ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ทีมชาโด้เรือหางยาว ชนะเลิศแข่งขันตกปลาจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 7 โดยเทศบาลนครภูเก็ต ร่วมกับชมรมตกปลาฯ จัดขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มความหลากหลายทางการท่องเที่ยว เกิดการอนุรักษ์ภูมิปัญญาอาชีพชาวประมงพื้นบ้านท้องถิ่นให้คงอยู่ และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่บริเวณชายหาดปลายแหลมสะพานหิน อ.เมืองจ.ภูเก็ต นายประเจียด อักษรธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นายธวัชชัย ทองมั่ง ปลัดเทศบาลนครภูเก็ต ฝ่ายบริหาร ประธานสภา สมาชิกสภา ตลอดจนข้าราชการ และพนักงานเทศบาลนครภูเก็ต และนายก่อเกียรติ อุณหะไวทยะ ประธานชมรมตกปลาจังหวัดภูเก็ต และคณะกรรมการชมรมฯ ร่วมให้การต้อนรับผู้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาตกปลา รวมทั้งแขกผู้มีเกียรติจากส่วนราชการต่างๆ สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไปที่เดินทางเข้าร่วมงานพิธีมอบรางวัลการแข่งขันกีฬาตกปลาจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 7 ซึ่งทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 2-3 เม.ย.2559
ทั้งนี้ การแข่งขันตกปลาจังหวัดภูเก็ต จัดมาแล้ว 6 ครั้ง โดยชมรมตกปลาจังหวัดภูเก็ต สำหรับปีนี้เป็นการจัดงาน ครั้งที่ 7 ซึ่งเทศบาลนครภูเก็ต ร่วมเป็นเครือข่าย ภายใต้โครงการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น และระดับจังหวัด เกิดความสมานฉันท์ และความสามัคคีระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน ตลอดจนสนับสนุนนโยบายรัฐบาลด้านการบริการ และการท่องเที่ยว เพื่อความหลากหลายของการท่องเที่ยวรูปแบบต่างๆ ตลอดจนเกิดการอนุรักษ์ภูมิปัญญาอาชีพชาวประมงพื้นบ้านท้องถิ่นให้คงอยู่ และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
สำหรับกิจกรรมในการแข่งขันกีฬาตกปลาในครั้งนี้ มีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันตกปลา ประเภทเรือเร็ว และเรือยนต์ จำนวน 24 ทีม และเรือหางยาว จำนวน 20 ทีม 1 ทีม จะมีนักกีฬาไม่เกิน 5 คน แบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทเรือเร็ว และเรือยนต์ รางวัลในการแข่งขัน คือปลาเกมน้ำหนักสูงสุด มี 14 รางวัล โดยรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีมตี๋น้อย ทำน้ำหนักได้สูงสุด 6.675 กก. และประเภทเรือหัวโทง (หางยาวและเครื่องวางท้อง) รางวัลในการแข่งขัน ชนะเลิศปลาเกมน้ำหนักสูงสุด พร้อมเงินรางวัล ได้แก่ ทีมชาโด้หางยาว ทำน้ำหนักได้สูงสุด 19.210 กก. และชนะเลิศประเภทปลารวมมากที่สุด พร้อมเงินรางวัล ได้แก่ ทีมชาโด้หางยาว
ทั้งนี้ ปลาที่ตกมาได้ทั้งหมดทางชมรมตกปลาฯ และผู้เข้าร่วมแข่งขันได้นำออกมาประมูลเพื่อนำรายได้สนับสนุนการศึกษาให้แก่โรงเรียนเทศบาลวัดขจรรังสรรค์ ต่อไป
นายประเจียด อักษรธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของทะเลไทย และพื้นที่บริเวณชายฝั่ง ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สำหรับจังหวัดภูเก็ต มีชายฝั่งทะเลอันดามันในมหาสมุทรอินเดีย ได้ถูกนำมาพัฒนาทางการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง และสร้างรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวนมาก และหนึ่งในกิจกรรมท่องเที่ยวทางทะเลคือ กิจกรรมการตกปลา การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐานสากล เชื่อมโยงกับศิลปวัฒนธรรม และเอกลักษณ์ของจังหวัด โดยคำนึงถึงขีดจำกัดของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยการยกระดับภูเก็ตให้เป็น “ศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลกที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีเอกลักษณ์วัฒนธรรม และมีการพัฒนาที่ยั่งยืน” ถือว่าเป็นเรื่องท้าทายที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน
อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันทุกทีมที่มีส่วนในการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกหนึ่งมิติของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ภายใต้การมีส่วนร่วมขององค์กรภาครัฐ และภาคประชาชน
ด้าน น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันตกปลาจังหวัดภูเก็ต ได้จัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ปีนี้เป็นปีที่ 7 แล้ว มีจำนวนผู้เข้าร่วมการแข่งขันเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี โดยในปีที่ผ่านมา มีผู้สมัครเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน 33 ทีม แต่ในปีนี้มีผู้สมัครเข้าร่วมการแข่งขันถึง 44 ทีม แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการมีส่วนร่วมขององค์กรภาครัฐ และภาคประชาชนต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเล ตลอดจนการส่งเสริมอาชีพการประมงทางทะเลให้คงอยู่ต่อไป เป็นการสร้างคุณค่าทางวัฒนธรรม และวิถีชีวิต ก่อให้เกิดความยั่งยืนให้แก่ชุมชน และคนท้องถิ่นให้คงอยู่