xs
xsm
sm
md
lg

ประมงลอบปูม้ายื่นหนังสือผู้ว่าฯ ขอผ่อนผันใช้ พ.ร.ก.ใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ประกอบการเรือประมงลอบปูม้า เดือดร้อน ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ ภูเก็ต ขอผ่อนผันของกลุ่มเรือประมงพาณิชย์ขนาดเล็ก (เรือลอบปูม้า) เนื่องจากมีการเปลี่ยนพระราชกำหนดใหม่

เมื่อเวลา 10.10 น. วันนี้ (11 เม.ย.) ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต กลุ่มเรือประมงพาณิชย์ขนาดเล็ก (เรือลอบปูม้า) นำโดย น.ส.ปัญญพัฒน์ ศิริวัฒน์ ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการเรือประมงลอบปูม้า และชาวประมงกว่า 20 ราย เข้ายื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์ผ่อนผันของกลุ่มเรือประมงพาณิชย์ขนาดเล็ก (เรือลอบปูม้า) ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผ่าน โดย ดร.ประเจียด อักษรธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นตัวแทนรับหนังสือ

น.ส.ปัญญพัฒน์ ศิริวัฒน์ ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการเรือประมงลอบปูม้า กล่าวว่า เนื่องด้วยกลุ่มผู้ประกอบการเรือประมงลอบปูม้า ซึ่งจอดเรือบริเวณแพก้อง และใกล้เคียง ม.7 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต มีเรือผู้ประกอบการโดยประมาณ 30 ลำ ประกอบด้วย เรือที่มีขนาดตั้งแต่เรือประมงพื้นบ้าน และเรือประมงพาณิชย์ขนาดไม่เกิน 30 ตันกรอสลงมา ซึ่งพวกเราเคยทำมาหากินกันมานานนับสิบปี เรือของพวกเราเคยจัดเป็นการทำประมงพื้นบ้าน อุปกรณ์ลอบปูม้าที่ใช้ก็พัฒนา และให้ความร่วมมือต่อกรมประมง และส่วนราชการให้ใช้ทุกครั้งเสมอมา แต่มาครั้งนี้สืบเนื่องจากได้มีประกาศพระราชกำหนดการประกอบอาชีพและเรื่องเครื่องมือของเรือประมงเรือลอบปูม้ามาใช้ใหม่ โดยเรือของพวกเราต้องมาจัดเป็นเรือประมงพาณิชย์ต้องเข้ากฎดังกล่าว ซึ่งนำมาถึงความเดือดร้อนอย่างมากของพวกเรากลุ่มเรือประมงลอบปูม้า โดยให้ช่วยทางจังหวัดภูเก็ต ผ่อนผันความเดือดร้อนที่จะต้องเปลี่ยนแปลงเครื่องมือประกอบการ และแนวเขตการลอบวางปูม้าตามข้อเรียกร้องดังนี้

1.ปัญหาให้เรือประมงพาณิชย์ขนาดเล็กไม่เกิน 30 ตันกรอส (เรือลอบปูม้า) ไม่สามารถปฏิบัติตามพระราชกำหนดใหม่ได้ คือ การกำหนดจำกัดพื้นที่แนวเขตวางลอบปูในระยะที่ต้องเกินกว่า 3 ไมล์ทะเล 2.ขอชะลอระยะเวลาการจับกุมผู้ประกอบการเรือลอบปูม้า 3.ขอยื่นระยะเวลาขยายขนาดตาอวนลอบปูม้าให้ตรงตามพระราชกำหนด

สำหรับแนวทางการแก้ไข และขอความช่วยเหลือ ประกอบด้วย 1.ขอความอนุเคราะห์ขยายแนวเขตวางลอบปูให้น้อยกว่า 3 ไมล์ทะเล เพราะจังหวัดภูเก็ตเราเป็นจังหวัดที่เกาะล้อมรอบ ในการวางลอบปูม้าจึงมีพื้นที่จำกัด หากไปอยู่รวมกับเรืออวนลาก และเรืออวนลากมักจะลากลอบปูม้าติดไปด้วยเสมอ จึงทำให้เรือลอบปูม้าเสียหายเป็นจำนวนมากอยู่บ่อยครั้ง และอีกอย่างหากวางลอบปูในแนวเขตดังกล่าวปูม้าจะหาได้ยากมาก เพราะปูม้าจะไม่อยู่ในน้ำลึก จึงขอลดแนวเขตพื้นที่การวางลอบในระยะน้อยกว่า 3 ไมล์ทะเล

2.ขอขยายเวลาดำเนินการจับกุมตามพระราชกำหนดใหม่ เพื่อที่ชาวประมงลอบปูม้าจะเปลี่ยนแนววางลอบปู และขยายขนาดตาอวนของลอบปูม้าให้ถูกต้อง ก่อนที่ทางราชการ หรือคณะกรรมกรรมการประมงจังหวัดเข้ามาจัดสรรพื้นที่ให้เรือลอบปูม้าจนแล้วเสร็จ 3.ขอยืดระยะเวลา และเปลี่ยนขนาดตาอวนลอบ เพราะหากให้เปลี่ยนแปลงตามประกาศเลย ณ ตอนนี้ที่ออกกฎแล้วประกาศจับ ปรับมาก และยึดเครื่องมือทำกินนั้น พวกเราคงเปลี่ยนแปลงไม่ทันเพราะลอบที่ขนาดตาอวนดังกล่าวยังไม่ค่อยมีจำหน่ายในท้องตลาด และในขณะนี้การผลิตก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการ และประการสำคัญคือ ในการเปลี่ยนลอบปูแต่ละครั้งต้องใช้เงินเป็นทุนจำนวนมาก เช่น ลอบปู จำนวน 2,500 ลูก ราคาลูกละโดยประมาณ 86 บาท รวมเป็นเงิน 215,000 บาท โดยประมาณต่อเรือลำเรือ จึงส่งผลต่อความเดือนร้อนของผู้ประกอบการเรือประมงลอบปูม้าเป็นอย่างมาก

“หากเจ้าหน้าที่เริ่มจับกุมผู้ประกอบการเรือประมงลอบปูม้าเลยตามประกาศแล้วนั้น ทั้งที่พวกเราพร้อม และยินดีให้ความร่วมมือที่จะปรับปรุง และแก้ไขพร้อมกันเสนอ ผลจึงทำให้พวกเราไม่กล้าออกไปทำมาหากินกลัวโดนจับกุม จึงส่งผลต่อความเดือดร้อนกันถ้วนหน้าทั้งเจ้าของเรือ ไต๋เรือ ลูกจ้างทุกคน อีกทั้งช่วงนี้ภาวะเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก ทุกคนต่างมีภาระครอบครัว ค่าใช้จ่ายต่างๆ และหนี้สินอื่นๆ อีกทั้งช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม พ่อแม่ทุกคนต่างก็ต้องหาเงินเพื่อเลี้ยงครอบครัว ค่าเทอมลูก ค่าใช้จ่ายอื่นๆ และหนี้สินอีกมากมาย หากพวกเราหยุดไม่ไปออกเรือกันแล้วพวกเราจะหาเงินที่ไหนมาเลี้ยงครอบครัว หรือปลดหนี้ ทั้งที่พวกเราเป็นประชาชนชาวไทยผู้ซึ่งที่ประกอบอาชีพที่สุจริต” น.ส.ปัญญพัฒน์ กล่าวในที่สุด

ด้าน ดร.ประเจียด อักษรธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังรับหนังสือ ว่า ตนได้ทราบเรื่องนี้แล้ว โดยจะนำเรื่องดังกล่าวเรียนให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตทราบ และคาดว่าจะน่าเรียกประชุมคณะกรรมการชุดที่ทางจังหวัดภูเก็ตแต่งตั้งขึ้นมาดูแลเรื่องนี้ในเร็วๆ นี้
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น