ศูนย์ข่าวภูเก็ต - บริษัท นิกรมารีน กรุ๊ป กู้เรือที่ถูกไฟไหม้แล้ว ส่วนสาเหตุเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้ง 2 ประเด็น ไฟฟ้าลัดวงจรภายในเรือ และเกิดจากการวางเพลิง
จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้เรือสปีดโบต ของบริษัท นิกรมารีน กรุ๊ป ซึ่งจอดเทียบท่าอยู่บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รับความเสียหาย รวมทั้งสิ้น 6 ลำ โดยเสียหายทั้งหมด จำนวน 5 ลำ และเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.00 น. วันนี้ (19 เม.ย.) ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (19 เม.ย.) พ.ต.อ.นพดล ถิรประวัติ ผกก.สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้ เนื่องจากช่วงเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน ไม่มีผู้เห็นเหตุการณ์ ขณะที่ลูกเรือที่นอนเฝ้าเรือนั้นก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ยังไม่สามารถให้การได้ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำเจ้าของเรือ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทุกรายอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนั้น ยังต้องรอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อนำมาประกอบในการหาสาเหตุที่แท้จริง และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ฉลอง ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ในเบื้องต้น ตั้งประเด็นไว้ 2 ประเด็น คือ ไฟฟ้าลัดวงจรภายในเรือ และเกิดจากการวางเพลิง ส่วนประเด็นอื่นๆ ยังไม่ตัดทิ้ง
ด้าน พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ หนูผึ้ง นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ สพฐ.จ.ภูเก็ต กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เก็บหลักฐาน และตรวจสอบที่เกิดเหตุในเบื้องต้น ต้นเพลิงน่าจะอยู่เรือลำที่ 3 โดยไฟลุกไหม้มาจากบริเวณกลางเรือแล้วลุกลามไปติดเรือที่อยู่ข้างเคียงจนได้รับความเสียหาย แต่ก็ไม่ยังสามารถระบุสาเหตุของต้นเพลิงที่แท้จริงว่า เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร หรือวางเพลิงเผา เนื่องจากเรือยังอยู่ในน้ำ โดยจะต้องนำเรือทั้งหมดมาขึ้นคานก่อน และในวันพรุ่งนี้ (20 เม.ย.) จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
ในส่วน นายพิสิษฐ์ ปภากิจยศพัฒน์ เจ้าของบริษัท นิกรมารีน กรุ๊ป กล่าวว่า ในขณะนี้ทางบริษัทได้ให้ช่างซ่อมเรือมาทำการถอนเครื่องยนต์ออกจากเรือทั้ง 5 ลำ แล้ว และกู้เรือทั้งหมดออกจากที่เกิดเหตุเพื่อนำไปยังคานเรือที่บริเวณชุมโคกโตนด ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง ในเบื้องต้น เรือที่เกิดเพลิงไหม้วอดทั้ง 5 ลำ ยาวประมาณ 40 ฟุต บรรทุกนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 50 คน และเป็นเรือสปีดโบต 3 เครื่องยนต์ มูลค่าความเสียหายประมาณ 25-30 ล้านบาท
“ซึ่งหลังจากเกิดเพลิงไหม้เรือทั้ง 5 ลำ ทางบริษัทไม่ได้มีผลกระทบต่อการให้บริการนักท่องเที่ยวเดินทางไปตามเกาะต่างๆ โดยทางบริษัทได้ขออนุเคราะห์ใช้เรือของพันธมิตรมารับส่งนักท่องเที่ยว แต่อาจจะมีความล่าช้าบ้าง โดยในวันนี้ นักท่องเที่ยวประมาณ 800-1,000 คน ทางบริษัทก็สามารถนำนักท่องเที่ยวไปท่องเที่ยวได้ครบทุกเกาะตามโปรแกรมท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวแต่ละกรุ๊ป และทางบริษัทขอยืนยันว่า บริษัท นิกรฯ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติไม่ได้ปิดรับนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด