีน กรุ๊ป และทีมงานทุกคนขอขอบคุณสำหรับทุกความห่วงใย และกำลังใจจากทุกๆ ท่าน ทุกช่องทาง และขอขอบพระคุณเพื่อนผู้ประกอบการจากอ่าวฉลอง และโบ้ทลากูน ที่ส่งเรือมาช่วยในวันนี้ด้วยค่ะ”
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถาม นายพิสิษฐ์ ปภากิจยศพัฒน์ เจ้าของบริษัทนิกรมารีน กรุ๊ป กล่าวว่า ตนเปิดบริษัทบริการนำนักท่องเที่ยวไปเที่ยวตามเกาะต่างๆ เช่น เกาะเฮ เกาะโหลน เกาะราชาใหญ่ ต.ราไวย์ แต่ละวันหลังจากเรือวิ่งบริการนักท่องเที่ยวเสร็จแล้ว กัปตันเรือก็จะนำเรือมาจอดเทียบท่าอยู่บริเวณที่เกิดเหตุประมาณ 10 ลำ และจะมีคนนอนเฝ้าเรือ 1 คน
ขณะเกิดเหตุตนนอนพักผ่อนที่บ้านพัก ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือสปีดโบตที่จอดเทียบท่าอยู่ จำนวน 6 ลำ จึงรีบเดินทางมาตรวจสอบ เห็นเจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำสกัดเพลิง แต่เพลิงได้โหมไหม้เรือเสียหายวอด จำนวน 5 ลำ และเสียหายเล็กน้อยอีก 1 ลำ และลูกน้องคนเฝ้าเรือบาดเจ็บ 1 คน ในเช้าวันนี้ตนก็ยังเปิดให้บริการตามปกติเนื่องจากลูกค้าได้จองมาล่วงหน้าแล้ว
ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด อาจะเป็นไปได้ทั้งไฟฟ้าลัดวงจร หรือเป็นการวางเพลิง ซึ่งที่ผ่านมา ตนทำธุรกิจไม่เคยขัดแย้งกับใคร โดยสาเหตุที่แท้จริงนั้นจะต้องรอการสรุปอย่างแน่ชัดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลังฐานจังหวัดภูเก็ต ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้แล้ว นำโดย พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ หนูผึ้ง นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ สพฐ.จ.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภูเก็ต นอกจากนั้น ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรฉลอง ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย
จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้เรือสปีดโบต ของบริษัท นิกรมารีน กรุ๊ป ซึ่งจอดเทียบท่าอยู่บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รับความเสียหายรวมทั้งสิ้น 6 ลำ โดยเสียหายทั้งหมด จำนวน 5 ลำ และเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.00 น. วันนี้ (19 เม.ย.) ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ ทางบริษัทนิกรมารีน ได้โพสต์ข้อความผ่านทางแฟนเพจ “Nikorn Marine” ว่า จากเหตุการณ์เพลิงไหม้เรือเมื่อคืนนี้ ทางบริษัท นิกรมารีน กรุ๊ป ขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า ทางบริษัทยังให้บริการตามปกติทุกโปรแกรม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถระบุได้ว่า เกิดจากสาเหตุอะไร ต้องรอผลจากทางเจ้าหน้าที่ ... นิกรมารีน กรุ๊ป และทีมงานทุกคนขอขอบคุณสำหรับทุกความห่วงใย และกำลังใจจากทุกๆ ท่าน ทุกช่องทาง และขอขอบพระคุณเพื่อนผู้ประกอบการจากอ่าวฉลอง และโบ้ทลากูน ที่ส่งเรือมาช่วยในวันนี้ด้วยค่ะ”
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถาม นายพิสิษฐ์ ปภากิจยศพัฒน์ เจ้าของบริษัทนิกรมารีน กรุ๊ป กล่าวว่า ตนเปิดบริษัทบริการนำนักท่องเที่ยวไปเที่ยวตามเกาะต่างๆ เช่น เกาะเฮ เกาะโหลน เกาะราชาใหญ่ ต.ราไวย์ แต่ละวันหลังจากเรือวิ่งบริการนักท่องเที่ยวเสร็จแล้ว กัปตันเรือก็จะนำเรือมาจอดเทียบท่าอยู่บริเวณที่เกิดเหตุประมาณ 10 ลำ และจะมีคนนอนเฝ้าเรือ 1 คน
ขณะเกิดเหตุตนนอนพักผ่อนที่บ้านพัก ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือสปีดโบตที่จอดเทียบท่าอยู่ จำนวน 6 ลำ จึงรีบเดินทางมาตรวจสอบ เห็นเจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำสกัดเพลิง แต่เพลิงได้โหมไหม้เรือเสียหายวอด จำนวน 5 ลำ และเสียหายเล็กน้อยอีก 1 ลำ และลูกน้องคนเฝ้าเรือบาดเจ็บ 1 คน ในเช้าวันนี้ตนก็ยังเปิดให้บริการตามปกติเนื่องจากลูกค้าได้จองมาล่วงหน้าแล้ว
ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด อาจะเป็นไปได้ทั้งไฟฟ้าลัดวงจร หรือเป็นการวางเพลิง ซึ่งที่ผ่านมา ตนทำธุรกิจไม่เคยขัดแย้งกับใคร โดยสาเหตุที่แท้จริงนั้นจะต้องรอการสรุปอย่างแน่ชัดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลังฐานจังหวัดภูเก็ต ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้แล้ว นำโดย พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ หนูผึ้ง นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ สพฐ.จ.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภูเก็ต นอกจากนั้น ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรฉลอง ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย